ออกจากเขื่อนป่าสัก เดินทางไปจ้งหวัดเพชรบูรณ์ ระยะทางไม่ไกลเดินทางสบาย ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องที่พักที่เขาค้อ มีรีสอร์ทมากมาย ที่สวย ๆ ก็ดูจากเน็ต ไม่หลอกสายตาสวย ๆ ทุกที่ เช่นที่เขาค้อทะเลหมอก แต่บังเอิญวันที่ไปที่พักหลายแห่งเต็มต้องตระเวนหาที่พัก แต่ก็ไม่ผิดหวัง ได้ที่พักที่บ้านรชดา อยู่บนเขา สวย อากาศหนาวเย็นขนาดเป็นช่วงเดือนตุลาคม ยังนอนสบายไม่ต้องเปิดแอร์ ราคาก็ไม่แพง บ้านทั้งหลังแค่ 2,500 บาท พักได้หลายคน มีอาหารเช้า
พักเขาค้อ 1 คืน อายุยืน 1 ปี เลยหาที่พักซะ 2 คืน อยากอายุยืน อีกหน่อย ในคือที่ 2 จึงได้พักที่เขาค้อทะเลหมอก เป็นที่พักที่สวยงาม ท้าทาย เนื่องจากอยู่บนเชิงเขา เป็นหน้าผาสูงชัน วางแผนว่าตอนเช้าจะได้ดูทะเลหมอก ที่นี่อากาศสดชื่นมาก เหมือนอยู่บนวิมาน มีความสุขสนุกสนานกับเพื่อน พี่ๆ และครอบครัว ความสุขที่แท้จริงของชีวิต ต้องซื้อด้วยเงิน
ในวันที่พักเขาค้อทะเลหมอก ผิดหวังเล็กน้อยที่ตอนเช้าไม่เห็นหมอกลงเนื่องจากฝนตกตอนช่วงตี 4 แต่ก็ได้บรรยากาศที่สวยงามมาก ที่เขาค้อทะเลหมอกมีหน้าผาให้ปีนเพื่อทดสอบความแข็งแรงของร่างกาย คนอื่น คงสบาย ๆ แต่เราเหนื่อยแทบแย่ ต้องคลานสี่ขา ผ้าพันคอกันหนาวต้องพันเอง เพราะร้อน หายใจไม่ทัน
มีลานกางเต็นท์ สำหรับนักท่องเที่ยว แต่ถ้าช่วงฤดูฝนไม่ขอแนะนำ นอนบ้านจะดีกว่า
บ้านกังหัน หลังเล็ก ๆ น่ารัก เหมาะสำหรับ 2 คน แต่พวกเราไปกัน 9 คน ต้องใช้บ้านหลังใหญ่ แต่ราคาก็ไม่แพง หลังละ 3,500 บาท มีอาหารเช้า กลางคืนเต็นท์ว่าง ๆ ก็ไปอาศัยนอนได้
ระหว่างทางก็แวะจิบน้ำชา ที่ร้านกาแฟ เป็นร้านที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงามมาก หลานสาวตัวเล็ก (รวงข้าว) จะชอบมาก
แวะเที่ยวพระตำหนักเขาค้อ เป็นสถานที่ น่าพักอีกแห่งหนึ่งที่เขาค้อ สงบเงียบอยู่ในความดูแลของทหาร มีบ้านพักเป็นเรือนแถว แต่ที่ดีคือบรรยากาศ หนาวเย็นกำลังสบาย
ระหว่างทางแวะที่ลานหินแตก เป็นแห่งแรกที่ได้สัมผัสกับละอองหมอกตอนเช้า
ออกเดินทางไปภูทับเบิก ไร่กะหล่ำปลี มีการตัดไม้เพื่อปลูกกะหล่ำปลีกันทั้งภูเขา ดีหรือไม่ดีไม่อยากวิจารณ์ แต่ว่ามันสวย อากาศหนาวเย็น แต่เส้นทางขึ้นเขาวกวน ค่อนข้างน่ากลัว โดยเฉพาะคนที่นั่งหน้าคู่คนขับต้องช่วยเบรคจนปวดขา
จากภูทับเบิกเดินทางต่อไปจังหวัดเลย เป้าหมายคือภูเรือ ต้องการไปสัมผัสความหนาวเย็นบนยอดภู แวะพักที่บ้านพักของอุทยาน ตอนเช้าตื่นตั้งแต่ตี 5 ขึ้นไปบนยอดภู ที่บริเวณผาโหล่น้อย เจอกับอากาศหนาวเย็น มีหมอกคล้าย ๆ ฝน คนที่ไปต้องเตรียมตัวให้พร้อมควรมีหมวก มีเสื้อกันหนาว ถ้าไม่พร้อมอาจเป็นหวัดปอดบวมได้ง่าย
ออกจากภูเรือ เดินทางไปเชียงคาน ในช่วงกลางวัน ไม่มีอะไรให้ชม ไปเดินเที่ยวซื้อของที่บริเวณแก่งคุดคู้ ทานอาหารกลางวันริมแม่น้ำโขง แวะซื้อมะพร้าวแก้ว แล้วเดินทางกลับถึงแปดริ้วประมาณ 22.22 น.ของวันที่ 27 ต.ค.53 ได้กำหนดโปรแกรมใหม่ไว้ว่าเดือนธันวาคม จะไปนอนกางเต้นท์ดูดาวที่เขาแผงม้า ช่วงที่คนน้อย ๆ เขาใหญ่ไม่ไปแล้ว คนเยอะเหมือนค่ายอพยพ
แก่งคุดคู้ต้องมุมนี้ถึงจะสวย...นางแบบเค้าสวย
แก่งคุดคู้ที่เคยเห็นในหน้าแล้ง เห็นแก่งชัดเจนมาก ตอนน้ำท่วมดูว่าไม่คุดคู้เท่าไรนะครับ
สวัสดีค่ะ
อีกทริปที่อยากไปคือที่เชียงคานค่ะ
ตอนนี้ยังไม่มีโอกาสได้ไป หนึ่งขอตามมาเที่ยวด้วยคนนะคะ ^^
ขอบคุณ Hana คนถ่ายรูปสวยค่ะ
มาเยี่ยมครับ...เห็นบรรยากาศสถานที่น่าจัดเข้าค่ายดีครับ..ได้สูดอาศอันบริสุทธิ์บนเขาค้อ...บรรยากาศดีมากเคยไปมาแล้วครับ