กล้า..ที่จะเป็นพระเอก


เอาชนะใจตัวเองให้ได้ แล้วจะไม่รู้จักคำว่าแพ้อีกเลย

ถามว่าใคร? ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขั้นกับชีวิตของเรา

คงไม่มี เด็กอมมือคนไหนมานั่งพิมพ์อยู่หน้าจอคอมฯ บรรยายชีวิตตัวเองอยู่ในโลกออนไลน์ อย่างที่ทำอยู่นี่ได้หรอกนะ อายุปูนนี้แล้วถ้าชีวิตมันจะย่ำแย่หรือวิกฤตยังไงก็คงจะมัวไปโทษใครไม่ได้.
.....คำตอบคือ ง่ายมาก ไม่น่าถามเล้ย รู้ๆ กันอยู่

ใครๆ ก็เพลี่ยงพล้ำกันได้ในยุทธจักรนี้ หากพลังยุทธของเราไม่แก่กล้าพอ เหล่าจอมมารพร้อมที่จะเล่นงานเราอยู่เสมอ หากแต่ศรัตรูที่ร้ายกาจที่สุดในจำนวนอสูรฝ่ายอธรรมแท้จริงแล้วก็คือจอมมาร จอมอสูรที่แอบแฝงอยู่ในจิตใจเรา

.......เคยอ่านเรื่องราวชีวิตจริง ของผู้ประสบความสำเร็จมาแล้วหลายท่าน คงไม่เกินเลยจนเกินไปหากจะบอกว่าชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร(คุ้นๆ เนาะ) ผมมีฮีโร่ในดวงใจหลายคน บางคนเรื่องราวของเค้าก็ถูกนำมาสร้างเป็นหนัง หนึ่งในนั้นคือ คริส การ์ดเนอร์ ในเรื่อง Pursuit of Happyness (ยิ้มไว้ก่อนพ่อสอนไว้ : วิล สมิธ แสดงคู่กับลูกชาย)

.......ชีวิต ของเรา เราก็คือตัวเอกของเรื่อง แต่คนส่วนใหญ่แล้วไม่กล้าที่จะรับบทพระเอก ผมก็เหมือนกัน เพราะบทพระเอกเนี่ย....โคตรหิน ผมจำคำพูดในหนังเรื่องหนึ่งได้ คำพูดนั้นติดอยู่ในใจผมแต่ผมจำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร แม้กระทั่งเรื่องราวในหนังยึงนึกไม่ออก มันมีคำพูดที่ว่า "คนเรามีทางเลือกอยู่สองทางคือ ทางที่ถูกกับทางที่ง่าย" ประมาณเนี้ย "ถูกกับง่าย" ไม่ใช่ "ถูกกับผิด" คนส่วนใหญ่ชอบทำเรื่องง่ายๆ ก็เลยไม่ได้เป็นพระเอก เพราะพระเอกมันมักจะสามารถทำเรื่องยากๆ เหลือเชื่อ ไม่น่าเป็นไปได้ให้เป็นไปได้อยู่เสมอ ราวปาฏิหารย์ใครก็ทำไม่ได้นอกจากพระเอก .....(เรื่องง่ายๆ ทำบ่อยๆ ก็เลยทำให้มักง่าย ตัวโกงชอบทำ)

..........ถ้าคุณเป็นพระเอก คุณคงไม่เคยถามตัวเองหรอกว่า "ทำไมการทำความดีมันยากจัง" เมื่อก่อนผมเคยถามนะ แต่ตอนนี้ผมอยากเป็นพระเอก (ถึงหน้าจะไม่ให้ก็เถอะ)

....... ถ้าผมยอมเป็นแค่ตัวประกอบ บทไม่มีอะไรมาก ยอมให้เขากระทืบ ยอมถูกโดนยิงตาย ยอมวิ่งหนีไป ง่ายๆ แต่อีกไม่นานชีวิตผมก็จบ... ถ้าผมยอมเป็นโจรหรือตัวร้าย ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะมีความสุขตรงไหน ที่วันๆ อยู่แต่กับความโกรธแค้นอาฆาต ถึงจะได้ทุกอย่างที่อยากได้แต่ผมว่ามันไม่มีความสุข และในไม่ช้าผลกรรมก็ต้องตามทัน ผมมีคนที่ผมรัก คนที่รักผม ลูกชาย แก้วตาดวงใจชีวิตน้อยๆ ที่ยังพึ่งพาตัวเองไม่ได้ บทเดียวที่ผมควรจะรับไว้พิจารณา คือ บทพระเอก ผมต้องกล้าที่จะเป็นพระเอก ใครจะว่าเหมาะไม่เหมาะ แต่ต่อไปนี้ผมจะเลือก ทำสิ่งที่ถูก ไม่ใช่สิ่งที่ง่าย

........คิดซะว่านี่เป็นหนัง(จีนกำลังภายใน) บทตอนนี้มาถึงตอนที่เราเพลี่ยงพล้ำถูกพลังฝ่ามือปรักปรำขั้นที่เก้าของจอมมาร

*เคล็ดวิชาฝ่ามือปรักปรำ คือ พลังลมปราณปั้นน้ำเป็นตัว เอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่น

......... ให้สังเกตว่าจะมีตอนหนึ่งที่พระเอกโดนเล่นงานแทบตาย หลังจากนั้นพระเอกอาจจะรอดได้โดยโชคช่วย หรือรอดได้หวุดหวิดก่อนที่จะได้เจออาจารย์ที่เก่ง หรือคำภีร์เคล็ดวิชาสุดยอด จากนั้นก็หลบไปกบดานฝึกวิชายุทธในป่า สำเร็จแล้วก็มาต่อกรเอาชนะจอมมารได้ในที่สุด....นั่นมันในหนัง

........ เรื่องจริงจะเป็นงัยไม่รู้ แต่ถ้าไม่สู้ก็หายนะ หลังๆ มานี่ไม่ค่อยดูหนังจีนกำลังภายในแล้ว แต่มาคิดๆ ดูแล้วที่เรากำลังทำอยู่เนี่ยจะว่าไปมันก็คล้ายๆ หนังจีนนะ แล้ววันหนึ่งก็เลยบอกกับตัวเองว่า...."ตกลงครับผมจะรับบทพระเอก"

.........ในบทไม่ได้บอกด้วยสิว่าพระเอกจะตายตอนจบรึป่าว...อ้าว เอาเป็นว่าเล่นไปก่อน มาถึงตอนที่ต้องฝึกวิทยายุทธแล้ว

....... อาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกนี้เคยมีมา ก็คือ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่มีใครที่ปฏิบัติตามธรรม ของพระพุทธองค์ได้แล้วจะตกต่ำ และขั้นสูงสุดถ้าทำได้ก็คือ การถึงซึ่งพระนิพพาน หรือการหลุดพ้น ...ในกรณีนี้ขอมีสติปัญาก่อนก็พอ


**กระบวน การฝึกเจริญสติ........เริ่มไปได้สักพักแล้ว เริ่มจาก หาหนังสือมาอ่านพวกหนังสือที่ช่วยปรับจูนทัศนคติแย่ๆ ให้ได้ก่อน เอาเป็นพวกที่อ่านแล้วให้เกิดมีกำลังใจ อ่านประวัติคนเก่งๆ ที่เราชอบ ไว้มีโอกาสจะเอารายชื่อหนังสือมาบอก

.....หนังสือที่เกี่ยวกับการ พัฒนาตัวเอง หรือแนวคิดใหม่ๆ เกี่ยวกับการพัฒนาศักยภาพของตัวเอง ของจิตใต้สำนึก อะไรเทือกๆ นั้น อ่านไปอ่านมาในที่สุดก็พบว่า ธรรมะ คือสิ่งที่ประเสริฐที่สุด

......อ่านแล้วต้องปฏิบัติ วิปัสสนากรรมฐาน คือ การฝึกเจริญสติที่ดีที่สุดเป็นวิถีทางที่พระพุทธองค์ใช้ยึดถือปฏิบัติจน กระทั่งตรัสรู้ สำหรับเราเอาแค่พัฒนาให้เกิดสติปัญญารู้เท่าทันเวทนาก็ช่วยได้เยอะแล้ว

************นอนได้แล้วมั้ง*******************

ในหนังสือ "คิดใหญ่ไม่คิดเล็ก" บอกให้เราต้องรู้จักกำหนดเป้าหมาย

สิ่งที่พระเอกของเรื่องต้องทำ คือ

"นำลูกออกมาจากสถานสงเคราะห์ให้ได้ โดยเร็วที่สุดและด้วยวิธีที่ถูกต้อง"

นี่เป็นเป้าหมายหลัก เป้าหมายรองที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันยังไม่ขอพูดถึง

****หากไม่มีอะไรคลาดเคลื่อนพรุ่งนี้ จะออกเดินทางไปฝึกวิชาที่อุบลฯ แต่คราวนี้ไม่ได้ฝึกวิปัสสนา แต่ฝึกหล่อไฟเบอร์กลาส.....อาจต้องอยู่อุบลสักระยะ
ทำไมต้องเรียนหล่อไฟเบอร์กลาส แล้วมันเกี่ยวกับเป้าหมายหลักยังไง..........


.....ปาป๊ะ รักนีโอ นะครับ


 

Create Date : 06 พฤศจิกายน 2553

Last Update : 6 พฤศจิกายน 2553 1:16:52 น.

จาก

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=tarkish&group=3

หมายเลขบันทึก: 411423เขียนเมื่อ 1 ธันวาคม 2010 16:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 17:24 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท