คืนวันที่ ๒๖ พ.ย. ๕๓ ในงานเลี้ยงปาร์ตี้ฝ่ายบริหารกับกรรมการธนาคารไทยพาณิชย์ ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่น ผู้บริหารท่านหนึ่งเล่าว่า ใน ๒ – ๓ เดือนมานี้ มีคดีแก๊งค์ต้มตุ๋นชาวไนจีเรีย ตุ๋นสาวใหญ่ของไทย ให้โอนเงินให้ ถึง ๒๙ คดี
ที่น่าแปลกใจคือหลายคนเป็นถึง ด็อกเตอร์ หรืออาจารย์มหาวิทยาลัย และสูญเงินหลายหมื่นหรือเป็นแสน
เรื่องจะเริ่มด้วยการทำความรู้จักกันทาง อินเทอร์เน็ต ฝ่ายคนร้ายทำตัวเป็นฝรั่ง ลูกเศรษฐี การศึกษาดี สร้างความชอบพอกันทาง อินเทอร์เน็ต จนถึงขอแต่งงาน และเดินทางมาเมืองไทยเพื่อมาแต่งงาน เอาสมบัติรวมทั้งแหวนเพชรมาด้วย
พอมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิก็โดนจับ ต้องจ่ายภาษีสิ่งของที่เอาติดตัวมา แต่ไม่มีเงินสด จึงต้องโทรศัพท์ขอยืมว่าที่ภรรยาก่อน ครั้งแรกอาจจะ ๕ หมื่น ให้โอนเข้าบัญชีหมายเลข ... เมื่อโอนให้ครั้งแรก ครั้งที่ ๒ ก็ตามมา เช่นอีก ๓ หมื่น
แปลก ที่ว่าที่เจ้าสาวไม่สงสัย ว่าเศรษฐีมีบัญชีธนาคาร แต่ไม่มีเงินได้อย่างไร
เขาบอกว่า วายร้ายนี้ทำงานเป็นทีม ๓ คน หนึ่งคนอยู่ที่มาเลเซีย อีก ๒ คนอยู่ในประเทศไทย
นอกจากนั้นก็มีคดีต้มตุ๋นคนมีฐานะ ด้วยเรื่องราวของโชคมหาศาล แต่จะต้องจ่ายเงินค่าธรรมเนียมเล็กน้อย เช่น สองสามหมื่นบาท เพื่อดำเนินการเอาเงินออกมา และคนที่โดนต้มก็ไม่ใช่คนธรรมดา เป็นคนมีการศึกษาสูง ฐานะดี ซึ่งเรื่องแบบนี้ผมได้รับบ่อย พออ่านไป ๒ – ๓ ประโยคก็ delete ทิ้ง ไม่เสียเวลาอ่านให้มันกล่อม
เราคุยกันว่านักต้มตุ๋นเหล่านี้หากินกับจุดอ่อนคือความโลภของคน แปลกที่ความโลภมันสามารถเอาชนะปัญญาที่มีอยู่มากมายได้โดยง่าย ผมเข้าใจว่าวายร้ายเหล่านี้มีทักษะในการลองแหย่ หากเหยื่อเริ่มตอด ก็มีวิธีล่อต่อ ให้ความโลภค่อยๆ เพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว ผมเดาว่าคนบางคนความโลภมันพลุ่งพล่านง่าย กลบสติและปัญญาไปหมดสิ้น จึงโดนหลอก
วิจารณ์ พานิช
๒๗ พ.ย. ๕๓
เชียงใหม่
มาอ่านหาความรู้ครับ และขอคุณพระคุ้มครองตลอดปี2554 นะครับ
การเล่นกับความโลภของคน คือพูดไปเรื่อย ๆ หาช่องโหว่ไปเรื่อย ๆ เหมือนกับการโฆษณาในทีวี ตอนแรกดูก็เฉย ๆ แต่พอดูบ่อย ๆ เข้าจิตใต้สำนึกก็ค่อย ๆ เริ่มคล้อยตามนั้น ทำให้คนถูกหลอกได้ง่าย การจะเอาชนะความโลภต้องกำจัดความอยาก (ตัณหา) ของตัวเราเองให้ได้เสียก่อน การจะกำจัดความอยากนั้นต้องมี สติ ความรู้ตัวอยู่เสมอ...
จริงด้วยค่ะ โลภ เป็นอันตราย
ความโลภ ไม่ได้หมายถึงเงินทองอย่างเดียว เรามักคิดถึงแค่โลภในเรื่องลาภยศเงินทองทรัพย์สินเท่านั้น แต่แท้จริงแล้ว ความโลภมีลักษณะเป็นอะไรก็ได้ที่เราต้องการให้มีมาก ๆ มีไว้เพื่อตนเอง ไม่ว่าจะมีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ใดก็ตาม เรียกว่าความโลภทั้งสิ้น
ความโลภระดับต้น เป็นความโลภในระดับปกติ ความโลภในเงินทอง ทรัพย์สิน ผลประโยชน์สิทธิประโยชน์ที่เป็นวัตถุ
ความโลภระดับกลาง คือความโลภใน ลาภ ยศ ชื่อเสียง ความโลภประเภทนี้ คือความปรารถนาอยากให้เกิดผลสำเร็จในการปฏิบัติ เล็งผลเลิศในการปฏิบัติ ในใจล้วนเต็มไปด้วยความคาดหวัง รวมทั้งความต้องการให้คนอื่นยอมรับในตนเองในเชิงปริมาณด้วย ความโลภประเภทนี้จึงเรียกว่าความโลภโดยไม่รู้ตัว
ดังนั้น การจะสำรวจจนมองเห็นความโลภให้ครบทุกด้าน จำเป็นต้องใช้ไหวพริบ หมั่นสังเกตความคิดของเราเสมอ โดยให้สังเกตว่า ความโลภของเราเข้าสู่ความโลภระดับกลางหรือระดับสูงหรือไม่ ปกติความโลภระดับกลางจะมาพร้อมกับเจตนาให้ผู้อื่นยอมรับ
การวัดผลสำเร็จในเชิงปริมาณ ย่อมมีความสุ่มเสี่ยงก็ให้เกิดความโลภได้ สิ่งที่ดีที่สุดไม่ว่าจะเป็นความโลภประเภทใดก็ตาม ให้เราคอยดูคอยสังเกตและรับรู้ผลเชิงปริมาณเท่านั้น อย่าก่อให้เกิดความอยากขึ้นมา หากเราสามารถเอาชนะความอยากได้อย่างแท้จริง เราก็สามารถหลุดความโลภขั้นพื้นฐาน ความโลภในชื่อเสียง