ฟิกส์ หรือ มะเดื่อฝรั่ง


ใต้ฟ้าเมืองไทย

 

 

 

 ถ้าพูดถึง  "ฟิกส์"  หรือ  "ผลฟิกส์" เชื่อว่าหลาย ๆคนคงไม่เคยได้ยิน  ไม่รู้จัก  แต่ถ้าบอกว่า "มะเดื่อฝรั่ง" หรือ " มะเดื่อญี่ปุ่น" คงเคยได้ยินชื่อบ้าง และเชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจเคยรับประทานมะเดื่อฝรั่งบ้างแล้ว

 

     

        หน้าตาของผลมะเดื่อฝรั่งหรือมะเดื่อญี่ปุ่นก็เหมือนกับในภาพนี้  แต่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในวงกว้าง บันทึกนี้จึงขอเล่าสู่กันฟังถึงเรื่องมะเดื่อฝรั่ง จากการค้นคว้ามาฝากผู้อ่าน  ดังนี้

         มะเดื่อฝรั่งที่ปลูกกันในประเทศไทย มีหลายสายพันธ์ สายพันธุ์ญี่ปุ่นเป็นสายที่ได้รับความนิยม โดยเป็นพันธุ์ที่ผ่านการปลูกทดสอบในไทยมานานหลายปีแล้ว พร้อมทั้งเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลทางวิชาการตามหลักวิทยาศาสตร์อย่างถูกต้อง และพบว่าพันธุ์นี้เป็นพันธุ์ที่ดีเด่นมากพันธุ์หนึ่ง  ในบรรดาพันธุ์ที่นำมาทดสอบทั้งหมด

         พบว่าพันธุ์นี้สามารถปรับตัวได้ดีกับสภาพภูมิอากาศในบ้านเรา สามารถติดผลดกมากได้เองไม่ต้องมีการผสมเกสรโดยแมลง (partenocarpic) ไม่ต้องปลูกหลายต้น แม้มีเพียงต้นเดียวก็ติดผลได้ ทนร้อน ชอบแดดจัดทั้งวัน ไม่ชอบร่มเงา ผลไม่มีร่วงหรือสลัดผลทิ้ง ขั้วผลเหนียว ขนาดผลประมาณเท่าไข่ไก่หรือไข่เป็ด ( 1-1.5 ขีดต่อผล หรือ 7-10  ผลต่อกก. )

        เมื่อสุกผิวผลแดงจัดถึงม่วงเข้ม เนื้อในสีแดงสตรอเบอรี่ เมล็ดเล็กลีบกรุบกรอบทานได้ ผลใช้ทานสดๆ รสชาติจะหวานเข้มข้น ไม่มีเปรี้ยวปนแม้แต่นิด หอมคล้ายกลิ่นกุหลาบ เนื้อละเอียดแทบละลายในปากโดยเกือบไม่ต้องเคี้ยว เมื่ออบแห้ง ตากแห้ง จะมีสีเกือบดำ รสชาติหวานจัด เนื้อเนียนละเอียด

    เมื่อทำการแปรรูปต่างๆ เช่น ทำแยมผลไม้ บรรจุกระป๋อง ลอยแก้ว แช่อิ่ม ผสมในชาคล้ายชาไข่มุก ผสมในการทำน้ำผลไม้ปั่น หรือใช้เป็นส่วนผสมในการทำขนมทดแทนลูกเกดได้ดี จะให้ผลิตภัณท์ที่มีสีสวย ออกไปทางแดงหรือม่วง
 

 

คุณค่าทางอาหาร:
           มะเดื่อฝรั่งมีคุณค่าทางอาหารสูงสุดจัดอยู่ในสิบอันดับแรกของผลไม้ที่มีในโลก มีประวัติการปลูกมาตั้งแต่สมัยก่อนคริสตกาล(มากกว่า 2000 ปี) มีสารอาหารที่มีคุณประโยชน์กับร่างกายมากมาย ในตำนานยุโรป และ ตะวันออกโบราณได้มีการจารึกไว้ว่า ชาวกรีก ชาวโรมัน และ ชาวอียิป ได้ให้ผลฟิกส์แก่นักรบกินระหว่างอาหารทุกมื้อเพื่อกระตุ้นความแข็งแกร่งของกระดูกและกล้ามเนื้อ เพิ่มทักษะ ปฏิภาณ ไหวพริบ และ กำลังวังชาเมื่ออยู่ในสนามรบ

 

 

  มะเดื่อฝรั่ง หรือ figs นับเป็นผลไม้ที่น่าสนใจ อีกทั้งยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากด้วย  แต่ปัจจุบันยังไม่เป็นที่แพร่หลายในวงการเกษตรบ้านเรานัก เชื่อว่า อีกไม่นาน เกษตรกรไทย ๆ ของเราคงผลิตมะเดื่อฝรั่งออกมาจำหน่ายในท้องตลาดได้ไม่แพ้ผลไม้ต่างประเทศอื่น ๆ อย่างแน่นอน

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.ebusitrade.com/Figs_index.htm

 ขอบคุณภาพประกอบจาก : google

 

 

คำสำคัญ (Tags): #ใต้ฟ้าเมืองไทย
หมายเลขบันทึก: 419500เขียนเมื่อ 10 มกราคม 2011 22:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 กันยายน 2013 21:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

ไม่เคยได้ยินฟิกส์ แหม นึกไปถึงเจ้าวิชา ฟิสิกส์ สุดยากโน่นเลยค่ะ

อ่านแล้วได้ความรู้จังค่ะ figs, rigs, gigs and big เอรสชาติจะคล้ายเสาวรสไหมเอ่ยคะ

ได้กินครั้งแรกเมื่อไปคุนหมิง  สมัยนั้นยังไม่มีใครรู้จักและราคาไม่แพง ถามคนขายว่าเขาเรียกว่าอะไร  เขาบอกว่า..มะเขือ...เลยเรียกมะเขือตั้งแต่นั้นมา

พอมาหลังๆมาหาซื้อตามห้างเลยรู้จักชื่อ...ฟิกส์

เดี๋ยวนี้ราคาสูงขึ้นแต่ความอร่อยยังคงเดิมค่ะ

สวัสดีคุณ Ico48  รู้จัก และรู้รสชาติของ figs นะว่าหน้าตาสวยดี รสชาติก็อร่อย แต่ ไม่รู้จัก   rigs, gigs and big  จึงตอบไม่ได้ว่าจะเหมือนเสาวรสหรือไม่ใครรู้จักบ้าง  กรุณาบอกด้วยนะ   ขอบคุณที่มาพูดคุยกัน

สวัสดีคุณ Ico48  (ชื่อภาษาอังกฤษอ่านยากจัง .... ชื่ออะไรหนอ ไม่เก่งภาษาอังกฤษ  กรุณาบอกหน่อย )  ขอบคุณที่เข้ามาพูดคุยกัน  มะเดื่อฝรั่ง ยังไม่เป็นที่แพร่หลายในเมืองไทย จึงยังไม่ค่อยมีใครรู้จัก  แต่อีกไม่นานคิดว่าคงมีให้ซื้อหาได้ง่ายขึ้น

เคยทานเจ้า fig อบแห้ง ไม่ชอบค่ะ จั๊ก-กะ-จี๋ เคี้ยวแล้วแห้งๆหวานๆเจอแต่เมล็ดเต็มไปหมด ไม่มีเนื้อ

ส่วนเสาวรสเคยทานแบบสดๆ ตอนนี้มีขายเยอะแล้วของโครงการหลวง ก็แปลกๆดี เมล็ดลื่นๆ หอมแปลกๆ ผ่ากลางผลแล้วใช้ช้อนตักเมล็ดทาน (มีเนื้ออันน้อยนิดเคลือบเมล็ด) แล้วคายเมล็ดออกเมล็ดเยอะแยะเหมือนกัน แต่เมล็ดใหญ่กว่า fig มาก

สรุปแล้วน้อยหน่า อร่อยกว่าค่ะ  ไปทางเดียวกันไหมนี่ :)

สวัสดีคุณ Ico48 ชื่อเป็นภาษาอังกฤษอีกแล้ว ขออภัย ไม่เก่งเรื่องภาษาจึงสะกดไม่ลงตัวนะ  แต่ก็ต้องขอบคุณที่เข้ามาร่วมวงสนทนาในบันทึกนี้  ผลไม้ทุกอย่างก็จะมีคุณสมบัติเฉพาะตัวต่างกันไป สุดแต่ใครจะชอบแบบไหน ดีทุกอย่าง

สวัสดี Ico48  เปิดบันทึกมาก็ชื่นตาชื่นใจกบดอกลั่นทมสวย ๆ ขอบคุณมาก ๆ

 

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท