ตามเส้นขอบโค้งถนน..สายเชียงราย


 

ดอกไม้เมืองหนาวแข่งกันอวดช่อชูไสวต้อนรับอาคันตุกะแปลกหน้าที่เยี่ยมหน้ามามองหาความหนาวให้พอได้หายคิดถึงในสถานการณ์ที่ภาวะโลกร้อนกร่อนฤดูเก่าๆ หายไป
  

 

ฝนตกตลอดเส้นทางเมื่อหย่อนตัวจมอยู่ภายใต้เบาะรถ ระยะทางจากกรุงเทพฯปลายทางเชียงรายช่างหน้าหน่ายใจนัก ฉันมองเห็นสองข้างทางระยิบยับไปด้วยแสงกระทบน้ำฝนกับไฟนีออน ขณะเพื่อนร่วมทางต่างชิงหลับใหลไปอย่างสุขารมณ์  ปล่อยบางเพื่อนเท่านั้นดอกที่เฝ้าคอยนับหลักกิโลเมตร
  

 

“เชียงรายรำลึก” เพื่อนร่วมทางที่มากประสบการณ์ท่องชื่อเพลงดังๆ ขณะใจของฉันยังเพรียกหาเชียงรายเมื่อครั้งเก่าเคยเยือน ครั้งนี้ประสบการณ์สอนให้ตื่นเพื่อรับรสสองข้างทางให้อิ่มใจ แต่ฟ้าฝนก็ไม่เป็นใจนัก กระนั้นฉันยังได้เห็นความงามอีกแบบ ยามเมื่อถนนในฤดูหนาวนองหน้าด้วยน้ำตาแห่งฟ้า
 
  

เสียงของยามเช้ากลางเมืองเชียงรายปลุกเรียกทุกคนให้ตื่น อาการกุลีกุจอของเพื่อนร่วมทางทำให้ฉันขยันยิ้ม ยามที่ภาระหน้าที่ขังรวมพวกเราเอาไว้ในห้องแคบๆ ทำให้เยาว์วัยแย้มหน้ามาทายทักได้อย่างง่ายดาย แม้แต่อาการกระปลกกระเปลี้ยเพลียแรงก็พลันหายไปด้วย เสน่ห์ของเชียงรายเริ่มต้นต้อนรับเราเสียแล้ว
  
สายหมอกกล่าวต้อนรับอย่างอ่อนโยน สายลมหนาวก็ไม่น้อยหน้ากระซิบกระซาบอยู่ริมหู ฉันอิจฉาเจ้าของร่างที่นั่งคร่อมอยู่บนหลังมอเตอร์ไซค์บนถนนสายเดียวกันนี้ สายลมหนาวจะกระซิบคำรักรัญจวนเพียงไหนหนอ แหล่ะที่สำคัญสายฝนตลอดคืนนั้นด้วยทำให้ยามเช้าที่เรามองเห็น ณ เมืองเชียงรายฉ่ำชื่นไปด้วยรอยยิ้มเฉียบเย็น
  
เส้นทางอันเป็นเอกลักษณ์บ่งบอกถึงอัตลักษณ์ความเป็นตัวตนของภูมิภาคทำให้ใครต่อใครอดหวั่นไหวไปกับทางโค้ง ขอบถนนที่มองต่ำลงไปยังเห็นยอดไม้ ใจใครเหล่านั้นตื่นกับภาพเบื้องหน้า หน้าต่างบานคุ้นเคยเผยตัวว่าหน้าต่างบานอื่นๆ ในสถานที่อื่นก็น่าตื่นใจนัก
  
โรงเรียนกลางโค้งเขา..เอ่ยต้อนรับเราในวันแรก..ดอกไม้ที่ฉันฝันถึงโบกมืออยู่ตรงโน้นตรงนี้ ใกล้ชิดกับผู้คน คนเมืองกรุงทั้งหลายต่างพรรณนาความงามที่ได้เห็นมิหยุดหย่อน “ถ้าไปปลูกกลางกรุงคงตายในสองวัน” ฉันแอบพยักหน้าให้กับคำพูดนั้น อัตลักษณ์ความเป็นตัวตนของแต่ละที่ช่างงามแตกต่างกัน
 
 
 
ห้วยไร่สามัคคี โค้งขอบนี้ถูกปลูกสร้างอาคารเรียนเรียงตามขอบถนน เด็กๆ ต่างชาติพันธุ์ส่งเสียงสำเนียงภาษาที่นิ่งฟังแล้วก็ดูคล้ายยังไม่นิ่งพอ อาจเป็นใจของคนแปลกถิ่นก็ได้ที่ยังยึดติดกับขนบของคนภาคกลาง
 
“โจทย์ของผมคือการสร้างอาชีพให้กับคนพื้นถิ่น ผมเริ่มต้นนับจากศูนย์เด็กๆ ชนเผ่าที่หลากหลายทางชาติพันธุ์และภาษา พวกเขาต้องการอาชีพที่ยังดำรงอยู่ได้ของโลกที่พัฒนาไป”
 
คำพูดยิ้มๆ ของผู้อำนวยการโรงเรียนเล่าเรื่องราวของโรงเรียน ซึ่งอดีตเคยมีชื่อเป็นโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน แหล่งอันอุดมไปด้วยต้นฝิ่นและกัญชา ฉันเห็นด้วยกับความเล่านั้นทุกที่ล้วนมีตัวตนเป็นของตนเองมิสามารถลอกเลียนแบบกันได้ นึกถึงโจทย์ของตัวเองที่กำแน่นมาหลายปี เอ..หรือว่าฉันตีโจทย์ไม่แตกเอาเสียเลย!!!
 
ฉันทอดตามองต้นฝิ่นอวดดอกช่อน้อยลอออยู่ในม่านตา..เป็นดอกไม้ที่ใครต่อใครเพรียกหาความงามเมื่อครั้งมีโอกาสเดินทางมาเยือนเมืองเหนือสักคราครั้ง แน่ล่ะพระตำหนักดอนตุงเนืองแน่นไปด้วยผู้คน สีสันของเสื้อกันหนาวพราวเสน่ห์เสมอ ฉันกระชับกล้อง กระชับเสื้อกันหนาวเนื้อผ้าบาง เผลอถอนหายใจ กระไออุ่นพวยพุ่งออกมาเป็นควัน โอ้เชียงรายคราวนี้ให้หนาวใจนัก
 
 ขอบโค้งถนนยังคงทรงเสน่ห์ขณะหนึ่งวันของเรามัวหม่นในม่านหมอกด้วยฤทธาแห่งฝนหลงฤดู ยังดอก..ดวงอาทิตย์ยังมิลืมหน้าที่ส่องแสงมาแต่น้อยผ่านม่านเมฆบนฟ้า ฉันพยักยิ้มให้กับช่องแสงสว่างเล็กๆ นั้น แม้ในวันที่มืดหม่น ฟ้าก็ยังคงงามอยู่เสมอ..ขอบคุณถนนทุกเส้นที่ปูลาดไว้ให้เดิน
 
 
หมายเลขบันทึก: 415456เขียนเมื่อ 21 ธันวาคม 2010 19:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 พฤษภาคม 2012 20:27 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท