การศึกษาพาไปไหน


คนเรามีสิทธิ์มองลงดูผู้อื่นเฉพาะตอนที่ก้มลงช่วยคนที่ล้มให้ลุกขึ้นได้เท่านั้น

       สัปดาห์ก่อน ผมได้รับภาพสวยๆ คลอด้วยดนตรีนิ่มๆ ชื่อ Time to Say Goodbye จากกัลยาณมิตรทางอินเตอร์เน็ต ใต้ภาพมีข้อความที่คัดและแปลจากจดหมายของ        กาเบรียล การ์เซีย มาร์เกส นักประพันธ์ชาวโคลัมเบีย ผู้ได้รับรางวัลโนเบลด้านวรรณกรรมเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ซึ่งเขียนลาเพื่อนๆ เมื่อเร็วๆนี้ ในวัย ๘๓ และกำลังป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ผมอ่านแล้วก็เก็บไว้คนเดียวไม่ได้อีกตามเคย แต่ขอเลือกเฉพาะข้อความที่เกี่ยวกับการศึกษาเท่านั้นมาคุยต่อ

       ข้อความแรกคือตอนที่เขากล่าวว่าเขายินดีที่จะติดปีกให้แก่เด็กๆ แต่หลังจากนั้นเขาจะปล่อยเด็กบินไปเอง....ผมว่า นี่แหละคือหน้าที่ของครู (เหมือนเอมีกับพ่อช่วยลูกๆห่านป่ากำพร้าแม่ให้บินได้ในหนังเรื่อง Fly Away Home)

       ข้อความต่อมา คือ ทุกคนอยากมีชีวิตอยู่บนยอดเขามากจนลืมไปว่าวิธีปีนเขาต่างหากที่สำคัญ

       ประโยคนี้ทำให้นึกได้ถึงกลอนสองวรรคที่จำติดหัวมาตั้งแต่สมัยเป็นเด็กมัธยม ผมพบสองวรรคนี้ในหนังสือเรียนรุ่นเก่ามากๆ (ก่อน พ.ศ. ๒๕๐๐) ซึ่งผมไม่ทันได้เรียน ผมไม่ทราบว่าใครแต่งไว้ตั้งแต่สมัยไหน ทั้งไม่เคยเห็นบทเต็มๆอีกด้วย กลอนสองวรรคนั้นกล่าวว่า การศึกษาพาขึ้นสู่ม้าสูง ยืนหยัดมองดูฝูงมนุษย์เตี้ย

       สองวรรคนี้มีคำสำคัญสามคำ คือ ขึ้น ม้าสูง และ มนุษย์เตี้ย ถ้าสมัยโน้น สองวรรคนี้มีอิทธิพลต่อการกำหนดเป้าหมายของการศึกษา อิทธิพลนั้นก็ได้ยืนยาวข้ามยุคมานานมาก นานเหลือเกิน เพราะเราได้พบในทุกวงการมาตลอดว่า มีการแก่งแย่งแข่งขันขึ้นสู่ม้าสูง แบบที่กติกากลายเป็นเศษกระดาษที่ไร้น้ำยาไปบ่อยๆ ผลลัพธ์ที่ปรากฏก็คือ เรามีผู้ทรงเกียรติในสภาจำนวนหนึ่งขึ้นสู่ม้าสูงหรือยอดเขาด้วยการซื้อเสียง ในสถาบันการศึกษาระดับต่างๆ เรามีผู้ดำรงตำแหน่งทางวิชาการจำนวนหนึ่งที่มี วุฒิ แต่ไม่มี ภูมิ หรืออย่างที่เคยได้ยินเพื่อนร่วมอาชีพกล่าวในที่ประชุมคณาจารย์ครั้งหนึ่งว่า “...ฟอร์มดีแต่ไม่มีคอนเทนต์” และล่าสุด โปรเฟสเซอร์ที่รับเชิญมาบรรยายในมหาวิทยาลัยเปิดใหม่ไม่ถึงห้าปี ได้แวะมาสนทนาด้วยสองชั่วโมงก่อนบินกลับบ้าน เขาปรารภอย่างผิดหวังว่า ปริมาณมหาวิทยาลัยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และกระบวนการต่างๆ ได้ทำให้บางแห่งเป็นได้เพียงโรงงานผลิตใบปริญญา(diploma factories)เท่านั้น สอดคล้องกับคำกล่าวของฝ่ายนักศึกษาที่ว่า “จ่ายครบ จบแน่” ซึ่งได้ยินมานานนับสิบปีแล้ว ถึงวันนี้ก็ยังไม่เงียบ

       เมื่อมีผู้ที่ได้ขึ้นม้าสูง ที่เหลือก็คือ มนุษย์เตี้ย กิริยาในการมองมนุษย์เตี้ยจากม้าสูงมีอยู่ท่าเดียวเท่านั้น คือ มองลง (look down) กิริยานี้มีนัยทางชนชั้นและความเหลื่อมล้ำปนอยู่มากบ้างน้อยบ้างหรือไม่มีเลยแล้วแต่ผู้มอง กิริยานี้ มีอยู่ในจดหมายของมาร์เกสด้วย ซึ่งผมขอนำมาปิดท้ายบันทึกนี้ คือ

       คนเรามีสิทธิ์มองลงดูผู้อื่นเฉพาะตอนที่ก้มลงช่วยคนล้มให้ลุกขึ้นได้เท่านั้น

       ผู้มีการศึกษาที่แท้จริงควรเป็นอย่างนี้หรือมิใช่

หมายเลขบันทึก: 421969เขียนเมื่อ 22 มกราคม 2011 22:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

อ่านแล้วชอบความหมายตรงนี้จังครับ

 

คนเรามีสิทธิ์มองลงดูผู้อื่นเฉพาะตอนที่ก้มลงช่วยคนล้มให้ลุกขึ้นได้เท่านั้น

We make education a must for [financial] success in life.

We take advantages [of others] as educated persons.

We say qualification raises our potential [ability] to exploit.

We sleep and walk in our dream -- awake!

  • บทความนี้มีคุณค่ามาก ผมจะจดจำนำไปใช้ครับ
  • ขอบคุณครับที่ไปเยี่ยมเยือนและให้กำลังใจที่บล็อก
  • ปณิธิ ภูศรีเทศ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท