เมื่อเราอำลาเกาะปีนังแดนสวรรค์ของคนบางคน แดนนรกของคนบางคน แดนสร้างโอกาสให้แก่คนบางคน แดนดินถิ่นไทยสยามนามเกาะหมากในครั้งโบราณแล้ว...เรามุ่งหน้าขึ้นสู่เส้นทางคดเคี้ยวเลี้ยวลดยิ่งกว่างูเลี้อยไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ
ดูหุบเหวสองข้างทาง ป่าไม้เมืองหนาวปรากฏต่อหน้าเรามากดอกไม้สวยงามหลากสีสรรค์ มีหมอกปกคลุมแทบทุกพื้นที่ที่เราย่างกลายเข้าไป มีสายฝนตกลงมามากบ้างน้อยบ้าง เราต้องหลบสายฝนกันยกใหญ่ช่วงไปชมตลาดริมถนนที่เปียกแฉะ ถนนลื่น รถมากคันต้องเปิดไฟป้องกันไถลลื่นและชนอุบัติเหตุ ดีนะบังดินคนขับรถของเราชำนาญเส้นทางนี้มากขับรถอย่างระมัดระวังทำให้เรารอดปลอดภัยในทุกเส้นทาง
เย็นแล้วเรากำลังมุ่งเข้าตัวเมืองหลังลงมาชมตลาดริมทางมีของพืชผักผลไม้เมืองหนาวเต็มไปหมด ต้องชื่นชมมาเลเซียที่จัดสรรให้มีสิ่งเหลานี้...บ้างเห็นชาวเงาะป่าซาไกมาเดินหรือสร้างเพิงขายของป่าริมถนน...
ค่ำแล้วความหิวมาเยือนต้องไปดื่มชาร้อน ๆ ต้มผักในเมืองคาเมรอน อาหารค่ำของพวกเราเน้นผักทั้งนั้นละ
( อาหารเช้าที่โรงแรมเลือกได้ )
พออิ่มพุงแล้วก็เดินชมวิถีชีวิตผู้คนสักหน่อยมีชาวยุโรปมาพักตากอากาศกันมากไม่แพ้ชาวเอเชียเราแล้วได้ค้นหารากเหง้าคนสยามที่ยังคงมีเป็นตัวตนจริง ๆ เป็นพี่เป็นน้องผ้องเพื่อนกันอย่างน่าชื่นชม นำมาคิดวิเคราะห์สังเคราะห์เก็บเป็นข้อมูลก่อน
เข้านอนหลับสบาย ๆ
ในโรงแรมที่เราพักไม่มีแอร์เพราะอากาศมันเย็นอยู่แล้วคนที่กลัวหนาวไม่ควรไปเที่ยวตรงนี้นะ...อิ อิ อิ
แสงแดดกำลังสาดส่องมายามเช้า ๆ เราไปชมไร่ชามองไกลไปสุดลูกกะตา...
ท่ามกลางความหนาวเย็นกายแต่สบายใจนั้นแล...
แง่คิด...ชีวิตเราก็เท่านี้ละ จะเอาอะไรให้มันมากมายนัก...รักกันไว้เถิด...
สวัสดีครับ คุณยาย
เห็นภาพยามเช้าสวยงามอร่ามตาจังนะครับ
หนาวหมอกเมืองเหนือรึเปล่าละนี่...
มีความสุขตลอดปีและตลอดไปนะครับผม
ด้วยความปรารถนาดี
จาก...ยูมิ