7. ชื่อเรียกอาชีพที่เกี่ยวกับการบริหาร (ทรัพยากรบุคคล)
"ชื่อเรียกอาชีพที่เกี่ยวกับการบริหาร (ทรัพยากรบุคคล)"
หากนึกถึงองค์กรแล้วภาพแรก ๆ ที่อาจจะปรากฏในสายตาของคนโดยทั่วไป คือ ภาพของโครงสร้างองค์กรซึ่งโครงสร้างองค์กรเป็นสิ่งที่กำหนดให้เห็นถึงวัตถุประสงค์และเป้าหมายของธุรกิจ ภาพโดยรวมของตำแหน่งรวมไปถึงอำนาจหน้าที่ของตำแหน่งต่าง ๆ
ชื่อตำแหน่งจัดได้ว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมากและหลาย ๆ คนก็ให้ความสำคัญ เนื่องจากชื่อตำแหน่งจะบอกถึงขอบเขต หน้าที่ความรับผิดชอบ บทบาทและอำนาจหน้าที่ รวมถึงสถานะและการบังคับบัญชาของบุคคลที่ปฏิบัติงานในสายอาชีพนั้น ๆ ทุกสายอาชีพจะมีวิวัฒนาการของชื่อเรียกหรือชื่อตำแหน่งแตกต่างกันไป ซึ่งชื่อเรียกนั้นนอกจากจะบอกให้รู้ถึงวิวัฒนาการของสายวิชาชีพนั้น ๆ แล้วยังบอกให้รู้ถึงความสำคัญหรือคุณค่าที่ผ่านมาของวิชาชีพนั้น ๆ ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน จนไปถึงความคาดหวังในขอบเขตและหน้าที่ความรับผิดชอบของวิชาชีพนั้น ๆ ในอนาคตด้วย ดังนั้น การกำหนดชื่อตำแหน่งจึงเป็นเรื่องที่องค์กรควรหันมาให้ความสำคัญเพิ่มขึ้น
ในปัจจุบันการที่ผู้อำนวยการด้านทรัพยากรบุคคล (Chief Human Resource Officer) สามารถเข้าไปเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารองค์กรเพื่อร่วมตัดสินใจในคณะกรรมการบริหารองค์กรเกี่ยวกับธุรกิจขององค์กรนั้นมิใช่เป็นเรื่องแปลก หากพิจารณาจากชื่อเรียกแล้วจะเห็นว่า บทบาทของงานบริหารทรัพยากรบุคคลได้ขยายขอบเขตออกไปอย่างมาก จะสังเกตได้ว่า งานด้านบุคคลในช่วงยุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรมมีเพียงงานสรรหาและให้ออก (Hire and Fire) จนมาถึงยุคสมัยของการปฏิวัติอุตสาหกรรมในช่วงปี ค.ศ. 1980 เป็นต้นมา ก็ได้มีการเพิ่มขอบเขต หน้าที่ความรับผิดชอบ บทบาทและอำนาจหน้าที่ของงานด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลมากขึ้นเป็นลำดับ เช่น การวางแผนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างตำแหน่งและอัตรากำลัง การเริ่มที่จะมีการพัฒนาทรัพยากรบุคคลและการประเมินผลการปฏิบัติงาน เมื่อมีขอบเขตความรับผิดชอบที่มากขึ้น ชื่อเรียก หัวหน้างานบุคคลก็เริ่มมีความชัดเจนขึ้น เช่น ผู้จัดการฝ่ายบุคคล ผู้จัดการงานด้านบุคคล ผู้จัดการทรัพยากรบุคคล ฯลฯ ความเป็นสากลที่เกิดขึ้น ณ วันนี้ชี้ให้เห็นว่าในประเทศที่พัฒนาแล้วได้มีการขยายขอบเขตหน้าที่ความรับผิดชอบ บทบาทและอำนาจหน้าที่ของหัวหน้างานด้านบุคคลไปมากกว่าที่เรารู้จักกัน
ดร.มาฆะ ได้มีโอกาสอ่านบทความตอนหนึ่งในหนังสือชื่อ People Management ซึ่งเนื้อหาสาระ รายละเอียดกล่าวถึงความแตกต่างและความสำคัญของชื่อเรียกผู้ที่เป็นหัวหน้างานด้านบุคคล โดยในบทความนี้ได้กล่าวว่าในปัจจุบันได้มีการรวมชื่อของงานใหญ่ ๆ 2 งานเข้าไว้ด้วยกันและกำหนดเป็นชื่อของตำแหน่งหนึ่ง เช่น ในประเทศอังกฤษ มีการรวมงานของผู้อำนวยการฝ่ายบุคคลกับผู้อำนวยการด้านการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เข้าไว้ด้วยกัน โดยใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า Director of HR and Strategic change ซึ่งหมายถึงผู้อำนวยการฝ่ายบุคคลและการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในองค์กร นอกจากนั้นยังมีการรวมงานด้านบุคคลและงานด้านนโยบายเข้าไว้ด้วยกัน โดยใช้ชื่อเรียกตำแหน่งนี้ว่า Director of People and Policy ซึ่งหมายถึง ผู้อำนวยการทรัพยากรบุคคลและนโยบาย (ด้านบุคคล) ซึ่งการรวมงานเข้าไว้ด้วยกันและกำหนดชื่อใหม่ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งทั้งองค์กรที่เป็นองค์กรภาครัฐและองค์การภาคเอกชน โดยมีกุญแจสำคัญ คือ การนำงานที่มีความเกี่ยวข้องกับงานด้านบุคคลมาผูกติดกับงานด้านบุคคลเพื่อเป็นการขยายขอบเขตหน้าที่ความรับผิดชอบ บทบาทและอำนาจหน้าที่ของบุคลากรที่ทำงานด้านบุคคลอีกทั้งยังเป็นการใช้ทรัพยากรบุคลให้คุ้มค่ายิ่งขึ้นอีก นอกจากนั้น ยังมีการปรับเปลี่ยนบทบาทการบริหารงานบุคคลในรูปแบบต่าง ๆ โดยได้มีการเน้นที่บทบาทการบริหารงานบุคคลเพื่อบริการลูกค้าเป็นสำคัญ (Customer Centre) เน้นที่บทบาทการเป็นหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์ (Strategic Partner) กับผู้จัดการฝ่ายอื่น ๆ เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์องค์กรไปสู่ความสำเร็จ เป็นผู้มีบทบาทสร้างแรงจูงใจให้แก่พนักงาน (Employee Advocate) ในการปฏิบัติงานเพื่อให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ขององค์กร อีกทั้ง ยังเป็นผู้นำให้กับพนักงานคนอื่น (HR Change Champion) ซึ่งเน้นบทบาทที่สามารถเป็นผู้นำให้แก่พนักงานให้องค์กรเกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้พนักงานสามารถปฏิบัติงานได้บรรลุตามยุทธศาสตร์ขององค์กรที่วางไว้ได้
แนวโน้มการขยายขอบเขตหน้าที่ความรับผิดชอบ บทบาทและอำนาจหน้าที่หรือแม้แต่ชื่อของนักบริหารทรัพยากรบุคคลน่าจะมีเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งจะเป็นจุดสำคัญหรือจุดเปลี่ยนในการกำหนดบทบาท หน้าที่ ความรับผิดชอบของผู้ปฏิบัติงานด้านบุคคลในอนาคตได้เป็นอย่างดี แสดงให้เห็นว่าในปัจจุบันองค์กรเริ่มให้ความสำคัญกับวิชาชีพด้านการบริหารงานบุคคลมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ และยังเป็นการแสดงให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมด้วยว่า ผู้บริหารที่รับผิดชอบงานด้านบุคคลจะมีเก้าอี้นั่งในบอร์ดผู้บริหารเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน...
ที่มา : ดร.มาฆะ ภู่จินดา หนังสือกระแสคน กระแสโลก
สำนักงาน ก.พ. หน้า 61 – 63 กันยายน 2553
(เปิดโลกความรู้ พัฒนาทุนมนุษย์)
เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับประจำวันที่ 24 – 30 เมษายน 2552