อาสาคาราวาน#4 หนาวนะ อาสาคาราวาน


อีกหนึ่งความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา

ผมได้มีโอกาสเดินทางไปทำกิจกรรม"อาสา" กับ กลุ่มอาสาคาราวาน อย่างเป็นทางการก็ครั้งที่ 4 แล้ว เมื่อครั้งที่ผ่านมาเราได้มีโอกาสไปที่โรงเรียนบ้านธงชัย ตำบลแม่ละเมา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ยังมีภาพความทรงจำที่ไม่ลืมเลือน กับเสียงเพลงอันไพเราะที่นักเรียนที่นี่ร้องกันเป็นประจำ

การเดินทางครั้งนี้พวกเราเหมือนโชคชะตาลิขิต เพราะการได้โรงเรียนนี้มาอยู่ในรายการ เป็นเพราะเหตุบังเอิญ 

ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับครูอ้อย ครูประจำโรงเรียน ห้องเรียนสาขาวะหย่าโจ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ทางโทรศัพท์ ซึ่งในครั้งแรกพวกเราคุยกันไม่รู้เรื่องเนื่องจากคุณครูกำลังเดินทางไปประชุมที่โรงเรียน "แม่อมกิ"

หลังจากนั้นไม่นานครูอ้อยได้ติดต่อกลับมาหาผม เพื่อสอบถาม สภาพสิ่งที่โรงเรียนเป็นสิ่งที่นักเรียนต้องการ และสิ่งที่เรามีปัญญาจะหาได้

เรามีเวลาเตรียมการสำหรับกิจกรรมอาสาในครั้งนี้ประมาณ 2 เดือน และเราทราบข้อมูลคร่าว ๆ ว่า ที่นี่ไม่มีคลื่นโทรศัพท์ ไม่มีไฟฟ้า แผงโซล่าเซลล์เสียอุปกรณ์วิทยุสื่อสารเสีย และที่สำคัญหมู่บ้านแห่งนี้ไม่มีครอบครัวใดมี "รถยนต์"

สอบถามเพิ่มเติมได้ความว่า นักเรียนที่โรงเรียนนี้มีประมาณ 120 คน ทำการเรียนการสอนตั้งแต่เด็กเล็กถึงประถมศึกษาปีที่ 6 ที่นี่เป็นห้องเรียนสาขาของโรงเรียนแม่อมกิ มีครู 4 คน ผมสอบถามว่าที่นี่ต้องการคอมพิวเตอร์ไหม ครูบอกว่า ไม่เป็นไรค่ะ เพราะเอามาแล้วไม่รู้จะเอาไฟฟ้าที่ไหนใช้ ก็เลยสอบถามเพิ่มเติมว่า ขอสนับสนุนตามสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งถาดหลุมใส่อาหาร เพราะเด็กที่นี่ไม่มีจานข้าวรับประทานอาหารกัน บางคน"กินในขัน"

หลังจากที่ได้คุยกับคุณครู กลุ่มอาสาคาราวานของเราได้ดำเนินการหาทุนทรัพย์ในการออกทำกิจกรรมในครั้งนี้ โดยการใช้ทุนทรัพย์ส่วนตัวเป็นหลัก พวกเรารวมเงินกันคนละ 1,620 บาท เพื่อใช้ในการเดินทางและทำกิจกรรมในครั้งนี้ จำแนกเป็นค่ารถ 620 บาท ค่าพาหนะเดินทางขึ้นดอย 600 บาท และค่ากินอยู่และสื่อการเรียนการสอนในส่วนที่เหลือ  ส่วนของบริจาคพวกเราคิดว่ามีสิ่งจำเป็นอยู่หลายอย่างตามที่งบประมาณเราจะหาได้ เราตั้งใจซื้อถาดหลุมขนาด 28นิ้ว จำนวน 120 ใบ ผ้าห่มกันหนาว 120ผืน อุปกรณ์การเรียนการสอน (จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิต) 120 ชุด อุปกรณ์กีฬา และขนมต่าง ๆ รวมทั้งสื่อการเรียนการสอนจำนวนหนึ่ง โดยสอบถามจากผู้ใจบุญร่วมบริจาคเงินเล็กน้อยมา ซึ่งไม่สามารถบอกได้หมด รายได้หลักของเราอีกอย่างคือ การที่น้อง ๆ ในกลุ่มเข็นน้ำหวานที่ต้มกันเอง บรรจุเอง ขายเอง แต่กำไรไม่เอาเอง เอามาซื้อของให้น้อง ๆ

การเดินทางของพวกเราเป็นไปด้วยดีจากกท ถึงแม่สอด จากนั้นเดินทางด้วยรถสองแถวแม่สอดแม่สะเรียง มาลงที่ แม่สลิด หรือหน้าทางขึ้นอุทยานแห่งชาติแม่เมย และต้องนั่งรถต่อเข้าไปที่วะหย่าโจ ด้วยรถ 4x4 เท่านั้น อีกระยะทาง 54 กม. ซึ่งการเดินทางขึ้นดอยต้องบอกว่าทรหดอดทนอีกที่หนึ่งก็ว่าได้สิ่งสำคัญพวกเราไปในวันที่ฝนหลงฤดูกำลังตกโปรยปรายจนทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางเข้าไปอีก

ผมเดินทางด้วยความยากลำบากปนหวาดเสียวบนหลังรถ 4x4 คันสีดำ ด้วยฝีมือที่เข้าขั้นเทพ ทำให้ผมมาถึงที่หมายด้วยความเหนื่อยอ่อน และมาถึงเนินปราบเซียนที่ทำให้รถผ่านไปไม่ได้ พวกเราต้องขนของลงจากรถเพื่อเดินเท้าต่ออีกประมาณ 300 เมตรตามทางเขา และในที่สุดเราก็ถึงโรงเรียน

สภาพของโรงเรียนเรียกได้ว่าคล้ายกับโรงเรียนตามชนบทกันดารทั่วไป มีอาคารเรียนใหม่ ที่เอกชนมาสร้างให้เมื่อเดือน พ.ค. 54 นี่เอง 1 หลัง ส่วนอีก 2 หลังเป็นอาคารเรียนไม้แบบไม่มีผนัง เอาไว้ใช้เรียนและอีกส่วนหนึ่งก็ใช้ระดมพล มีเสาธง 1 เสา พร้อมห้องอาหารแบบง่ายวางข้างแปลงเกษตรและเหนือขึ้นไปเป็นบ้านพักครู ซึ่งดูแข็งแรงแต่ต้องกางเต็นท์นอนภายใน

วันที่ผมเดินทางมาถึง ทางกลุ่มได้จัดทำกิจกรรมการเรียนการสอนอย่างสนุกสนานไปแล้ว ตอนนี้กำลังทำกิจกรรมกีฬากันอย่างเต็มที่บนลานด้านบนของโรงเรียน ฝนโปรยปรายตลอดเวลา ผมได้โอกาสดูกิจกรรมปิดท้ายการแสดงของเด็กน้อยในโรงเรียน แบบน่ารัก ไม่มีอะไรมากมาย ไม่มีชุดการแสดงเป็นการเต้นประกอบเพลงสนุกสนาน อย่างน่าเอ็นดู ส่วนพวกเราเป็นการแสดงที่อยากจะบอกว่า อวบ ขาว ยาว ยั่วมากมาย

ตกเย็นเราได้กินอาหารเวลาห้าโมงเย็น เกรงว่าจะมืด การรับประทานอาหารพื้น ๆ ต้มจืด ไก่ยอทอด ผัดผักบุ้งช่างเป็นมื้ออาหารที่อร่อยเสียนี่กะไร

จากนั้นพวกเราก้ได้ทำกิจกรรมwalk rally กันสักหน่อยเพื่อการผ่อนคลาย และสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน ก่อนทำกิจกรรมร่วมกัน เขียนสมุดบันทึกและเข้านอน

พวกเรากางเต้นบนอาคารเรียนท่ามกลางฝนที่กระหน่ำตกอย่างมากมายจนเกรงว่าจะมีน้ำป่าไหลมาหรือเปล่า

ช่วงเช้าได้โอกาสมอบของที่เตรียมมา ถาดหลุม เสื้อผ้ากันหนาว ใครมีอะไรติดตัวมาก็เอาออกมาแจก น้อง ๆ ให้ของที่ระลึกที่ทำเองเป็นถุงผ้าถักใส่โทรศัพท์ ช่างเป็นของขวัญที่มูลค่าน้อย แต่มากด้วยคุณค่าจริง ๆ น้อง ๆ ไม่มีชุดนักเรียนนะครับ เป็นชุดประจำเผ่าที่ถักทอมาใส่ตามมีตามเกิด

มองไปมองมาที่นี่ก็มีเสน่ห์ครับ ตรงที่ยังมีโลกภายนอกมาทำร้ายวิถีชีวิตเขาน้อย ความใสซื่อบริสุทธิ์ ยังมีมากมาย ผมมั่นใจว่าที่นี่ยังต้องการอะไรอีกมาก เด็ก ๆ ยังต้องการโอกาสที่ดี ทางการศึกษา ความเป็นอยู่มิใช่เพียงความเจริญที่ได้มาอย่างจอมปลอม

โอกาสหน้าพวกเราอาจจะได้เจอเขาอีก ไม่เชื่อก็คอยดู

 

หมายเลขบันทึก: 414555เขียนเมื่อ 18 ธันวาคม 2010 10:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 พฤษภาคม 2012 13:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

พี่เอกเล่าเรื่องราวได้ดีมากครับ บันทึกนี้อ่านแล้วมองเห็นภาพเลยครับ ฝากถึงผู้ใหญ่ใจดีนะครับ  เด็กๆ ยังรอคอยโอกาสที่พวกเราพอจะหยิบยื่นให้บ้าง ถึงจะน้อยแต่คิดว่าพวกเขาก็ดีใจแล้วที่เราไปเยือน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท