"อุ๊ย....อะไรหนะ กินได้มั๊ย"
ประโยคนั้นคุ้นหูเป้นอย่างดีเวลาที่ในห้องทำงานของสอน.เรามีของกินวางไว้ที่ใดที่หนึ่ง (ปกติเป็นโต๊ะทำงานของอ้อยใจ ^_^) พูดเสร็จ ร่างเล็กของน้องชายอีกคนในสอน.ก็จะยิ้มร่า แล้วเดินไปเปิดๆถุงพลาสติกดูอย่างระมัดระวัง
ถ้าหิวอยู่ เขาก็จะกินและยืนอยู่ตรงนั้น แต่ถ้าไม่...เขาก็จะนั่งคุยสนุกเอ่ยถึงคนโน้นคนนี้อย่างออกรสออกชาติ นั่นเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของเขา น้องติ๊ก....จพ.ทัณตะสาธารณสุข
ตอนเจอน้องติ๊กใหม่ๆ เรายกมือใหว้น้องติ๊กเพราะถูกแนะนำว่าเป็นรุ่นพี่ แต่่่คุยกันได้ซักพัก น้องติ๊กกลับอ่อนกว่าเราหลายปี ..... น้องติ๊ก...ทำงานคล้ายเรา คือเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เก่งเรื่องในปาก ห้องทำงานของน้องติ๊กถือได้ว่าเป้นห้องที่ไฮโซสุดๆยิ่งกว่าใครในสอน. เป็นห้องเดี่ยวกว้างๆ ติดแอร์ มีโต๊ะทำงานเป้นของตัวเอง
ทว่า....ไม่ยักกะมีใครยอมเข้าไปขลุกอยู่ในห้องนั้น หนึ่งหละเราคิดว่ากลิ่นแอลกอฮอล์มันรุนแรงเกินไป และตัวเราเองก็มีความทรงจำที่ไม่ดีเกี่ยวกับยูนิตทำฟัน บางครั้งแม้น้องติ๊กจะเชื้อเชิญ เราก็ยังไม่อยากเข้้าไปอยู่ดี ...ไม่ชอบกลิ่นแอลกอฮอล์
แม้จะเป้นหมอฟันคนเก่งประจำสอน. แต่น้องติ๊กกลับสามารถเป็นได้หลายอาชีพในเวลาเดียวกัน อยู่จ่ายยาก็ได้ เย็บแผลก็เป็น เรื่องเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ขอให้บอก ชำนาญพอๆกับการถอนฟัน
น้องติ๊กเคยบอเราว่า
"อยู่ที่อนามัยเราจะต้องทำได้ทุกอย่าง"
ฟังแล้วละอาย..... เพราะเราจมปลักอยู่ห้องนวด เอาแต่นวด ประคบ ประคบ นวด ขุดดิน ทำสวน ห่อลูกประคบ เรื่องของทางบ้านใหญ่ (ตัวอาคารที่อยู่ด้านหน้า) เราไม่ค่อยอยากมาสุงสิง มีบ้างที่เดินเฉียดมาดูน้องทำแผลแล้วหัวใจจะวายตาย เราไม่ชอบกลิ่นแอลกอฮอล์เอาซะเลย (เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี หึหึ)
น้องติ๊กเป้นคนต่างอำเภอเหมือนเรา เลยต้องมาพักที่บ้านพักของสอน. บ้านที่น้องติ๊กอยู่ก็อยู่ข้างๆเรานี่เอง
ตอนเรามาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ จนกระทั่งตอนนี้เวลาจะกลับบ้าน ก็ได้อาศัยรถน้องติ๊กไปต่อรถที่ภูเวียงในวันศุกร์อยู่บ่อย ๆ
"พี่นีไปยังไง ใครจะไปส่ง ไปกับติ๊กมั๊ย จะออกไปเหมือนกัน "
ประโยคนี้ฟังทีไรแล้วรุ้สึกยิ้มแก้มปริ เรามักจะเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มว่าไป.... บางทีก็อ้อนน้องติ๊กบ้างว่าไปส่งหน่อยนะ .... มีน้องชายให้อ้อนแล้วรู้สึกเหมือนเราเป้นครอบครัวเดียวกัน
น้องติ๊กเคยบอกกับเราว่าเหมือนพี่นีมาอยู่นี่น๊านนาน....ตรงกับความรู้สึกของเราที่รู้สึกว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่นานจริงๆ แม้อายุการทำงานของเราพึ่งจะขึ้นเดือนที่แปดก็เหอะ
นั่นคงเป็นเพราะพวกเราอยู่ในวัยที่ใกล้กัน เลยสนิทกันเร็ว คุ้นเคยกันไว ....เลยรู้สึกว่ารู้จักกันมานานแสนนาน .....บางที....เราอาจจะเคยรู้จักและคุ้นเคยกันมาหลายภพหลายชาติแล้วก็เป็นได้ใครจะรู้
"พี่นี...นอนมากสมองจะบวมนะแล้วมันก็จะ ...บลาๆๆๆๆ"
น้องติ๊กมักจะเอ่ยประโยคนี้ซ้ำๆเวลาที่เราเก็บของขึ้นมาบ้านพักและตั้งท่าจะไปนอนในเวลาเลิกงาน เราก็จะฟังอย่างยิ้มๆ ด้วยไม่แน่ใจว่าน้องพูดจริงหรือแค่พูดขู่ให้เรากลัว
แต่สิ่งที่เราสัมผัสได้จากน้ำเสียงนั้น
........ คือความหวังดีที่ส่งเป็นคลื่นเสียงเข้ามากระทบเซลล์รับสัมผัสในหูชั้นกลางของเรา
สิ่งที่ตอบน้องติ๊กออกไป
คงเป็นแค่เพียงร้อยยิ้มบางๆกับความรู้สึกอบอุ่นที่น้องติ๊กเผื่อแผ่มาถึง (^_^)
น้องติ๊กนั่งอยู่ข้างหลัง
p'นี อย่านอนมาก มันไม่ดี นะ 5555555
ยังมีอีกมากมายก่ายกอง
ต้องคิดก่อน
ไม่สิๆๆๆ มันเยอะซะจนล้นสมองเลย
ไม่ต้องคิด ก็มองเห็นภาพแล้ว
ถ้าจะให้บรรยายจริงๆ มันมากมายกว่านี้จริงๆ 55+
.........................My Life My LallaBiiyZ.....................
รู้สึกอุ่นๆขึ้นมาทันทีท่ามกลางบรรยากาศที่แสนจะเหน็บหนาว(เวอร์ไปป่าวอ่า)
เหมือนว่าใครบางคนมาก่อกองไฟไว้ใกล้ๆตัว.........................................
Thanks to every story.
ไฟสวาท สุม ทรวง รึป่าว ติ๊ก 555+