นาทีของชีวิต


ผู้ป่วยซึมลง ไม่โต้ตอบขณะเรียก ออกซิเจนในกระแสเลือด ลดต่ำลง กว่าจะถึงโรงพยาบาลแก่งคอยใช้เวลา ครึ่งชั่วโมง เรามองหน้ากัน และมองผู้ป่วย ความกดดันเริ่มมาเยือน ไปโรงพยาบาลแก่งคอยไม่ได้แน่! ถ้าเกิดภาวะวิกฤตระหว่างทาง....มันนานเกินไป
     สายวันหนึ่ง   ขณะที่ข้าพเจ้า ปฏิบัติหน้าที่ อยู่ที่ประชาสัมพันธ์ 
     “ช่วยออก EMS ให้หน่อย มีเหตุฉุกเฉิน 2 ราย พยาบาลที่ออก EMS  ต้องออกอีกเหตุการณ์หนึ่ง  “ เป็นเสียงของหัวหน้า ER  ที่กำลังบริหารจัดการกับภาวะที่เร่งด่วน  
     “ได้สิ  ที่ไหน “ ข้าพเจ้าตอบไปทันที  เพราะวันนี้ไม่มี Case ผ่าตัด   
     "ที่ไร่อรุณวิทย์  มวกเหล็ก  ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ที่จังหวัดนนทบุรี  โทรศัพท์ ติดต่อมาที่ผู้อำนวยการ ให้ช่วยไปรับผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บหน้าอก“ เสียงหัวหน้า ER บอกต่อ      
      ข้าพเจ้ารีบเตรียมอุปกรณ์ออก EMS   ร่วมกับน้องพยาบาล    ขณะที่กำลังรีบขึ้นรถ 
     “พี่ๆ เอายาไปเผื่อด้วยนะ“   น้องพยาบาลที่ ER  อีกคนยื่นยา Isodril  และ ASA  ให้อย่างละเม็ด  ข้าพเจ้ารับยาใส่กระเป๋า    
     “ขอเบอร์โทรศัพท์ ของผู้อำนวยการโรงพยาบาลนั้นหน่อยซิ   ถึงแล้วจะได้โทรถาม“      ข้าพเจ้าหยิบกระดาษที่มีเบอร์โทรศัพท์และขึ้นรถ  ขณะที่รถกำลังวิ่งตรงสู่จุดหมายปลายทาง  ข้าพเจ้าถาม พนักงานขับรถว่า ไร่อรุณวิทย์    อยู่ตรงไหน?  พนักงานขับรถตอบว่า ไม่รู้เหมือนกันพี่   เดี๋ยวดูป้ายตามข้างทางไป   ข้าพเจ้า สงสัยต่อว่า ระยะทางจากแก่งคอยไปที่มวกเหล็ก  ใช้เวลา ไม่ต่ำกว่า ครึ่งชั่วโมง  ถ้าผู้ป่วยเป็นโรคหัวใจจะทันหรือไม่? เราสนทนากันกับน้องพยาบาลที่มาด้วย...  นั่นสิ!  น้องพยาบาลตอบ  ทำให้ทีมของพวกเราต้องมีภารกิจอีกอย่างที่ต้องปฏิบัติ    คือ จ้องมองป้ายตามทาง  ที่มีป้าย บอกตลอดเส้นทาง  ทำให้ เราเดินทางได้อย่างสะดวก  และถึงจุดหมายปลายทาง  

    เมื่อรถเลี้ยวเข้าประตู  ยามโบกมือให้เลี้ยวไปที่บริเวณจอดรถ  ข้าพเจ้ามองดูรอบๆ  ทุกอย่างเงียบ  ไม่มีใครให้เห็น  มีแต่ศาลา เป็นหลังเล็กๆ  สำหรับนั่งพักผ่อน  และมีสะพานเชือก ข้ามคลองไปยังฝั่งตรงข้าม  ซึ่งที่ป้ายเขียนบอกว่า  สุดเขตแดนจังหวัดสระบุรี    ฝั่งตรงข้ามเป็นจังหวัดนครราชสีมา   ข้าพเจ้าจึงโทรศัพท์ไปยังเป้าหมาย  ตามเบอร์ที่หัวหน้า ER ให้มา   บอกว่า ทีม EMS ของโรงพยาบาลแก่งคอยมาถึงแล้ว  ซึ่งเราได้รับคำตอบว่า  ให้รอซักพัก  ผู้ป่วยอยู่ด้านใน  เดี๋ยวจะออกมา ข้าพเจ้าลงจากรถ และเดินดูรอบๆ   ขณะรอ    น้องพยาบาลได้เตรียมความพร้อมของอุปกรณ์ และพนักงานขับรถลงมา เปิดวาวล์ออกซิเจน ด้านข้างรถ  ประมาณ 5 นาที     มีชายผู้หนึ่งตะโกนบอกเราว่าผู้ป่วยเดินไม่ได้  ไม่สามารถนำผู้ป่วยข้ามสะพานเชือกมาได้  จากนั้นก็เดินข้ามสะพานเชือกมาหาพวกเราและบอกว่า   ให้ขับรถอ้อมไป  เข้าทางวัดด้านหลัง  และขึ้นรถบอกทางเข้ามากับทีมของเราด้วย  ซึ่งทางเข้า  เป็นทางขรุขระ  แคบ  บางช่วงเป็นโคลนเละ   ระหว่างทางเข้า ข้าพเจ้า  เห็นลูกเสือกลุ่มใหญ่ กำลังฝึก กิจกรรมร่วมกันอยู่    เมื่อรถของเราวิ่งเข้าไปบริเวณบ้านพัก ซึ่งเป็นหลังเล็ก น่ารัก  อยู่ใกล้กันหลายหลัง   มีคนกลุ่มใหญ่ยืนอยู่ ด้านหน้า ด้วยสีหน้า ตื่น ๆ  และรีบบอกเราว่า คนไข้อยู่ด้านใน  ทีมพวกเรารีบเข้าไปรับคนไข้ และนำขึ้นรถ  ภาพที่เห็น  ผู้ป่วยใบหน้าและริมฝีปากคล้ำ  นอนหลับตา เรียกไม่ลืมตา  ไม่พูด  แต่พยักหน้าแทนการสื่อสาร ข้าพเจ้าเปิดออกซิเจน และนำสายออกซิเจนใส่จมูก   หญิงคนหนึ่งขึ้นมาพร้อมกับคนไข้ แนะนำตัวกับเราว่าเป็นพยาบาลหัวหน้า ER  ของโรงพยาบาลที่โทรเรียก  บอกว่า คนไข้มีประวัติโรค เบาหวาน ความดันโลหิตสูง  และตรวจพบว่าหัวใจตีบ 2 เส้น  คนไข้ไม่ยอมรักษา  ขณะวิ่งออกกำลังกายตอนเช้า   เป็นลม  และซึมลง  ให้ IV  เลยไหม  ?    ข้าพเจ้าและน้องพยาบาลพยักหน้า   จากนั้น ก็ช่วยกันให้ น้ำเกลือ   น้องพยาบาลเตือนข้าพเจ้าว่า พี่ให้ยา  ? ข้าพเจ้าพยักหน้า และหยิบซองยาในกระเป๋า เรียกผู้ป่วยอ้าปากและให้เคี้ยวยา  คนไข้ ทำตามทั้งที่หลับตา แต่อุปสรรคอีกอย่างของคนไข้คือ  ไม่มีฟัน เคี้ยวยา   ถอดฟันปลอมออกหมดแล้ว  เป็นคำพูดของพยาบาลหัวหน้า ER    

     "ไม่เป็นไร" ข้าพเจ้าพูด   และให้อมยาอีกเม็ด  ใต้ลิ้น  รถ EMS ของเราเริ่ม วิ่งออกจากไร่อรุณวิทย์ ประมาณไม่ถึง 5 นาที  ระหว่างทาง ผู้ป่วยมีความดันโลหิตสูง  ใบหน้าและริมฝีปาก สีดำคล้ำมากขึ้น   ผู้ป่วยซึมลง  ไม่โต้ตอบขณะเรียก   ออกซิเจนในกระแสเลือด ลดต่ำลง  ข้าพเจ้าพูดกับน้องพยาบาล ที่มาด้วยกันว่า กว่าจะถึงโรงพยาบาลแก่งคอยใช้เวลา ครึ่งชั่วโมง   เรามองหน้ากัน  และมองผู้ป่วย   ความกดดันเริ่มมาเยือน   ไปโรงพยาบาลแก่งคอยไม่ได้แน่  !   ถ้าเกิดภาวะวิกฤตระหว่างทาง  ....  มันนานเกินไป  !   เราจึงตัดสินใจ   ติดต่อขอแวะที่โรงพยาบาลมวกเหล็ก   น้องพยาบาลได้ติดต่อทางวิทยุเล่าอาการให้โรงพยาบาลมวกเหล็กทราบ  และเตรียมรับคนไข้   จากนั้น รถวิ่งตรงสู่โรงพยาบาลมวกเหล็กทันที    
        ขณะถึงห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลมวกเหล็ก  คนไข้ยังนอนบนรถเปลนอน 
     "คุณลุง  ๆ คุณลุงชื่ออะไร ?"  แพทย์ เรียกเพื่อประเมินระดับความรู้สึกตัว    คุณลุง  ลืมตา  และบอกชื่อ     สีหน้า  ของใบหน้า และริมฝีปาก  ซึ่งตอนแรกดำคล้ำเริ่มจางลง      เฮ้อ!  ลุงทำหนูตกใจหมดเลย      
     "ดีขึ้นแล้วใช่ไหม ?"     เป็นคำพูดพร้อมรอยยิ้ม  ของพยาบาลหัวหน้า ER  ที่มาพร้อมกับเรา   ข้าพเจ้าและน้องพยาบาลก็ยิ้ม เมื่อเห็นคุณลุง  พูดโต้ตอบ    แพทย์โรงพยาบาลมวกเหล็ก ได้ตรวจร่างกาย และคลื่นหัวใจ  พบว่าสงสัย โรคหัวใจขาดเลือด  ต้องพบแพทย์เฉพาะทาง  จะเอาอย่างไร?     จะไปโรงพยาบาลแก่งคอยต่อ    หรือไปโรงพยาบาลสระบุรี   พยาบาลหัวหน้า ER  ซึ่งเป็นเจ้าของไข้บอกว่า  ก็คงต้องเป็นโรงพยาบาลสระบุรี    ทีม EMS  ของโรงพยาบาลแก่งคอย  จึงรับอาสา ส่งต่อให้ถึงโรงพยาบาลสระบุรี   ระหว่างทางหัวหน้า ER  เล่าให้ฟังว่า คุณลุง เป็นผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ที่โรงพยาบาล  และเป็น อสม. ด้วย  วันนี้ มาเข้า คอสต์ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ที่ไร่อรุณวิทย์    คุณลุง  มีเส้นเลือดอุดตันที่หัวใจ 2 เส้น ไม่ยอมรักษา  คราวนี้  ต้องรักษาแล้ว  รักษาเสร็จ  ลุงมาเข้าคอสต์กับหนูอีกไหม? คุณลุงพยักหน้าแล้วยิ้ม !     ทุกคนก็ยิ้ม ด้วยความดีใจที่คุณลุงปลอดภัย 
     อยากฝากบอกทุกคนว่า  อย่าลืมดูแลและใส่ใจกับสุขภาพด้วยนะคะ

     

วีรยา  ด่านเสนา
หมายเลขบันทึก: 411580เขียนเมื่อ 2 ธันวาคม 2010 11:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน 2012 20:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

ขอบคุณค่ะ..อ่านไปลุ้นไป..ขอชื่นชมทีมงาน ER ทุกคนที่ใช้หัวใจดูแลผู้ป่วย จนอยู่ในภาวะดีขึ้นเช่นนี้ค่ะ..

สวัสดีครับ.

เข้าชื่นชมและยินดีกับการทำงานที่ทุมเทเพื่อสังคมครับ

เป็นกำลังใจให้เสมอ ขอให้ทำต่อไปเพื่อสังคม...นะครับ

ขอชื่นชมทีมงานทุกคน คุณลุงโชคดีที่มีคุณหมอ คุณพยาบาลใจดีช่วยจนรอดพ้นมาได้

น่าประทับใจค่ะ แม้จะฉุกเฉิน ฉุกละหุก แต่ผู้ป่วยก็ได้รับการดูแลรักษาทันท่วงที

เป็นกำลังใจในการทำงานนะค่ะ

ขอขอบคุณมิตรภาพและบันทึกดีๆที่ได้รับมาตลอดปีนี้ และขอส่งความสุขสำหรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงค่ะ..

(บัตรอวยพร ดอกม่วงเทพรัตน์ ของมูลนิธิรามาธิบดีฯ ) คลิ๊กที่:

http://gotoknow.org/blog/nongnarts3/348844

ขอบคุณค่ะ  พี่ใหญ่นาง นงนาท สนธิสุวรรณ

ต้องบอกว่านาทีชีวิตจริงๆค่ะ  บางครั้งหลายสิ่งหลายอย่างก็เป็นอุปสรรคที่จะทำให้นาทีของชีวิตมีค่า  ดังเช่นเหตุการณ์ในเรื่องนี้

ถ้าหากหัวใจเราแข็งกระด้างทำเพราะเพียงตามหน้าที่ก็ยังไม่ทราบว่าผู้ป่วยจะดีขึ้นหรือไม่

ขอให้พี่ใหญ่สุขภาพแข็งแรงนะคะ

ขอบคุณค่ะคุณต้นสเต็ก

ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มอบให้เสมอมา

ใกล้ปีใหม่แล้วขอให้มีความสุขมากๆนะคะ

ขอบคุณค่ะพี่ใบบุญ

ปีใหม่นี้ขอให้พี่และครอบครัวมีความสุขมากๆนะคะ

ขอบคุณค่ะพี่คุณยาย

เดือนนี้เป็นเดือนดี  วันพ่อแห่งชาติ  และเดือนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 

ได้ทบทวนสิ่งดีๆที่ได้ทำมา  และสิ่งไม่ดีเพื่อแก้ไข

ขอให้คุณยายมีความสุขมากๆนะคะ

ขอบคุณค่ะ พี่อุ้มถาวร

ปีใหม่นี้ขอให้พี่อุ้มมีความสุขมากๆนะคะ

ขอบคุณค่ะ  คุณสามสัก

ขอพรนั้นจงประสบแด่คุณสามสักและครอบครัวด้วยค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท