ในทางศาสนาอิสลามแล้ว เขาห้ามการทำซินา(การมีเพศสัมพันธ์ก่อนบรรลุศาสนภาวะและก่อนการแต่งงานตามหลักศาสนาที่ถูกต้องซึ่งได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย)สำหรับสังคมที่ไร้ศาสนาและความศรัทธาในศาสนาแล้ว โดยเฉพาะสังคมตะวันตกที่พบเรื่องเหล่านี้มาก ไทยเราก็ไม่ต้องตกใจกับเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้เพราะจากงานศึกษาวิจัยทั้งของ สภาวิจัยแห่งชาติ และของ กระทรวงพัฒนาสังคมฯ พบว่ามีหญิงที่มีภาวะแทรกซ้อนจาการทำแท้งเถื่อน แล้วแม่เด็กเหล่านี้ต้องไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลของรัฐทั่วประเทศมีถึง 4.5 หมื่นราย(นี่เป็นรายที่ทำแท้งเถื่อนแล้วไม่ปลอดภัย)ส่วนยังมีหญิงอีกจำนวนมากที่ได้รับการบริการสถานที่ทำแท้งเถื่อนยุติการตั้งครรภ์แล้วปลอดภัยมีจำนวนไม่น้อย เรายังพบจากการศึกษาวิจัยด้วยว่าสาเหตุของเรื่องนี้มาจาก
1.ผู้หญิงเหล่านี้ได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้องในเรื่องวิธีคุมกำเนิด
2.รัฐไม่จัดบริการด้านการคุมกำเนิดที่เพียงพอ
3.มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าจนทำให้ไม่ได้เตรียมอุปกรณ์คุมกำเนิดที่เหมาะสม
4.หญิงมีโรคประจำตัวทำให้ใช้ยาคมไม่ได้
5.การตั้งครรภ์นอกสมรส
6.หญิงพบว่าสามี มีภรรยาอยู่แล้ว
7.ถูกข่มขื่น รุมโทรม
8.มีการตั้งครรภ์ขณะเรียนหนังสือ
9.ตั้งครรภ์แล้วสามีเสียชีวิต
10.มีภาวะทางเศรษฐกิจที่ไม่สามารถเลี้ยงดู หรือให้เขาเกิดขึ้นมาได้
ในสังคมตะวันตกมีประเทศเนเธอแลนด์ มีกฎหมายการทำแท้งเสรีถูกกฎหมาย มีสถานบริการทำแท้งอย่างทั่วถึง อัตราการทำแท้งต่ำกว่า เพราะมีการคุมกำเนิดที่ทั่วถึง
ในสังคมไทยมีผู้เกี่ยวข้องได้แก่ผู้หญิงที่เป็นเจ้าของปัญหา หมอเถื่อน ผู้ชายที่มีส่วนทำให้ตั้งครรภ์ ผู้หญิงในที่นี้ไม่เฉพาะวัยรุ่นวัยใสเท่านั้น หากรวมผู้ใหญ่และผู้ที่แต่งงานแล้วก็มีมากเช่นกัน การทำแท้งเสี่ยงต่อสุขภาพ เสี่ยงชีวิต เสี่ยงต่อความพิการ เสี่ยงต่อกฎหมาย การยุติการตั้งครรภ์จึงเลือกทำสถานที่บริการเถื่อนที่ราคาแพงลิบริ่ว เขากล่าวกันว่าหากประเทศที่มีอัตราการคุมกำเนิดต่ำหรือไร้ประสิทธิภาพ ประเทศนั้นจะมีการทำแท้งสูง
ทางออกของปัญหาเหล่านี้
1.ควรจัดให้มีการให้การศึกษาเรื่องเพศ ทำให้คนทุกวัย ไม่เฉพาะเยาวชน สามารถประเมินโอกาสการมีเพศสัมพันธ์ของตัวเองได้
2.ทั้งหญิงและชาย คู่ของตน ควรตกลงกันอย่างเสมอภาคว่า จะมีเพศสัมพันธ์กันหรือไม่ และจะป้องกันอย่างไร จึงจะปลอดภัยที่สุด เมื่อเกิดการละเมิดข้อตกลงจะทำอย่างไร
3.ใคร หน่วยงานไหนควรจะพัฒนาทักษะเหล่านี้
4.ควรมีบ้านพัก ให้บริการระหว่างตั้งครรภ์และหลังคลอด รวมถึงสถานที่ดูแลและเลี้ยงดูเด็กทั้งในแง่ชั่วคราวหรือรับอุปถัมภ์ถาวร ซึ่งรัฐจะต้องเร่งพิจารณาเรื่องนี้
5.กฎหมายปัจจุบัย สามารถให้หญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี ยุติการตั้งครรภ์ได้ กรณีที่การตั้งครรภ์นี้เป็นอันตรยกับผู้เป็นแม่ และกรณีตั้งครรภ์จากถูกข่มขืน ซึ่งรัฐคงต้องพิจารณากฎหมายใหม่
ต้องไม่ลืมว่าถ้าไม่หาทางออกที่เหมาะสมเราอาจจะพบซากทารกมากว่าที่เราทราบมาก็เป็นได้