การดูแลผู้ป่วยด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์


วันรุ่งขึ้นพยาบาลกำลังเดินเข้าไปทักทายคุณยาย แต่คุณยายรีบกระตือรือร้นเดินเข้ามาหาพยาบาลก่อนบอกว่า “คุณพยาบาล วันนี้ฉันเดินได้แล้วนะ ไม่ต้องมีใครช่วยพยุง เก่งไหม” พยาบาลตอบด้วยความชื่นชม และรู้สึกปลื้มปิติในใจลึกๆที่ทำให้คนๆหนึ่งเคยล้มแล้วลุกได้ “คุณยายเก่งมากเลยค่ะ ค่อยๆเดินอย่างระมัดระวังนะคะ เดี๋ยวพยาบาลช่วยค่ะ” ขณะนั้นพยาบาลใช้มือเข้าไปโอบประครองสัมผัสคุณยาย ซึ่งรู้สึกอบอุ่นเหมือนได้กอดแม่ที่เรารักมาก

  ชีวิตใหม่ที่รอคอย

            ตึกสองชั้นนี้โดดเด่นตั้งตระหง่านอยู่โดดเดี่ยว มองแล้วรู้สึกเหมือนบ้านหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางทุ่งนา ห่างไกลจากสังคมเมือง ซึ่งล้อมรอบด้วยต้นไม้นานาชนิด มีสระน้ำขนาดกลางอยู่ด้านข้างและมีสีสันของดอกบัวเพิ่มความสดชื่นให้แก่ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา ท่ามกลางธรรมชาติที่จัดสรรความสวยงามมารวมกันอย่างน่าทึ่งนี้ แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าสถานที่นี้ คือ ตึกมหัศจรรย์ที่บำบัดรักษาผู้ป่วยยาเสพติดหญิงทุกประเภท ระยะบำบัดด้วยยา เรียกตึกนี้กันว่า “ตึกเพทาย”

            ตึกเพทายเป็นหนึ่งในสถาบันธัญญารักษ์ ที่มีผู้ป่วยหลายชีวิตที่ต้องการหลุดพ้นจากการตกเป็นทาสของยาเสพติด ต้องการให้พยาบาลเยียวยารักษาในทุกๆด้านที่เขาทุกข์ใจ เพราะพวกเขาไว้วางใจและเห็นในความสามารถในการเป็นศิราณีของพยาบาล แม้ว่าการดูแลผู้ป่วยหญิง จะรู้สึกยุ่งยากซับซ้อนกับการเข้าถึงสภาวะจิตใจ น่าเบื่อกับความจู้จี้จุกจิกของหญิงเล็กจนถึงหญิงใหญ่ อาจจะรู้สึกแปลกๆ กับการดัดแปลงวิธีการดูแลผู้ป่วยให้ทันยุคสมัยอยู่เรื่อยๆ แต่รู้ไหมว่าเป็นการสร้างสีสันการทำงานให้มีชีวิตชีวามากขึ้น และทุก ๆ วันของการทำงานมีเรื่องท้าทายอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการท้าทายในการดูแลผู้ป่วยเป็นจุดประกายที่ทำให้เกิดความภาคภูมิใจ ความสำเร็จที่ทำให้เกิดชีวิตใหม่กับใครหลายคน และยังเป็นความหวังที่รอคอยของญาติที่พาผู้ป่วยเดินเข้ามา ณ ที่นี้

           ในเช้าวันหนึ่ง เป็นวันเปิดทำการวันแรกของสัปดาห์ พยาบาลทุกคนรู้สึกกระตือรือร้นในการทำงาน เพราะวันหยุดที่ผ่านมาได้ชาร์จแบตเตอรี่กับชีวิตมาเต็มที่แล้ว วันนี้พยาบาลแต่ละคน หน้าตาแฉล้ม สดชื่น แจ่มใส พร้อมจะดูแลผู้ป่วยที่เกือบเต็มตึก ความรู้สึกภายในอาจจะรู้สึกเหนื่อยเพราะต้องดูแลผู้ป่วยหนักอีก 2 คน แต่ชีวิตการทำงานที่ท้าทายของพยาบาลจะต้องดำเนินต่อไป เพื่อชีวิตของผู้ป่วยที่พวกเราคาดหวังไว้ว่าจะต้องดีกว่าเมื่อวาน

           ในเวลาเกือบเที่ยง ที่หลายๆ คนกำลังรับประทานอาหารกัน แต่ไม่ใช่กับพยาบาลที่นี่ ซึ่งกำลังสาละวนในการเตรียมผู้ป่วยพบแพทย์ และการรับผู้ป่วยที่มาใหม่ ขณะนั้นเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นพร้อมกับเสียงหวานๆ ของปลายสายที่ผู้รับสายคิดว่าคงเป็นข่าวดีแน่นอน “สวัสดีค่ะ โทรจาก OPD เตรียมรับผู้ป่วยสุรา 1 คน อายุ 57 ปี มาด้วยอาการแขนขาไม่มีแรง เดินไม่ได้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ มา 1 สัปดาห์” หลังจากวางสายแล้ว พยาบาลจึงคุยกันว่า “ว้า...คิดว่าไม่ยุ่งเสียแล้ว วันนี้มีเรื่องให้สนุกสนานกันอีกแล้ว” หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที มีผู้ชาย 1 คนและผู้หญิง 2 คนเดินมาพร้อมเจ้าหน้าที่เข็นรถเข็นมาที่ด้านล่างของตึก ผู้ป่วยที่นั่งอยู่บนรถเข็นนั้นเป็นหญิงไทยสูงอายุ รูปร่างท้วม  ผิวขาวซีด ผมดำหยิกหยักศกแซมด้วยสีขาว สภาพร่างกายทรุดโทรม ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย มองดูแล้วน่าสลดใจในสภาพของคุณยายผู้นี้ ภาพนี้ได้หายไปจากสายตาพร้อมกับรู้สึกชื่นชมกับความน่ารักของชายผู้เป็นลูกชายคนเล็กอุ้มแม่จากด้านล่างตึกเดินขึ้นบันไดมาบนหอนอนผู้ป่วยที่อยู่ชั้นสอง และค่อยๆวางแม่บนเตียงโดยไม่ต้องร้องขอให้กระทำเช่นนั้น หลังจากลูก ๆ เดินทางกลับ พยาบาลช่วยกันเปลี่ยนเสื้อผ้าคุณยายด้วยความนุ่มนวล ซึ่งขณะนั้นเองคุณยายอาเจียนเลอะบนที่นอน ถ้าเป็นคนธรรมดาที่ไม่ใช่คนป่วยพวกเราคงรู้สึกโมโหที่อาเจียนไม่เป็นที่เป็นทาง เพราะคุณยายเปรียบเสมือนคนในครอบครัวของบ้านหลังนี้ที่พวกเราต้องดูแล พยาบาลหัวหน้าเวรไม่รอช้ารีบรายงานแพทย์ประจำตึกทันที ได้ให้การรักษาโดยเปิดเส้นให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำ จากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ทางห้องตรวจปฏิบัติการโทรศัพท์แจ้งผลอิเล็คโตรไลท์ พบว่าโพแทสเซียมต่ำ ด้วยหัวใจความเป็นพยาบาลรีบหยิบโทรศัพท์ส่วนตัวรายงานแพทย์ว่า “คุณหมอคะ คุณยายรับใหม่ที่ติดสุราแขนขาไม่มีแรง โพแทสเซียม 2.8 ค่ะ” คุณยายได้รับการรักษาโดยได้ Elixir Kcl 30 ml ทุก 4 ชั่วโมง 3 dose และในวันรุ่งขึ้นตรวจอิเล็คโตรไลท์ซ้ำผลโพแทสเซียมปกติ วันนั้นเองคุณหมอแสนสวย และใจดีที่เป็นแพทย์ประจำตึกเพทาย เดินอุ้ยอ้ายเพราะท้องแก่ เดินเข้าไปในหอนอนผู้ป่วยพร้อมพยาบาล เดินเข้าไปจับมือ ตรวจร่างกายและพูดคุยกับคุณยายเหมือนลูกหลานกำลังคุยกับยายอยู่ แต่ภาพที่พยาบาลเห็นคุณยายยังนอนหลับตาพริ้มหน้าตาอิดโรย ไม่สดชื่น แต่แสดงการรับรู้โดยการพยักหน้า

            แม้คุณยายจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่พยาบาลช่วยกันดูแลให้ด้วยความเต็มใจ ตั้งแต่ป้อนข้าว ป้อนน้ำ เช็ดตัว เปลี่ยนผ้าอ้อมสำเร็จรูป เปลี่ยนเสื้อผ้า และที่สำคัญพูดคุยกับคุณยายทุกวัน ซึ่งการดูแลในแต่ละเวรอาจจะรู้สึกเหน็ดเหนื่อยและท้อแท้บ้าง

           ห้าวันแรกของการมารักษา แม้ลูกจะไม่ได้มาเยี่ยมแต่โทรถามอาการเป็นระยะๆ และพยาบาลจะคอยส่งสารให้คุณยายรับรู้ทุกวัน ดูแล้วน่าชื่นใจที่ลูกไม่ทอดทิ้งแต่ไม่สามารถดูแลอย่างใกล้ชิดได้ด้วยภารกิจของแต่ละคน

           หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป มีลูกสาวและลูกชายได้ผลัดกันมาเฝ้าเป็นระยะๆ แม้ว่าคุณยายนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงก็รับรู้ได้ถึงความอบอุ่น พยาบาลได้แต่ฝันว่าอีกไม่นานคุณยายต้องลุกขึ้นนั่งได้เอง หยิบช้อนกินข้าว และเดินได้ แต่ตอนนี้พยาบาลเหมือนฝันสลาย คุณยายยังนั่งทรงตัวไม่ได้เลย พูดคุยด้วยแต่ไม่มีเสียงใดตอบกลับมามีแต่การพยักหน้า ส่ายศีรษะไปมาอย่างช้าๆ วันต่อมาพยาบาลเริ่มใจชื้นขึ้นมาบ้างที่คุณยายมีการตอบสนองโดยพูดเป็นคำๆเหมือนเด็ก 1 ขวบ

           ในวันที่ 10 ของการรักษาคุณยายเริ่มดีขึ้นพูดเป็นประโยค แต่ซึมลงมีไข้สูง หนาวสั่น และบอกพยาบาลว่า “ปวดท้องน้อย” จึงรายงานแพทย์เพราะคิดว่าน่าจะติดเชื้อทางเดินปัสสาวะอย่างแน่นอน หลังจากได้ผลการตรวจปัสสาวะพบว่ามี WBC 100-200  แพทย์ให้การรักษาโดยให้ยา Cef-3 2gm V OD จำนวน 3 วันหลังจากฉีดยาครบ ตรวจปัสสาวะซ้ำไม่พบการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะอีก เหมือนปาฏิหาริย์มีจริงดังที่พยาบาลฝันไว้ คุณยายมีแรงมากขึ้น เมื่อจับลุกนั่งสามารถทำได้ดีและนาน เริ่มควบคุมกล้ามเนื้อมือ ตักข้าวใส่ปากได้ โดยมีพยาบาลเป็นกองกำลังเสริมพลังใจอยู่ด้านข้าง วันต่อมาคุณยายเริ่มเดินเตาะแตะอยู่รอบๆเตียง ก้าวแต่ละก้าวเดินได้อย่างมั่นใจด้วยกำลังใจจากพยาบาลที่ประครองและเดินไปพร้อมๆกัน รอยยิ้มของคุณยายที่เคยแห้งเหือดได้กลับมาอีกครั้ง เป็นรอยยิ้มที่ยิ้มอย่างมีความสุขจนแทบจะล้นอกกับการที่เดินไม่ได้มาเกือบเดือน วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่ที่คุณยายบอกกับพยาบาล

           วันรุ่งขึ้นพยาบาลกำลังเดินเข้าไปทักทายคุณยาย แต่คุณยายรีบกระตือรือร้นเดินเข้ามาหาพยาบาลก่อนบอกว่า “คุณพยาบาล วันนี้ฉันเดินได้แล้วนะ ไม่ต้องมีใครช่วยพยุง เก่งไหม” พยาบาลตอบด้วยความชื่นชม และรู้สึกปลื้มปิติในใจลึกๆที่ทำให้คนๆหนึ่งเคยล้มแล้วลุกได้ “คุณยายเก่งมากเลยค่ะ ค่อยๆเดินอย่างระมัดระวังนะคะ เดี๋ยวพยาบาลช่วยค่ะ” ขณะนั้นพยาบาลใช้มือเข้าไปโอบประครองสัมผัสคุณยาย ซึ่งรู้สึกอบอุ่นเหมือนได้กอดแม่ที่เรารักมาก

           เกือบ 3 สัปดาห์ คุณยายเดินได้คล่องแคล่วเหมือนสาวๆ เข้ามาขอทำกิจกรรมทางเลือก“กระเป๋าลูกปัด”กับพยาบาลๆ พูดทีเล่นทีจริงว่า “คุณยายจะร้อยได้เหรอ ลูกปัดเม็ดเล็กมากนะ” คุณยายหัวเราะ “ขอยืมแว่นผู้ป่วยอื่นมา ฉันทำได้ อย่ามาดูถูกฉันนะ สมัยสาวๆฉันถักเสื้อ ร้อยลูกปัดมาแล้ว” พยาบาลนั่งดูคุณยายร้อยลูกปัดด้วยท่าทางคล่องแคล่ว แต่ร้อยลูกปัดไม่ค่อยถูก “คุณยายลูกปัดมันเล็กไปหรือคะ” “แต่ฉันทำได้นะ” พยาบาลและคุณยายหัวเราะไปด้วยกัน พยาบาลสังเกตเห็นแววตาของคุณยายเป็นประกายมีความสุขมากขณะทำกิจกรรม คุณยายเล่าความหลังเก่าๆหลายเรื่องให้ฟัง ตอนนี้รู้สึกว่าพยาบาลเป็นหลานๆที่ผู้เฒ่าผู้แก่กำลังพาย้อนไปในอดีต ในวงสนทนาพูดคุยด้วยท่าทางไม่เก้อเขิน รู้สึกอบอุ่น เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน  

           ในขณะทำกิจกรรมพยาบาลได้ถามคุณยายว่า “ขณะที่คุณยายนอนอยู่มีใครดุบ้างไหมคะ”

คุณยายอมยิ้ม และพูดว่า “ไม่ดุนะ มีแต่พยาบาลน่ารัก ใจดีมาคุยกับฉันทุกวันเลย” พยาบาลแกล้งถามต่อว่า “ใครกันนะ ที่นอนอยู่บนเตียง ไม่ค่อยพูด เดินไม่ได้ ตลอด 2 สัปดาห์” คุณยายตอบแบบตลกๆแต่จริงใจ “ฉันไม่รู้เหมือนกัน ฉันน่ะเป็นคนใหม่ คนเก่าฉันไม่รู้จักหรอกค่ะ ไม่รู้ว่าเป็นใคร รู้แต่ว่าคนนี้คือคนใหม่ ที่นี่ให้ชีวิตใหม่กับฉัน”

            ในวันสุดท้ายของการรักษา พยาบาลได้รอยยิ้มหลายรอยยิ้มมากขึ้น เป็นรอยยิ้มที่มีความสุขของลูกสาวและลูกชายที่มารับแม่กลับบ้าน ลูกๆพูดกับพยาบาลด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า “ขอบคุณพยาบาลทุกคนมากที่ให้การดูแลแม่เป็นอย่างดี ฉันจะไม่ลืมไมตรีนี้ที่ให้กับครอบครัวของเรา ฉันจะไม่ลืมพระคุณ ที่นี่ได้ให้ชีวิตใหม่กับแม่ เป็นชีวิตที่พวกเรารอคอยให้แม่เดินได้ กลับมาเป็นแม่ที่ดีของพวกเราต่อไป” ลูกสาวพูดต่อด้วยความจริงใจ “หากถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 จะบริจาคให้โรงพยาบาล 5 แสนเลยค่ะ” “ไม่เป็นไรค่ะ พยาบาลยินดีดูแลผู้ป่วยทุกคนที่มารักษา ด้วยความหวังอยากให้ผู้ป่วยที่เหมือนญาติสนิทมีอาการดีขึ้นและเป็นคนใหม่ของครอบครัวค่ะ”

            หลังจากคุณยายกลับไป พยาบาลทุกคนที่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย ท้อแท้ในการทำงาน รู้สึกภาคภูมิใจในงานที่ทำและมีกำลังใจในการดูแลผู้ป่วยยาเสพติดต่อไป คุณยายเป็นหนึ่งในครอบครัว ซึ่งมีอีกหลายๆ ครอบครัวที่กำลังรอคอย ฝากความหวังชีวิตใหม่กับที่นี่ ไม่เพียงแต่ตึกเพทายเท่านั้น แต่รวมถึงสถาบันธัญญารักษ์ ที่พวกเราพยาบาลทุกคนจะสร้างชีวิตที่รอคอยให้ครอบครัวของพวกเขาต่อไ

หมายเลขบันทึก: 411119เขียนเมื่อ 29 พฤศจิกายน 2010 21:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 01:57 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

มาเยี่ยมยาม คุณยาย ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท