6 ม.ค. 54 เวลา 12.30 น. ได้มีโอกาสยลความสวยงามของกล้วยไม้ป่าช้างกระ ณ วัดป่า อำเภอมัญจาคีรี
สวยงามมากครับ
หลังจากได้ชมความงามของกล้วยไม้แล้วรู้สึกหวงแหนสิ่งดีดีที่เกิดขึ้นในบ้านเกิดของตัวเองแต่นั่นแหละครับความงามตามธรรมชาติอย่างนี้มันชอบมีพวกคนเลวอยากมีไว้ในครอบครองขบวนการของคนเลวก็จะเกิดขึ้นโดยประกอบด้วยคนที่พร้อมจะขโมยเพื่อนำมาขายและคนที่พร้อมจะซื้อทั้งที่รู้ว่าเขาขโมยมาพวกมันคิดได้อย่างไรในเมื่อเขามีความงามตามธรรมชาติเขาไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่งเขาเป็นของคนทุกคนไม่ช่วยดูแลไม่ว่านี่ยังจะมาทำลายกล้วยไม้อยู่ในวัดแท้แท้ไม่มีสำนึก ข้าพเจ้าแค่อยากบอกว่าก่อนที่จะทำอะไรไม่ดีให้จำคำที่เขาบอกว่าสำนึกรักบ้านเกิดไว้เถิดทุกท่านถ้ายังมีความคิดที่จะทำชั่วทั้งคนซื้อคนขายแล้วระวังตายไปตกนรกแล้วยมบาลท่านต้องขุดขุมเพิ่มเพราะขุมนรกที่มีมันไม่เพียงพอกับความชั่วที่พวกท่านได้ก่อไว้
...จงเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม มากกว่าประโยชน์ส่วนตน...ถ้าคิดได้อย่างนี้ ก็คงไม่มีใครมาขโมยหรอก ...บทบาทของเราก็คือการทำเรื่องนี้ให้เกิดขึ้นในใจของคนมัญจาคีรีและคนไทยทุกคน
....ฟังเพลง"ตำนานกล้วยไม้ช้างกระ"แล้วซาบซึ้งใจมาก วอนพี่น้องคนไทยทุกคนช่วยกันอนุรักษ์ รักษาไว้ให้ลูกหลานเราในอนาคตได้เห็นความงดงามเช่นนี้สืบต่อไป...
มาเยี่ยมหนองหญ้าข้าวนก ชื่อนี้เป็นพันธุ์ข้าวใช่เปล่าครับ หรือว่า ข้าวทั่วไป แต่ว่านกมากินกันมากเลยได้ชื่อมา
อ้าวยังไม่หมดประเด็น
บ้านพี่ชายที่เมืองกาญจน์ เลี้ยงกล้วยไม้สกุลช้างไว้หลังบ้าน แต่แอบเขียนตำหนิไว้หลังใบ เผลอนิดเดียวหายไป จึงออกตามหา ไปพบที่ตลาดข้างถนนขึ้นล่องน้ำตกเอราวัณโน่น ห่างจากบ้านไม่เกิน กม. เลยขอคืน
ได้ผลครับ ทะเลาะกันยุ่ง ทั้งคนซื้อและคนนำมาขาย
เวรกรรม
เรียนท่านอาจารย์ โสภณ เปียสนิท ผมคงเป็นครูกศน.ที่ไม่ได้เรื่องนะครับไม่ทราบถึงความหมายของหมู่บ้านผมขออนุญาตไปสอบถามข้อมูลจากผู้รู้ในท้องถิ่นก่อนนะครับเรื่องบ้านหนองหญ้าข้าวนกแล้วผมจะมาอธิบายเหตุและผลที่ถูกต้องอีกทีครับ
สำนึกรัก...ให้เกิดกับทุกคนทั่วทุกแห่งด้วยเทอญ...สาธุ