Eureka_au
SHA_กรุงเทพหาดใหญ่ อุทัยวรรณ ( อุ๊ ) สุวรรณพรหม( สกุลเดิม ) พนาโยธากุล

เมื่อใจสัมผัสใจ


“ปาฏิหาริย์ที่จะเกิดสิ่งดีๆให้แก่ผู้ป่วยและญาติที่เราดูแล มันจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ เราใช้หัวใจในการทำงานและใช้ใจของผู้ให้สัมผัสใจของผู้รับจริงๆค่ะ

เมื่อใจสัมผัสใจ

            ฉันนั่งเคลียร์เอกสารงานบนโต๊ะทำงานอย่างเร่งรีบให้เสร็จก่อนแปดโมงเช้า เพื่อที่จะได้มีเวลาเดินเยี่ยมน้องๆในฝ่ายการพยาบาลให้ทั่วถึงในช่วงสายๆของวัน  เมื่อเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาที่ติดบนฝาผนังของประตูห้องทำงาน ก็พบว่าได้เวลาที่จะต้องเข้าประชุมกับทีมผู้บริหารแล้ว

 พระเจ้าช่างยุติธรรมจริงๆที่มอบเวลาให้กับทุกๆคนบนโลกนี้อย่างเท่าเทียม อยู่ที่เราจะใช้อย่างมีประสิทธิภาพหรือเปล่า แต่ดูเหมือนเวลาที่ท่านให้มาช่างไม่เพียงพอที่จะทำให้ฉันได้วางแผนงานและได้ดำเนินการร่วมกับทีมน้องๆให้ได้ตามระยะเวลาของแผนงานที่วางไว้เลย เพราะมีกิจกรรมและการประชุมมากมายตั้งแต่เช้าจนเย็น               เวลาในการประชุมติดตามงานในระดับฝ่ายการ พยาบาล ระดับสายงานหรือแม้กระทั่งระดับทีมคร่อมสายงานแทบจะช่วงชิงกันอย่างถึงพริกถึงขิงเรียกว่า “อย่าได้กระพริบตาเชียว” งานวางแผนหรืองานวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับตัวฉันนะเหรอ อย่าได้หวังว่าจะได้นั่งทำในห้องทำงานในเวลาทำการ ห้องทำงานสำหรับฉันมีไว้เพื่อเก็บเอกสาร หนังสือและกระเป๋าถือ หรือไม่ก็รับแขกในบางเวลา เวลาครึ่งวันเช้าหมดไปกับการลงเยี่ยมหน้างานในหน่วยงานต่างๆ เพื่อพบน้องๆในฝ่ายการพยาบาลเพราะเป็นช่วงเวลาที่ฉันจะประเมินดูว่ามีระบบงานอะไรบ้างที่ยังมีปัญหา และไม่เอื้อให้น้องๆทำงานได้อย่างสะดวกสบายหรือข้อตกลงนโยบายได้นำสู่การปฏิบัติของน้องๆได้จริงหรือเปล่า จะได้เก็บข้อมูลไปปรับปรุง   เป็นวงแหวน พี ดี เอส เอ อย่างที่เราอยากจะให้งานเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพและพัฒนาอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ  ส่วนช่วงบ่ายจะเป็นการประชุมติดตามงานในระดับทีมบริหารหรือไม่ก็ทีมคร่อมสายงาน    ดังนั้นการขนเอกสารกลับไปทำต่อที่บ้านตอนดึกๆ หลังลูกๆและสามีหลับกันแล้ว จึงเป็นเรื่องปกติที่ฉันทำอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

 ฉันเดินเข้าห้องประชุม “ดอกผักบุ้ง” พร้อมๆกับสมาชิกทีมนำท่านอื่นอีกหลายคน ต่างฝ่ายต่างยกมือไหว้ทักทายสวัสดี ซึ่งกันและกันด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มและสนทนาด้วยเสียงอันดังเจี้ยวจ้าวเหมือนเด็กตัวเล็กๆ ที่รอให้คุณครูเข้าสอนในห้องเรียน เมื่อท่านผู้อำนวยการเดินเข้ามาในห้องประชุมทุกคนเงียบกริบเหมือนถูกกดรีโมทสั่ง “Puase”  แถมทุกคนพร้อมใจกันยกมือไหว้และกล่าวสวัสดีท่านอย่างพร้อมเพรียง  ผู้ตรวจการรายงานสภาวะการณ์ของวันที่ผ่านมาให้สมาชิกทีมบริหารทุกคนรับทราบ ช่างป็นการเริ่มต้นการทำงานและเป็นเช้าที่สดใสอีกวัน

ผู้ตรวจการรายงานจำนวนจำนวนผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยนอนใน  ผู้ป่วยที่เข้ามาทำหัตถการCT/ MRI จากภายในและภายนอก ผู้ป่วยที่รีเฟอร์เข้ามา ผู้ป่วยที่ต้องรีเฟอร์ออกไป รวมถึงการรายงานอุบัติการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งการดำเนินการแก้ไขเฉพาะหน้าของวันที่ผ่านมา เหมือนอย่างเช่นทุกวัน  สำหรับฉันจำนวนยอดผู้ป่วยและจำนวนบุคลากรพยาบาลที่ทำงานในเช้านี้ ได้รับการรายงานทางเอสเอ็มเอสและทางอีเมล์ในมือถือ ตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า  ต้องขอบคุณเค้าจริงๆนะ เจ้าเทคโนโลยีที่ทันสมัย โลกไร้พรมแดน เพราะทำให้ฉันได้ข้อมูลที่รวดเร็วเพื่อใช้ในการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ  ฉันนั่งฟังอย่างใจจดใจจ่อเพื่อที่จะเก็บข้อมูลอุบัติการณ์ว่ามีประเด็นอะไรที่เกิดขึ้นและเชื่อมโยงกับระบบอะไรบ้างที่ต้องลงไปตามรอยดู  เช้านี้ได้รับรายงานว่ามีผู้ป่วยชายชาวต่างชาติอายุ 55 ปี เป็นพนักงานบริษัทน้ำมัน ถูกส่งตัวจากฐานขุดเจาะน้ำมันตั้งแต่เมื่อเย็นวาน  มาด้วยปวดศรีษะ  เบื้องต้นแพทย์ENT เป็นเจ้าของไข้ท่านสงสัยว่าน่าจะเป็นไซนัสอักเสบ คนไข้ไม่มีญาติเฝ้าตามนโยบายความปลอดภัยของผู้ป่วย เราจึงต้องฝากนอนที่ Intermediat care zone ที่มีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด เมื่อวานแพทย์ส่งตรวจ MRI Brain พบ Multiple tumor และมีก้อนหนึ่งอยู่ใกล้กับเนื้อสมองส่วนที่ทำหน้าที่ควบคุมการหายใจ และเท่าที่ทราบคือแพทย์ยังไม่รู้ว่าต้นกำเนิดของเนื้องอกวายร้ายมาจากที่ใด 

 

“โอ…ช่างเป็นข่าวร้ายสำหรับคนไข้เสียจริง”  ฉันรำพึงกับตัวเอง

 

สิ่งที่ทีมผู้บริหารพูดคุยกันถึงเคสนี้คือ สิทธิผู้ป่วยในเรื่องการให้ข้อมูลความเจ็บป่วยที่ผู้ป่วยจะอนุญาตให้ทางทีมดูแลแจ้งนั้นจะมีใครบ้าง การตัดสินใจเมื่อเกิดกรณีฉุกเฉินกับผู้ป่วยใครจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะให้แผนการรักษาดำเนินไปแบบใด ผู้จัดการความเสี่ยงได้รับมอบหมายให้ลงไปดำเนินการทันทีหลังจากปิดการประชุม  ส่วนตัวฉันไม่รอช้ารีบหอบสมุดโน้ต ปากกา เดินลงบันไดหนีไฟจากชั้นสี่ไปชั้นสามที่ห้องไอซียูเพื่อเข้าเยี่ยมผู้ป่วยรายนี้ ในสมองได้แต่คิดว่า ทีมของเราคงเตรียมการในการบอกข่าวร้ายแก่ผู้ป่วยเรียบร้อยแล้ว แต่ผู้ป่วยนี่สิจะเป็นอย่างไรบ้างเมื่อได้รับข่าวร้าย คงต้องลงไปประเมินความรู้สึกของผู้ป่วยอีกครั้ง เมื่อเดินไปถึงห้องก็พบทีมดูแลที่อยู่รายล้อมคนไข้ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์เจ้าของไข้ เจ้าหน้าที่ล่าม  พยาบาลเจ้าของไข้  หัวหน้าแผนก ที่คอยช่วยกันดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด  แต่บรรยากาศมันช่างเย็นเหยียบ เมื่อผู้ป่วยถามแพทย์ว่า

 

 “ผมมีเวลาเหลืออีกนานเท่าไหร่”

“อีกประมาณหกเดือนครับ แต่เรายังไม่ทราบจุดที่มันแพร่กระจายออกมา ต้องค้นหาโดยการทำ PET CT ซึ่งที่นี่ยังไม่มี คงต้อรีเฟอร์ไปที่กรุงเทพ” แพทย์เจ้าของไข้กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ สงบ แต่แฝงไว้ด้วยสายตาที่เอื้ออาทร

ผู้ป่วยอึ้งและนิ่งงัน เขาก้มหน้านิ่งเงียบอยู่นานสักพักเหมือนจะตัดสินใจอะไรสักอย่าง  แล้วค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาสบตาแพทย์ด้วยดวงตาที่เต็มรื้นไปด้วยน้ำตา และค่อยๆพูดด้วยน้ำเสียงอันสั่นเครือ

“ขอผมติดต่อกับภรรยาที่อยู่ประเทศอังกฤษด้วยครับ”  เจ้าหน้าที่ล่ามรีบกุลีกุจอ ยกหูโทรศัพท์ในห้องผู้ป่วยและแจ้งโอเปอเรเตอร์ว่า “ติดต่อต่างประเทศ ประเทศอังกฤษครับต่อที่ …. ”  ห้องทั้งห้องเงียบงัน แทบจะได้ยินแต่เสียงลมหายใจของทุกคนที่ยืนอยู่ในห้องและต่างใจจดใจจ่อรอปลายทางติดต่อมากลับมาอีกครั้ง ผู้ป่วยรีบฉวยโทรศัพท์เมื่อกริ้งแรกของโทรศัพท์ดังขึ้นเขาเริ่มสนทนาด้วยสำเนียงอังกฤษอย่างสงบ   กับภรรยาที่อยู่ปลายทางและเริ่มเล่า…..

   เขาถ่ายทอดข้อมูลความเจ็บป่วยให้กับภรรยาเพื่อให้เธอได้รับรู้แค่บางส่วน ทุกคนต่างยืนนิ่งเงียบ เมื่อเขาวางหูโทรศัพท์แล้วจึงค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาด้วยดวงตาที่แดงก่ำและพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า  “ขอผมเดินไปสูบบุหรี่ข้างนอกสักมวนได้ไหม”

“ได้ค่ะ หัวหน้าแผนกบอกอย่างกุลีกุจอ ‘‘เดี๋ยวเราจะเปิดกุญแจประตูระเบียงด้านข้างให้ จะมีเจ้าหน้าที่อยู่เป็นเพื่อนคุณนะคะ และ…คุณอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม โค้กสักกระป๋องนะคะ”

เธอรู้ว่าผู้ป่วยชอบทานโค้กมากจึงได้เสนอผู้ป่วยไป โค้กเย็นๆสักกระป๋องคงจะช่วยคลายความเครียดให้กับผู้ป่วยลงได้บ้าง หากเป็นเวลาปกติสิ่งที่เกิดขึ้นดูเหมือนว่าพยาบาลช่างไม่พยายามที่จะส่งเสริมสุขภาพผู้ป่วยเอาเสียเลย แต่ในสถานการณ์ตอนนี้ เรากำลังดูแลผู้ป่วยด้วยการใช้หัวใจสัมผัสใจของเขาจริงๆ

 ภาพที่ฉันเห็นคือทุกคนกุลีกุจอช่วยกันพยุงผู้ป่วยเดินไปยังระเบียงพร้อมทั้งเสาน้ำเกลือและเครื่องควบคุมการไหลของสารน้ำ  ต่างยืนพูดคุยกับผู้ป่วยด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริงเฮฮา เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่เต็มไปด้วยความระมัดระวังและกันไม่ให้ผู้ป่วยยืนไกล้ระเบียงมากนัก เขายืนสูบบุหรี่และดื่มโค้กกระป๋องนั้นจนหมด สักพักก็บอกเจ้าหน้าที่ว่า เขาอยากะกลับห้องแล้ว เพียงไม่นานผู้ป่วยก็เดินเข้ามานั่งพักที่ข้างเตียงของตนเอง  ฉันเดินเข้าไปทักทายแนะนำตัวกับผู้ป่วยในห้องเป็นภาษาอังกฤษซึ่งนานๆจะได้ใช้ นึกในใจว่า “เอาวะเป็นไงเป็นกัน อย่าให้เสียชื่อหัวหน้าพยาบาลหละกันบอกให้ไปเรียนเพิ่มก็ผลัดวันประกันพรุ่งอยู่นั่น พอจะใช้จริงก็งูๆ ปลาๆทุกที ” ฉันได้แต่ก่นด่าตัวเองอยู่ในใจ ที่ไม่ยอมหาเวลาไปเรียนภาษาอังกฤษให้แข็งแรงกว่าเดิม

เขาพยายามทักทายฉันด้วยน้ำเสียงที่ซ่อนความทุกข์ไว้ในใจ “ผมไม่เคยเห็นคุณเลยครับ”  ฉันแนะนำตัวเองและตำแหน่งอีกครั้งเพราะดูเหมือนว่าผู้ป่วยจะไม่ได้ยินสิ่งที่ฉันพึ่งพูดไป  เมื่อฉันพูดจบเขาก็อุทานเสียงดัง  “โอ้ คุณช่างเป็นหัวหน้าที่โชคดีมากๆ พนักงานของคุณเป็นบุคลากรที่วิเศษและเยี่ยมยอดมากๆ ครับ ผมจะไม่มีวันลืมเลย พวกเขาดูแลผมดีมาก  เอ่อ…ผมอยากทราบว่าที่นี่มีตลาดไหมครับ” เป็นคำถามที่ฉันแปลกใจว่าผู้ป่วยจะไปตลาดทำไมกัน

“มีค่ะอยู่ใกล้ๆนี่เอง”  ฉันตอบ

 “ถ้าเป็นไปได้ผมอยากขอรบกวนคุณช่วยซื้อชอคโกแลตให้ผมเท่ากับจำนวนเจ้าหน้าที่ที่นี่ด้วยนะครับ เดี๋ยวผมจะคืนเงินให้ ผมอยากจะให้เป็นของที่ระลึกสำหรับเจ้าหน้าที่ก่อนไป”  

“ได้ค่ะ” ฉันรับปากคนไข้ ภายในใจของฉันแอบยิ้มแก้มแทบปริและรู้สึกดีใจแทนน้องๆในแผนกจริงๆกับคำชมของเขา  พลอยทำให้ลืมเรื่องเศร้าของผู้ป่วยเมื่อครู่ไปทันใด ฉันฟังเขาเล่าถึงประวัติของตัวเองด้วยท่าทีที่สนใจ เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างก็พยักหน้าหงึกหงักเป็นครั้งคราว ฉันฟังเพื่อให้คนไข้ได้พูดและระบาย  เขาพูดถึงภรรยาของเขาด้วยสายตาที่ฉายแววแห่งความรักและบอกว่า “ผมรักเธอมาก หากผมเป็นอะไรไป คุณช่วยบอกภรรยาผมด้วยว่า ผมรักเธอเท่าที่หัวใจของผู้ชายจะสามารถรักผู้หญิงคนหนึ่งได้”  ฉันได้แต่ยืนนิ่งและพยายามามกลั้นน้ำตาไว้สุดฤทธิ์

 

“เดี๋ยวขออนุญาตถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึกนะค่ะ”  เสียงของหัวหน้าแผนกดังแทรกขึ้นมา เธอยื่นหน้าเข้ามาบอก แล้วเดินไปเชิญภรรยาผู้ป่วยอีกคนที่นอนรักษาตัวที่ห้องข้างๆซึ่งเป็นชาวอังกฤษเหมือนกันมาร่วมถ่ายรูป  ทั้งสองต่างแนะนำตัวและทักทายกันเป็นภาษาอังกฤษ ต่างฝ่ายต่างถามสารทุกข์สุกดิบของกันและกันและเขาได้ทราบว่า ผู้ป่วยห้องข้างๆเป็นไข้เลือดออก มีภาวะเลือดออกในสมอง และนอนเป็นผักอยู่ ฉันสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของผู้ป่วยเมื่อได้พบเพื่อนที่มีปัญหาคล้ายๆตนเอง อย่างน้อยเขาก็ได้รับรู้ว่าชีวิตของเขาไม่ได้เลวร้ายที่สุดในโลก เพราะยังมีเพื่อนห้องข้างๆที่ดูเหมือนจะแย่กว่า  

“คงจะทำให้เขามีกำลังใจมากขึ้น”  ฉันได้แต่นึกและภาวนาอยู่ในใจ   เราได้ถ่ายภาพร่วมกับผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยห้องข้างๆ ภาพถ่ายที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เบ่งบานออกมาจากหัวใจของทั้งผู้ป่วย ญาติและเจ้าหน้าที่       น้องหัวหน้าแผนกได้ปริ้นรูปถ่ายให้ผู้ป่วยไว้เป็นที่ระลึก ส่วนฉันขอตัวไปเดินเยี่ยมหน่วยงานอื่นต่อ ด้วยความรู้สึกที่เต็มตื้นไปกับสิ่งดีๆที่ทีมของเราได้ดูแลผู้ป่วยด้วยการใช้ใจสัมผัสใจของผู้ป่วย ไม่ว่าชีวิตหลายชีวิตที่ต้องจบลงโดยไร้ความหวังในโรงพยาบาลแห่งนี้ หรืออีกหลายชีวิตที่รอคอยความหวังและร้องขอให้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นกับตนเองหรือครอบครัวในยามเจ็บป่วยหรือยามมีทุกข์แสนสาหัส  แต่ภายในใจฉันรู้ดีว่า “ปาฏิหาริย์ที่จะเกิดสิ่งดีๆให้แก่ผู้ป่วยและญาติที่เราดูแล  มันจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ เราใช้หัวใจในการทำงานและใช้ใจของผู้ให้สัมผัสใจของผู้รับจริงๆค่ะ

                                                           

                                        จาก

                            ผู้จัดการสาวลูกสาม

หมายเลขบันทึก: 412772เขียนเมื่อ 9 ธันวาคม 2010 10:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 พฤษภาคม 2012 21:54 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

ขอขอบคุณมิตรภาพและบันทึกดีๆที่ได้รับมาตลอดปีนี้ และขอส่งความสุขสำหรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงค่ะ..

(บัตรอวยพร ดอกม่วงเทพรัตน์ ของมูลนิธิรามาธิบดีฯ ) คลิ๊กที่:

http://gotoknow.org/blog/nongnarts3/348844

  • สวัสดีค่ะ
  • บุษราแวะมาทักทายยามค่ำคืน สบายดีนะค่ะ
  • มีความสุขกับทุก ๆ วัน
  • ขอบคุณค่ะ

                                

สวัสดีครับ นานแล้วแล้วที่ไม่ได้เข้าบ้านนี้ มาวันนี้อิ่มใจในบริการแทนชาวสาธารณสุขทุกคน ครับ

ปากพะยูนโดนวาตภัยเสียหายหนัก บ้านพักรพ.เสียหายหลายหลัง

ห้องบริหารหลังคาพังต้องย้ายห้องใหม่......อิอิรายงานความเสียหายให้ชาวสาสุขทราบครับ

สวัสดีค่ะ ขอรายตัวอีกครั้งนะคะ ห่างหายไปนาน เนื่องจากไปรับงานใหม่ค่ะ ต้องไปเรียนรู้งานใหม่เยอะมากค่ะ แต่ก็พยายามเจียดเวลามาอ่านความเคลื่อนไหวอยู่คะ แต่สิ่งที่ได้นำไปทำอยู่มืได้ขาดคือ การชักชวนให้เพื่อนๆใน รพ. ร่วมกัยเขียนเรื่องเล่ากันค่ะ และที่ผ่านมาได้มีการประกวดเรื่องเล่าค่ะ เดี๋ยววันหลังจะนำมาฝากให้อ่านนะคะ

@ ส่วนทาง รพ กรุงเทพหาดใหญ่ ก็วิดน้ำกันจ้าละหวั่นเลยค่ะ เพราะห้อง MRI อยู่ชั้นล่าง ท่าน ผอ. เดินทางกลับมาจากกรุงเทพ เดินลุยน้ำกลับมา รพ. เพื่อช่วยเหลือ จนท. ที่ รพ. และร่วมวิดน้ำกับพวกเราด้วยค่ะ / พวกเราชาวสาสุขก็เป็นกำลังใจให้กันและกันะคะ สู้สู้ค่ะ

เป็นกำลังใจให้ด้วยคนนะครับ ตอนนี้เป็นไงมั้งแล้ว

เป็นกำลังใจให้ด้วยคนนะครับ ตอนนี้เป็นไงมั้งแล้ว

สวัสดีค่ะ อ.โสภณ

ขอบคุณนะคะ อ. มีกำลังใจมากเลยค่ะ ตอนนี้ ต้องไปดูแลศูนย์โรคหัวใจของ รพ.ค่ะ เลยเครียดนิดหน่อยค่ะ ต้องไปเรียนรู้งานเยอะมากค่ะ เพราะปีหน้าจะเปิด Open Heart ค่ะ เลยต้องเตรียมคน สถานที่ อุปกรณ์ทั้งหลายค่ะ ต้องเร่งมือกันใหญ่ค่ะ เปลี่ยนงานแบบข้ามขั้นเลยค่ะ เลยต้องลงไปคลุกคลีกับห้องสวนหัวใจค่ะ เพื่อเรียนรู้ทางลัดกับการเห็นของจริงค่ะอาจารย์ ตอนนี้ก็ต้องลำได้บ้างแล้วค่ะ ช่วงนี้ก็ต้องออกเยี่ยมรพ. ต่างๆในแถบภาคใต้ 8 จังหวัดค่ะ แต่ยังไงก็ยังไม่ทิ้ง G2K แน่นอนค่ะ ตอนนี้กำลังรวบรวมเรื่องเล่าจากน้องๆใน รพ. มาแชร์ต่อไปค่ะ ขอบคุณนะคะสำหรับกำลังใจที่มีค่ามากๆค่ะ

สวัสดีค่ะ.....

หายไปนานมากเลยนะคะ

กลับมาอีกครั้งก็มีเรื่องประทับใจและตื้นตันใจมาเล่าสู่กันฟังอีกตามเคย

เอาใจช่วยและเป็นกำลังใจให้ทั้งผู้ป่วยและผู้พยาบาลนะคะ

สวัสดีค่ะ ครู krugui Chutima

หายไปแต่ตัวค่ะ แต่หัวใจยังอยู่กับ G2K ตลอดค่ะ ช่วงนี้เริ่มสะสางงานออกได้แล้วค่ะ ต่อไปจะเริ่มมาเล่าสู่กันฟังเช่นเคยค่ะ

ขอบคุณ ครู krugui Chutima ที่เป็นกำลังใจให้กับผู้ป่วยและผู้พยาบาลของ รพ.กรุงเทพหาดใหญ่ นะคะ

Eureka_au อยากฝากคำชื่นชมจาก G2K ไปถึง ผู้จัดการสาวลูกสาม ที่เสียสละเวลาในการทำงานที่หนักหน่วงเพื่อองค์กรของเราค่ะ ยอมรับนะคะว่า อดชื่นชมในความตั้งใจในการทำงานของพี่เค้าเสียไม่ได้ และยังเห็นความสำคัญของกิจกรรมเรื่องเล่าดีดี และมาร่วมเขียนแชร์ประสบการณ์ดีดี ถึง 2 เรื่อง ถึงแม้พี่เค้าจะมีภาระมากแค่ไหนก็ตามค่ะ อยากบอกว่า พวกเราทุกคนในฝ่ายการพยาบาลขอเป็นกำลังใจให้กับผู้จัดการคนเก่งของเราต่อไปนะคะ สู้สู้ค่ะพี่นิดหน่อย .....

มาอีกทีครับ หากมีความเครียดไปคลายเครียดที่บันทึกบังวอญ่า ไปอ่านคนแต่แรกเข่เขียน จม.กัน

ขอบคุณค่ะ ท่านวอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--

แล้วจะเข้าไปเยี่ยมชมแน่นอนเลยค่ะ บันทึกของศิลปินในดวงใจ ( Idol )ไม่เข้าไปอ่านได้ยังไงคะ

  • ดีใจจังที่ได้ฟังเรื่องเล่าดีดี...เมื่อใจสัมผัสใจ
  • ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ

ขอบคุณค่ะคุณอุ้มบุญ

ได้อ่านประโยคนี้ " ดีใจจังที่ได้ฟังเรื่องเล่าดีดี...เมื่อใจสัมผัสใจ " อยากให้คุณอุ้มบุญได้มาร่วมฟังจากปาก ผู้จัดการสาวลูกสามเองเลยทีเดียวค่ะ เรื่องของเรื่องเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา รพ. มีกิจกรรมเล่าเรื่องเล่าดีดี นี่แหละค่ะ และผู้จัดการสาวสวยของเราได้เข้าร่วมเล่าเรื่องเล่าด้วยค่ะ บรรยากาศในห้องประชุม ได้ยินแต่เสียง ซื้ดๆๆค่ะ แถมทิชชู่ก็หมดไปหลายม้วนเชียวค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท