ในนิยายสายเจี้ยของผู้คนล้านนาโดยเฉพาะคนเชียงใหม่ ลำพูน ต่างได้รับรู้เรื่องราวนิยายรักระหว่างขุนหลวงมะลังก๊ะ(วิลังคะ)ราชันย์แห่งชาวลัวะราชวงศ์ระมิงค์วงค์ซึ่งเป็นราชวงค์สุดท้ายขุนเผ่าลัวะในล้านนา และเจ้าแม่จามเทวี จอมนางราชินีแห่งอาณาจักรหริภุญไชย
ในนิยายรักสรุปได้ว่าขุนหลวงมะลังก๊ะไปหลงรักเจ้าแม่จามเทวีผู้สวยงาม ขุนหลวงมะลังก๊ะจึงส่งทูตมาสู่ขอ แต่นางจามเทวีบ่ฮับ เพราะว่า ขุนหลวงมะลังก๊ะมันบ่คึ บ่งามผ่อ(มอง)ทางใดมันก็บ่จับใจ๋เสี้ยงที่ ก็เลยปฏิเสธรักแบบแยบยลโดยให้ขุนหลวงมะลังก๊ะพุ่งเสน้า(สะเหน้า)จากดอยสุเทพเมืองเชียงใหม่ไกลพู้นมาสู่เมืองหริภุญไชยหรือหละปูน(ลำพูน) หากขุนหลวงมะลังก๊ะพุ่งเสน้ามาตกในเมืองหละปูนแล้วก็จักยอมเป็นมเหสีหรือเมียท่านท้าวโดยดี...
ด้วยความรักและหลงใหลแต๊ว่า ขุนหลวงมะลังก๊ะจึงทำเสน้าพิเศษ แล้วลงพระคาถาอาคมเรียกบรรดาผีๆทั้งหลายเข้ามาสิงสู่เสน้าให้ผีรวบรวมแรงส่งเสน้ามาตกในเมืองหละปูน....ในที่สุดขุนหลวงมะลังก๊ะก็พ่ายแพ้เพราะหมดแรงตึง
คำว่าเสน้าหมายถึงหอกด้ามสั้น.... การทำเสน้าต้องมีมอก(มาตรฐาน) เจ้าของมีแขนยาวเท่าใด ด้ามเสน้าก็ต้องยาวเท่านั้นโดยนับเริ่มที่หัวไหล่เจ้าของไปสุดปลายนิ้วมือกลาง นั่นคือความยาวของด้ามเสน้าซึ่งเป็นมอก(มาตรฐาน)ของสล่าทำเสน้า เพราะมันเหมาะสมกับร่างและแรงพุ่งของเจ้าของ หากยาวหรือสั้นกว่านี้ถือว่า"บ่ได้มอก" ไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรมว่างั้นเถอะเนาะ.... หากเป็นสมัยนี้นะ...
เมื่อได้ขนาดด้ามเสน้าแล้วจึงนำตัวเสน้าคือเหล็กที่ทำเป็นรูปใบหอกมาสวมปลายด้าม เท่านี้ก็เป็นอันว่าได้เสน้าแล้ว...........
การใช้เสน้าจะใช้พุ่งเข้าหาเป้าหมายที่เคลื่อนที่ เช่น สัตว์ที่กำลังวิ่ง ศัตรูที่กำลังวิ่งหนี หรือวิ่งเข้ามาทำร้าย เช่นเรื่องรามเกียรติ์เราได้ยินชื่อหอกโมกขศักดิ์พุ่งเสียบพระลักษมณ์นั่นไง...
เสน้ามีฤทธิ์เดชมากมายนัก เพราะเจ้าของต้องเป็นคนมีแฮงตึง(กำลังมาก)และแม่นยำ เช่น ข้าศึกขี่ม้าวิ่งเข้ามาหาอย่างเร็วแรง ขณะที่เจ้าของพุ่งเสน้าสวนออกไปเกิดแรงปะทะทั้งแรงม้าและแรงตึงกระทบกันปลายแหลมเสน้าพุ่งเสียเบ้าตา.....โพละ...กะโหลกศีรษะระเบิดหลุดกระเด็นอ่อง-ออ(สมอง)และเลือดพุ่งกระฉูดดั่งพลุศัตรูต๋ายอ้องบนหลังม้า มิได้ปากสักแอะ....
หรือกรณ๊ที่เป็นสัตว์เช่น การล่าสัตว์ป่า จะให้คนที่มีเสน้าดักคอยสัตว์หน้าด่าน เมื่อคนไล่ล่าส่งเสียงดังสัตว์ตกใจวิ่งหนีมาทางด่าน มือเสน้าจะพุ่งเสน้าลอดหว่างอกแทงเสียบหัวใจ แรงตกใจวิ่งหนีปะทะกับแรงตึง(กำลังมาก)ปลายเสน้าทะลุถึงก้น ด้ามเสน้าฝังอยู่ในตัวสัตว์ ดิ้นทุรนทุรายขณะที่เสน้าคาค้างในลำตัว
เสน้าจึงเป็นอาวุธที่ร้ายแรง ของบรรดานักรบชาวลัวะ..สมัยก่อน
เป็นที่น่าสังเกตว่า อนุวาวรีย์ขุนหลวงมะลังก๊ะบางแห่งเอาหอกด้ามยาวหรือหอกแทงไปให้ขุนหลวงมะลังก๊ะพุ่ง...เออ..มันบ่ใช่เสน้าเน่อนาย
เสน้าคือหอกด้ามสั้นที่ใช้พุ่งทำร้ายศัตรูนั่นเองครับ
เจ้าแม่จ๋ามเทวีเปิ้นใจ้ตีนซินขี้แต่งเป๋นสะไบงาม ใจ้คนใจ้ฮื้อเอาไปฮื้อขุนหลวงวิลังคะ ขุนหลวงวิลังคะดีใจได้ปลื้มนึกว่าเจ้าแม่มีใจฮื้อ เปี๋ยมาไว้ใจ้ อาคมตี่ลงไว้ในเสน้าก็เลยขึดเลยเสื่อมไปเหียเสี้ยง .....ด้วยเหตุขุนหลวงวิลังคะก็เลยก้านไปเหียแม่นก่เจ้าป่อครู
สวัสดีอี่น้องผัดเวิ้ง.....
แม่นแล้วเจ้า...คนโบราณเขามีก๋ารข่มพระคาถา เอาของบ่ดีใส่ลงไปในที่ต้องก๋ารแล้วคาถาก็เสื่อม..
ขณะนี้ลงุกำลังเขียนเรื่องปาฏิหาริย์ช้างงาดำถ้ำอาถรรพ์อยู่..หากใคร่ฮู้รายละเอียดเป๋นสันใดก็ถ้าผ่อเพราะเป๋นเรื่องของช้างของเจ้าแม่จามเทวีและถ้ำอาถรรพ์ที่ดอยโง้ม..
คาดว่าคงจะออกภายในปี 2554 นี้เน้อ
ยินดีที่เข้ามาแว่อ่าน...
ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน...พรหมมา
พอดีเข้ามาดูน่าสนใจ๋ขนาดเลยเจ้าออกหนังสือเมื่อใด ขอบอกฮื้อลูกหลานตวยเน้อเจ้าอยากติดตามเพิ่งเจอคนที่มีความฮู้ทางนี้เจ้าอยากศึกษาขนาด ขอบคุณเจ้า
สวัสดีเจ้าอ่อนหละปูน....
กำลังตรวจต้นฉบับเจ้า....คงจออกก่อนปีใหม่แน่นอน....ยินดีเน้อที่สนใจ๋เรื่องล้านนา..
ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน....พรหมมา
สวัสดีค่ะ
แวะมาอ่านบันทึกนี้ค่ะ
พร้อมกับมาเรียนรู้กับคำว่า "เสน้า" ค่ะ
ทำให้ได้ความรู้เพิ่มมากขึ้นค่ะ
ขอบคุณสำหรับบันทึกที่มีคุณค่าบันทึกนี้นะคะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีเจ้าอิหล้าต้นเฟิร์น...
ยินดีที่เข้ามาแว่าอ่านเจ้า....
หากว่างก็เข้ามาอ่านบ่อยๆได้เจ้า...
ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน....พรหมมา