DRGs เป็นระบบแบ่งกลุ่มผู้ป่วยอย่างหนึ่ง (Patient Classification System) ที่อาศัยข้อมูลไม่มากนักมาจัดกลุ่มผู้ป่วยเพื่อบอกว่า ผู้ป่วยในกลุ่มเดียวกันจะใช้เวลานอนในโรงพยาบาลใกล้เคียงกันและสิ้นเปลืองค่ารักษาใกล้เคียงกัน (resource use)
DRGs ทำงานโดยอาศัยการจัดกลุ่มรหัส ICD-10 และ ICD-9-CM ที่มีมากกว่า 10,000 รายการให้อยู่ในกลุ่มที่สามารถจัดการได้เหลือ 500+ กลุ่ม
ความเป็นมา : ถูกคิดค้นที่อเมริกา ประมาณ ปี ค.ศ. 1970 มีการทดลองใช้ครั้งแรก เพื่อใช้คิดค่าใช้จ่ายให้แก่โรคพยาบาลที่ให้การรักษาแก่ผู้สูงอายุในโครงการสวัสดิการรักษาพยาบาลผู้สูงอายุ nการนำมาใช้ในประเทศไทย เริ่มต้นเป็นโครงการวิจัย โดยเริ่มมาตั้งแต่ปี 2536
แนวคิด : แนวคิดทางเศรษฐศาสตร์สาธารณสุขที่ต้องการหาฟังก์ชั่น ของการผลิต (Production Function) ที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาล nแนวความคิดทางวิศวกรรมที่ผลักดันให้ค้นหาวิธีวิเคราะห์การใช้ทรัพยากรของหน่วยงานในระดับจุลภาคและนำมาสู่การแบ่งกลุ่มผู้ป่วย
ประโยชน์ที่จะได้รับ :
- ใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการจัดบริการให้ต้นทุนที่ต่ำที่สุดแต่คุณภาพมาตรฐานใกล้เคียงกัน
- โรงพยาบาลสามารถใช้กลุ่มวินิจฉัยโรคร่วมในการปรับปรุง
ประสิทธิภาพในเรื่อง การบริหารจัดการ และการใช้ทรัพยากรอย่างประหยัด เช่น
- การทบทวนการใช้เตียงและการใช้ห้องผ่าตัดอย่างมีประสิทธิภาพ
- การปรับปรุงระบบงานต่าง ๆ เพื่อลดค่าใช้จ่ายภายในโรงพยาบาลเอง เพื่อลดต้นทุนต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็น
ประโยชน์ในด้านการบริหาร :
- ข้อมูลวินิจฉัยโรคร่วมสามารถคาดการณ์ความจำเป็นด้านการ จัดบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่จะเป็น ซึ่งผู้บริหารสาธารณสุขระดับสูง สามารถใช้ประกอบการพิจารณาจัดสรรงบประมาณทั้งในระดับส่วนกลางและภูมิภาค
- นำข้อมูลมาช่วยการพัฒนาระบบประกันสุขภาพ คือ การทำให้ประชาชนไทยทุกคนสามารถเข้าถึง บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่มีคุณภาพได้มาตรฐานอย่างเสมอภาคกัน และขณะเดียวกันก็สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ ในภาพรวมของประเทศได้มาตรฐานอย่างเสมอภาคกัน และในขณะเดียวกันก็ต้องสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในด้านสุขภาพ ในภาพรวมของประเทศได้nข้อมูลวินิจฉัยโรคร่วมสามารถคาดการณ์ความจำเป็นด้านการ จัดบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่จะเป็น ซึ่งผู้บริหารสาธารณสุขระดับสูง สามารถใช้ประกอบการพิจารณาจัดสรรงบประมาณทั้งในระดับส่วนกลางและภูมิภาค
- นำข้อมูลมาช่วยการพัฒนาระบบประกันสุขภาพ คือ การทำให้ประชาชนไทยทุกคนสามารถเข้าถึง บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่มีคุณภาพได้มาตรฐานอย่างเสมอภาคกัน และขณะเดียวกันก็สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ ในภาพรวมของประเทศได้มาตรฐานอย่างเสมอภาคกัน และในขณะเดียวกันก็ต้องสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในด้านสุขภาพ ในภาพรวมของประเทศได้
ประโยชน์ต่อประชาชน :
- การนำ กลุ่มวินิจฉัยโรคร่วมมาใช้ในระบบงานสาธารณสุขจะทำให้ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเลือกวิธีการรักษาพยาบาลของตนเองและญาติได้ดีขึ้นรวมทั้งวางแผนเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพกรณีที่ต้องการจ่ายเงินเอง รวมทั้งการซื้อประกันสุขภาพจากระบบต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประโยชน์ต่อการพัฒนาองค์กรวิชาชีพ
- nการนำกลุ่มวินิจฉัยโรคร่วมมาใช้จะกระตุ้นให้องค์กรวิชาชีพต่าง ๆ มีการพัฒนามาตรฐาน ด้านการรักษาพยาบาลที่มีทั้งประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น และทำให้การบริการเน้นที่ ผู้ป่วย (Patient Focus) มากขึ้น
คุณสมบัติสำคัญของ DRGs :
- ใช้ข้อมูลที่มีอยู่แล้วในระบบ (ICD-10/ICD-9-CM)
- มีความคล้ายคลึงด้านต้นทุนในการรักษา
- มีความคล้ายคลึงกันในทางคลินิก nฐานข้อมูลถูกปรับให้เป็นปัจจุบันทุกปี
- มีใช้กันอย่างแพร่หลาย
องค์ประกอบของ DRGs :
- ความหนักเบาของความเจ็บป่วย
- การทำนายผลการรักษา
- ความยากง่ายของการรักษา
- ความจำเป็นในการผ่าตัดรักษา
- ความต้องการใช้ทรัพยากรของโรงพยาบาล
ประโยชน์ทางตรง :
- การจ่ายเงินกรณีค่ารักษาราคาสูง
- การทบทวนคุณภาพ ข้อมูล และการรักษาพยาบาล
- การจัดสูตรจัดสรรงบประมาณ
ประโยชน์ระยะยาว :
- การประเมินความเป็นธรรมของการรับบริการ
- ตรวจสอบการข้ามเขตรับบริการ
- เครื่องมือของการปฏิรูปการจ่ายเงิน ระบบหลักประกันถ้วนหน้า
ข้อควรระวังก่อนนำไปใช้ประโยชน์ :
- ความถูกต้องของข้อมูล
- ความครบถ้วนของข้อมูล
- ข้อมูลต้นทุน
- ทฤษฎีพื้นฐานของกลุ่มวินิจฉัยโรคร่วม
ผลกระทบของ DRG (ด้านดี) :
- สามารถคุมค่าใช้จ่ายได้ (Cost containment) สามารถบอกผู้ป่วยได้ว่าจะรักษาตัวในโรงพยาบาลนานประมาณเท่าใด
- กระตุ้นประสิทธิภาพของร.พ. เช่น การใช้เตียง, การใช้ห้องผ่าตัด, การรับและจำหน่ายผู้ป่วย
- ปรับระบบข้อมูลดีขึ้น โดยเฉพาะ Medical record
ผลกระทบของ DRG (ด้านลบ) :
- เกิดการเบี่ยงเบนต้นทุน (Cost shifting) หากทราบต้นทุนมาตรฐานอาจทำให้ รพ. มีการเบียงเบนต้นทุนให้มากขึ้นหรือลดลง
- การกลับเข้านอน ร.พ. สูงขึ้น (Readmission) ในกรณีที่ผู้ป่วยนอนเกินวันนอนมาตรฐาน แพทย์อาจสั่งจำหน่ายผู้ป่วยเร็วกว่าปกติ ส่งผลต่อประสิทธิภาพการรักษาที่ลดลง
- ข้อมูลเบี่ยงเบน (DRG creep) มีการแก้ไขข้อมูล เพื่อให้เข้ากลุ่ม Drgs
บทความต่อไปจะกล่าวถึง ชุดข้อมูลมาตราฐาน 12 แฟ้ม
อ้างอิงจาก ภก.ชัยพร สุรเตมีย์กุล วันที่ 16 เมษายน 2548