ไหม้เกรียนด้วยแสงแดดแผดเผา
ไม่มีีธารน้ำ ดอกไม้ ทุ่งหญ้า และความร่าเริง
เห็นแต่ผืนทรายกับเนินเขาหัวโล้นร้านผะผ่าว
อ้างว้าง...สุดเดียวดาย
โลกมิน่าเป็นเ่ช่นนั้นเลย
ภูมิรู้มากมายเกาะกอดอยู่เต็มตัวตน
ประสบการณ์สะสม สะสม
เก็บรับสู่ความทรงจำ ไร้ขอบเขต
บัดนี้ ความขาดแคลนยืนอยู่เบื้องหน้า
ศรัทธาในมนุษย์หล่นแตกกระจาย
โลกมิน่าเป็นเช่นนั้นเลย
ระงมบ่มทุกข์ ขลุกอยู่ในโลกร้อน ร้อน
ไร้ความเย็นเล้าโลม ในแต่โมงยาม
ความเกลียดชังตั้งเค้าทะมึนทึน
ระอุไอด้วยกลิ่นความสูญเสีย
ไหม้ลามเลียอยู่ทุกขณะ
โลกมิน่าเป็นเช่นนั้นเลย
โอ้หนอ มวลมนุษย์
เหตุใดจึงอับจนปัญญาถึงเพียงนี้
อำนาจ เงินทอง ที่พวกเราครอบครองอยู่
นำความมืดบอดมาสู่เรา...
ลูกหลานเหลนโหลน
โลกมิน่าเป็นเช่นนั้นเลยฯ
ไม่ได้แวะมาอ่านหลายวัน ยังคมกริบเหมือนเดิม แล้วจะตามไปอ่านบันทึกอื่นๆย้อนหลัง...หว่างนี้ยุ่งหูจี้ครับ
ครับ ชื่นชมในผลงาน ผมเองก็มีแนวคิดเช่นนี้ ตอนนี้ นำเสนอ ผ่าน http://www.nature-dhama.ob.tc ผมคิดว่าแนวคิดตรงกันอย่างนี้ ฝากความคิดผ่านมาให้ผมบ้างเป็นพระคุณยิ่ง
ขอชื่นชมอีกครั้งครับ