คติเตือนใจที่ข้าพเจ้าได้เห็นจากงานศพของพ่อใหญ่เมื่อวานนี้ก็คือ “สมบัติ” ที่ถูกนำมากองแล้ว “เผา...”
หลังจากที่จุดไฟเผาศพพ่อใหญ่แล้ว พี่น้องอีกกลุ่มหนึ่งก็นำกระเป๋าเสื้อผ้า มุ้งหมอน ที่นอน อะไรต่ออะไรของพ่อใหญ่มากองรวม ๆ กันแล้ว “เผาทิ้ง”
ข้าพเจ้าตั้งคำถามกับตัวเองว่า แค่นี้นะหรือ ชีวิตของคนคนหนึ่ง ที่ต้องทำการเพื่อการได้มาซึ่งอะไรต่ออะไร สุดท้ายก็ “แค่นี้...”
ข้าพเจ้าเห็นกระเป๋าหนังสีดำ เสื้อผ้าใส่กระเป๋าทหารสีเขียว กับสิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัวที่ “ไม่มีค่า” นำมาถูกกองรวมกันแล้วจุดไฟเผา
ข้าพเจ้ายังตั้งคำถามอีกว่า แล้วของที่มีค่าล่ะ “ไปไหน...?”
อันนี้ข้าพเจ้าก็ไม่สามารถไปหาคำตอบได้ อาทิเช่น โทรศัพท์มือถือ สตางค์ที่น่าจะมีติดตัวอยู่ ทีวี โทรทัศน์ เครื่องมือช่าง สิ่งเหล่านี้ไม่ได้นำมาถูกเผาด้วย แล้วไปไหน พ่อใหญ่เอาติดตัวไปด้วยได้หรือไม่...?
ครั้นเมื่อไฟไหม้บ้าน สิ่งของอะไรที่ถูกขนออกมาได้ สิ่งนั้นก็ยังมีค่า
เปรียบได้กับร่างกายนี้ถูกความแก่ ความชรา และความเจ็บไข้เผารุมอยู่ สิ่งใดที่จะนำติดตัวไปยังสัมปรายภพได้ สิ่งนั้นจึงเป็นสิ่งที่ “มีค่า” อย่างแท้จริง...”
ไม่มีความเห็น