"การจัดการความแตกต่างของช่วงอายุ"
จากที่ผู้เขียนได้เคยเขียนบันทึก เรื่อง
“วัฒนธรรมองค์กรการทำงานของส่วนราชการไทย”
ในบล็อก “http://gotoknow.org/blog/bussaya9/414574”
และวันนี้ผู้เขียนได้มีเวลามาอ่านบทความซึ่ง ดร. สุรพงษ์ มาลี
ได้นำมาเขียน
ทำให้ได้รับความรู้เกี่ยวกับกลุ่มคนในปัจจุบันที่ได้ปฏิบัติงานร่วมกันในส่วนราชการไทย
ซึ่ง
เป็นเรื่องที่สามารถเชื่อมโยงและต่อยอดกับเรื่องที่ผู้เขียนได้เขียนไว้...ดังนี้
:
การเปลี่ยนแปลงกำลังคนในองค์กรเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของสังคมและของโลก
หลายประเทศเริ่มมีประชากรสูงวัยมากขึ้น ซึ่งก็หมายความว่า
กำลังจะมีคนที่ใกล้เกษียณอายุมากขึ้นทุกขณะ
ในขณะที่อัตราการเกิดของประเทศเหล่านั้นก็ลดลง ดังนั้น
ความเสี่ยงที่วิกฤติก็คือ
การเสี่ยงที่องค์กรในประเทศเหล่านั้นจะสูญเสียความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานไปกับคนที่เกษียณ
แต่ไม่มีความรู้ใหม่ ๆ ไหลเข้ามาทดแทน
นอกจากนี้ในปัจจุบันองค์กรมีคนต่างวันร่วมทำงานด้วยกันหลายรุ่นที่กำลังจะเกษียณอายุออกไป
คือ
กลุ่มคนที่เกิดในยุคหลังสงครามโลก ครั้งที่
2
ซึ่งอาจจะเรียกว่า “Baby
Boomers”
ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่อาจจะเรียกว่า
“คนวัย
X”
(เกิดในช่วงปี
พ.ศ. 2508 – 2522)
และคนวัย
Y
(เกิดในช่วงปี พ.ศ. 2523
เป็นต้นมา)
โจทย์สำคัญสำหรับองค์กรที่มีคนหลายช่วงอายุทำงานอยู่ร่วมกัน
คือ
“จะบริหารความแตกต่างของช่วงอายุได้อย่างไร
และอะไรคือ “แรงจูงใจ (Key Motivatiors)
สำหรับคนในแต่ละช่วงอายุ”
การที่จะตอบคำถามนี้
จำเป็นต้องทราบความจริง 4 ประการ คือ...
1. ทุกช่วงอายุมีความแตกต่าง
2. เหตุที่มีความแตกต่างนั้น
ก็เพราะว่าแต่ละช่วงอายุได้เห็นประสบการณ์ของคนรุ่นก่อนตนเอง
ผนวกกับประสบการณ์ในชีวิตทำงาน
ทำให้เขาพัฒนาคุณลักษณะเฉพาะของช่วงวัยตนเองขึ้นมา
3.
เป็นเรื่องปกติที่คนวัยหนึ่งจะมองคนวันก่อนตนในเชิงวิพากษ์วิจารณ์และมีแนวโน้มจะเป็นไปในทางลบ
และ
4. ทุกช่วงอายุมีทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน
ดังนั้น
ฝ่ายบริหารขององค์กรต้องรู้จักดึงจุดแข็งและศักยภาพของคนแต่ละช่วงวัยมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด...
การบริหารกำลังคนสำหรับองค์กรที่มีความแตกต่างในช่วงอายุ
จึงต้องให้ความสนใจทั้งในระดับยุทธศาสตร์และระดับปฏิบัติการ
กล่าวคือ
***การพัฒนาองค์กรแห่งการเรียนรู้และการจัดการความรู้
มีความจำเป็นที่องค์กรจะต้องสร้างวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้
โดยเปิดโอกาสให้พนักงานได้วางแผนพัฒนาและเรียนรู้ด้วยตนเอง
(Personalised) ไม่ใช่การอบรมโดยใช้หลักสูตรที่ทำมาเป็นประเพณี (Off
the Shelf)
***การพัฒนาวิธีการทำงานให้รองรับกำลังคนที่มีความยืดหยุ่น
ความท้าทายของงานจะช่วยให้คนวัย X และคนวัย Y
ได้แสดงความสามารถในสถานการณ์และในสถานที่แตกต่างกัน ดังนั้น
การเคลื่อนย้ายสถานที่ทำงานหรือการเปลี่ยนงานจึงเป็นเรื่องปกติสำหรับคนทั้งสองกลุ่มนี้
ประกอบกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารซึ่งก้าวหน้าไปมาก
ทำให้วิธีการทำงานของพวกเขามีลักษณะที่ยืดหยุ่นและไร้มิติของเวลาและสถานที่
(Mobile and Virtual)
***การออกแบบและวิเคราะห์งานใหม่
ในอนาคตระบบตำแหน่งงาน
จะปรับเปลี่ยนจากการยึดถือคำบรรยายลักษณะงานที่ตายตัวและไม่ยืดหยุ่น
ไปสู่การจัดกลุ่มงานและบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบที่มีความยืดหยุ่น
โดยมีการกำหนดทักษะและสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับบทบาทนั้น ๆ
***การเป็นพี่เลี้ยงให้กับคนที่มีประสบการณ์น้อย
คนวัย X
นั้นชอบการได้รับการดูแลและต้องการคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญซึ่งบางครั้งอาจจะมานอกองค์กร
เพื่อจะได้เรียนรู้และฝึกทักษะการบริหารคนและการจัดการ แต่คนวัย Y
จะเน้นการได้เรียนรู้จากคนที่มีประสบการณ์ที่พวกเขาชื่นชอบและให้ความเคารพ
ความแตกต่างดังกล่าวทำให้องค์กรต้องลงทุนในการพัฒนาทักษะการเป็นพี่เลี้ยงและการให้คำปรึกษาทั้งแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ
***การลงทุนในการพัฒนาภาวะผู้นำและผู้บริหาร
ให้มีทักษะการจัดการความขัดแย้ง การสื่อสาร
การสร้างอิทธิพลและการจูงใจ การบริหารการเปลี่ยนแปลง
การให้ข้อมูลย้อนกลับและการบริหารผู้ที่มีผลงานไม่ดี
***การสร้างความยึดหยุ่นในการทำงาน
องค์กรจะต้องทำความเข้าใจกับคำว่าความยืดหยุ่นในการทำงานให้ถ่องแท้
เพราะคนวัย X และคนวัย Y เชื่อว่าการส่งเสริมความยืดหยุ่น
คือ
ความไว้เนื้อเชื่อใจกันระหว่างฝ่ายบริหารกับผู้ปฏิบัติงาน
กล่าวคือ
ผู้บังคับบัญชาต้องยอมให้ใช้วิธีการทำงานที่ยืดหยุ่นเพื่อบรรลุเป้าหมาย
โดยไม่ลงไปจู้จี้จุกจิกในเรื่องเล็ก ๆ ไร้สาระ
***การสร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่มุ่งเน้นความร่วมมือ
โดยเน้น “การสร้างความร่วมมือ”
โดยผู้บริหารจะต้องฟังให้มากขึ้น พูดให้น้อยลง
ชี้นำน้อยลง
ปรับตัวได้เร็วและเปลี่ยนแนวความคิดโดยไม่ติดยึดกับของเก่า
เนื่องจากคนวัย X และคนวัย Y
มีความเห็นว่าการทำงานในปัจจุบันและอนาคตเน้นความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม
การจัดการความแตกต่างของช่วงอายุ
จึงเป็นทักษะใหม่ของทั้งผู้บริหารและมืออาชีพด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล...
หนังสืออ้างอิง :
Sheahan, P. (2005) Generation Y ,
Hardie Grant Books, Prahran, Vic
ที่มา :
ดร.สุรพงษ์ มาลี หนังสือกระแสคน กระแสโลก สำนักงาน
ก.พ.
เล่ม 4
กันยายน 2553 หน้า 36 - 39
เปิดโลกความรู้
พัฒนาทุนมนุษย์
เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์มติชนสุดสัปดาห์
ฉบับประจำวันที่
29 สิงหาคม – 4 กันยายน 2551