สอนชีวิตจากการแยกขยะ
จากการศึกษาดูงานของพวกเรา จุดเริ่มต้นจากการแยกขยะได้สอนการดำเนินชีวิตการใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า เช่น
(1) การใช้สิ่งของที่เกี่ยวกับตนเองอย่างพอดี แล้วให้นำกลับมาใช้ซ้ำอีกครั้ง หรือหลายครั้งด้วยกัน ใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ไม่ใช้สิ่งของที่เกินความจำเป็น
(2) ของที่ใช้แล้วบางครั้งอาจไม่เป็นประโยชน์จากเราแล้ว แต่กลับเป็นประโยชน์มหาศาลกับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
(3) เป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ใช้ของทุกอย่าง อย่างประหยัด และรู้คุ้มค่าของสิ่งของเหล่านั้น
สถานีรีไซเคิล สอนอะไรกับชาวไต้หวัน
(1) เป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ทำความดี โดยตั้งแต่การนำขยะมาวางไว้ที่หน้าบ้าน แล้วมีรถของมูลนิธิพุทธฉือจี้ไปรับ หรือบางครั้งก็นำขยะมาให้ตามศูนย์ต่างๆที่มีกระจายกว่า 5,000 แห่ง ถือว่าเริ่มเป็นส่วนหนึ่งการทำความดี
(2) การเปิดโอกาสให้ทุกคน ตั้งแต่คนจน คนรวย ร่วมมาเป็นอาสาสมัครแยกขยะ แต่ที่สำคัญคือเน้นว่าการทำงานทุกอย่างคือการปฏิบัติธรรม เป็นโพธิ์สัตว์รากหญ้า
(3) เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุ ผู้ชรา แทนที่จะอยู่บ้านเฉยๆมาเป็นอาสาสมัครในการแยกขยะ เป็นการเสริมศักยภาพของคนเหล่านี้ว่ายังเป็นผู้มีคุณค่าของตนเองและสังคม พร้อมกับมีโอกาสให้ได้มีความสัมพันธ์ พูดคุยแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน
(4) เป็นสถานที่เด็กนักเรียนทั่วไปได้มีโอกาสฝึกงาน และทำงานร่วมกับผู้อื่น และเป็นสิ่งเริ่มสอนการทำความดีตั้งแต่เด็กๆๆ และเน้นการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม
ที่สำคัญในการใช้แรงของอาสาสมัครเหล่านี้ ได้ส่งผลให้มูลนิธิพุทธฉือจี้ ได้มีรายได้ปีละ ไม่น้อยกว่า 6,000 ล้านบาท รายได้จากขยะนี้ ได้นำไปสนับสนุน ในการตั้งสถานีโทรทัศน์ต้าอ้าย
สิ่งที่ประทับจากของผู้เขียนในการดูงานที่สถานีรีไซเคิลคือ
(1) ประทับใจเป็นอย่างมากจากการต้อนรับของอาสาสมัคร ที่มีความอ่อนน้อม ถ่อมตน อ่อนโยน ยิ้มแย้มแจ่มใส แสดงความจริงใจในการต้อนรับ มีความเป็นระเบียบวินัย ทุกขั้นตอน
(2) ทางคณะผู้ต้อนรับ ได้มีการสอนพวกเราตั้งแต่การแบ่งปันแก้วน้ำ กระปุกออมสินไม้ไผ่ ถุงเท้าที่ป้องกันการลื่น คนละ 1 อย่าง และย้ำกับพวกเราทุกคนว่าต้องนำกลับไปใช้นะ เป็นสอนพวกเราทางอ้อมในเรื่องทำความดีอย่างน้อยวันละ 5 อย่างที่เน้นกับพวกเรา และกระตุ้นให้พวกเราว่าพวกเราเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพแล้วลองทำตามแนวทางของฉือจี้ และมั่นใจว่าคณะของพวกเราทำได้
(3) การเผยแพร่งานของมูลนิธิพุทธฉือจี้ เน้นการทำงานแบบง่าย เน้นประโยคที่ชัดเจน ตรงใจ ถูกใจ กระตุ้นในสิ่งที่อยากให้ทำความดี เชื่อในความเป็นมนุษย์ทุกคนมีโพธิ์สัตว์อยู่ในตัวอยู่แล้ว เป็นการเผยแพร่ที่ดี พร้อมทั้งมีคำสอนของท่านธรรมาจารย์ทุกที่ ที่จะให้อาสาสมัครหรือคณะศึกษาดูงานได้เห็น เป็นการย้ำเตือนอย่างดี
ผู้เขียนเองคุณค่าของขยะเป็นอย่างมาก เพราะที่มูลนิธิสร้างสรรค์เด็กเอง ครูหยุย(วัลลภ ตังคณานุรักษ์) จะเน้นการแยกขยะ และนำสิ่งของเหล่านั้นแปรเป็นเงิน มาใช้จ่ายสวัสดิการของเจ้าหน้าที่ แม้แต่ผู้เขียนเองก็นำเงินขยะมาเป็นต้นทุนการเพาะเห็ดฟาง หรือบางครั้งก็นำมาให้กับเด็กของโครงการบ้านอุปถัมภ์เด็ก กรณีเด็กที่ไม่มีพ่อแม่ สิ่งนี้ผู้เขียนเองได้มาปรับใช้กับเด็กที่รับผิดชอบโดยตรง
ภาพถังขยะที่สวยงาม และแข็งแรง ที่ตั้งตามท้องถนน เห็นแล้วอยากเอาขยะไม่ทิ้ง พวกเราคุยกันว่าถ้าอยู่เมืองถังขยะจะต้องถูกลักนำไปขายแน่นอน เป็นการทิ้งท้ายที่เจ็บปวด
ไม่มีความเห็น