ผลวิจัยชี้คนไทยอ่านหนังสือแค่วันละ 94 นาที เด็ก-ข้าราชการใช้เวลาว่างอ่านมากที่สุด ผู้สูงอายุน้อยที่สุด เด็กไม่อ่านหนังสือระบุเพราะขี้เกียจ เด็กชนบทพ่อแม่จนไม่มีเงินซื้อหนังสือแถมยืมอ่าน หากทำหนังสือขาดถูกปรับ แนะหน่วยงานรัฐเร่งพัฒนาห้องสมุดในชนบท
รศ.ดร.วรรณี แกมเกตุ ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิจัย คณะครุศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า การทำวิจัยในครั้งนี้โดยศึกษาวิจัยจากกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศจำนวน 5,865 คน และจากการจัดประชุมกลุ่มย่อย 156 คน และศึกษากรณีศึกษาที่มีลักษณะนิสัยการอ่านสุดโต่งทั้งกลุ่มที่ชอบอ่านและไม่ชอบอ่านอีกจำนวน 191 คน ซึ่งทั้งหมดมาจากกลุ่มตัวอย่างในพื้นที่ 13 จังหวัด ครอบคลุมทั้ง 4 ภูมิภาคของประเทศไทย
ทั้งนี้ ผลการวิจัยศึกษาพบสถิติที่น่าสนใจที่สะท้อนพฤติกรรมการอ่านของคนไทยหลายอย่าง เช่น โดยเฉลี่ยคนไทยใช้เวลาอ่านหนังสือเฉลี่ย 94 นาทีต่อวัน โดยเด็กและเยาวชนใช้เวลาว่างในการอ่านมากที่สุด อาชีพข้าราชการใช้เวลาว่างอ่านหนังสือมากที่สุด ส่วนอาชีพอื่นๆ เช่น ภิกษุ แม่บ้าน ทหารเกณฑ์ใช้เวลาว่างอ่านน้อยที่สุด รวมทั้งคนอายุ 49 ปีขึ้นไป และพบว่า ผู้ที่อยู่ในเขตเมืองมีดัชนีการอ่านมากกว่าผู้อยู่ในเขตนอกเมือง ในขณะที่เด็กและเยาวชนที่ไม่อ่านหนังสือสะท้อนว่า สาเหตุที่ไม่อ่านเพราะขี้เกียจ แม้จะมีหนังสือ มีสถานที่ให้อ่านก็ไม่อยากอ่าน (จากนสพ.คมชัดลึก)
เห็นด้วยเรื่องการอ่านเป็นเรื่องสำัคัญที่สุดของเด็กๆ ครับ ใครอ่านมาก คนนั้นได้เปรียบ ความคิดชีวิตสังคม ปรับตัวได้เร็วมาก
แวะมาตรวจเยี่ยมห้องสมุดยามสายๆ
พี่ก็เคยทำหน้าที่นี้มาก่อน อ่านแล้วรู้สึกเหมือนกันเลยว่าคนไทยเราไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือทุกชนิด....
ผิดกับพี่ที่ชอบอ่านๆๆๆๆและอ่าน เห็นอะไรเป็นต้องขออ่านก่อนไม่ว่าจะป้ายตามข้างถนน โฆษณาต่างๆ เศษกระดาษ ไม่ว่าอะไรที่มีตัวหนังสือติดอยู่ตาต้องจับเขม็ง เป็นการฝึกสมองและฝึกจับใจความด้วยเนาะเพราะอ่านได้เร็วมาก อิๆๆๆๆ
หนาวๆแบบนี้เรียนกลางสนามก็ได้นิ....อุ่นดี
สวัสดีค่ะพี่kruposong
เด็กๆน่ารักมากค่ะ
ผู้ปกครองทำเป็นแบบอย่างน่าจะช่วยให้เด็กรักการอ่านวิธีหนึ่งนะค่ะ พาเด็กแวะร้านหนังสือบ่อยๆน่าจะดีค่ะ
คุณครูสบายดีนะค่ะ ขอบคุณบันทึกดีๆส่งเสริมการรักการอ่านนี้ค่ะ