จัด pre-course ก่อนเริ่ม Supervisory Skills ของบริษัท มาบตาพุดโอลิฟินส์
การพัฒนาภาวะผู้นำ ที่ทดลองในแปลงผักของเรา
เป็นครั้งที่สอง สำหรับการพัฒนาภาวะผู้นำให้กับระดับ supervisor ที่ทำแบบการเรียนเป็นชุด แบ่งเป็นหลายครั้ง เฉลี่ยเดือนละครั้ง โดยก่อนเริ่มเรียนจะจัดกิจกรรม 1 วัน เรียกว่า pre-course ซึ่งทำโดยหน่วยงานของเรา ช่วยกันเป็นกระบวนการ ก่อเกิดกระบวนการเรียนรู้
รอบที่แล้วเป็นวิศวกรซ่อมบำรุงล้วนๆ โจทย์ก็เป็นแบบหนึ่ง และปรับตามความต้องการของกรรมการผู้จัดการ ที่อยากจุดไฟ จูงใจ ปรับทัศนคติ ติดอาวุธเรื่องการสื่อสาร การบริหารทีมงาน ซึ่งพบว่า การจัดวัน pre-course เปรียบเสมือนการเตรียมดินก่อนล่วงหน้า เตรียมความพร้อมทางความคิด จิตใจ กระตุ้นให้อยากเรียน คิดว่าได้ผลพอสมควร เพราะผู้เรียนจะตั้งใจเรียนใน module ถัดไป ใส่พลังกันเต็มที่กับการทำกิจกรรม แต่วิทยากรที่มาสอน ก็ต้องมีพลังเช่นกัน พร้อมที่จะสอนแบบ activity based learning จริงๆ ผู้เรียนจึงอยากเรียน ถ้าสอนแบบเดิมๆ มีแต่สไลด์ หรือทำแต่ workshop พบว่าผู้เรียนจะเบื่อ
เมื่อวานนี้ เป็นการจัด pre-course สำหรับกลุ่ม supervisor ที่มีความแตกต่างหลากหลายทั้งอายุ ระดับการศึกษา โจทย์ต่างเล็กน้อย เพราะกลุ่มนี้ไม่เคยปรับพื้น เครื่องมือในการเรียนรู้มาก่อนเหมือนกลุ่มแรก ซ้ำจำนวนคนมากกว่า 30 และมีการโต้ตอบกับกระบวนกรอยู่ตลอดเวลา
ยอมรับว่า เราเรียนรู้ว่าต้องเตรียมการให้ดีกว่านี้ในรุ่นต่อไป เพราะกิจกรรมจะต้องกระชับ แต่ให้เวลาในแต่ละกิจกรรมมากขึ้น
เริ่มจาก เกม จริงหรือหลอก ที่มีเวลาไม่มาก ผู้เรียนอยากได้เวลาเพิ่มขึ้นในการพิจารณาก่อนตัดสินใจว่าเรื่องของเพื่อนเป็นเรื่องจริงหรือหลอก
ต่อมาแนะนำรายละเอียดของโปรแกรมการพัฒนาภาวะผู้นำทั้งหมดของ SCG รวมทั้งในหลักสูตรนี้ทั้งหมด ตามมาด้วยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้าง SCG People ซึ่งพนักงานกลุ่มนี้ยังไม่เคยมีโอกาสได้ทราบรายละเอียดจริงๆ เบื้องหน้า เบื้องหลัง ในฐานะที่เรามีข้อมูลจึงนำมาเล่าให้ฟัง และเชื่อมโยงค่านิยมร่วมกับการพัฒนาภาวะผู้นำให้เป็นเรื่องเดียวกัน
จากนั้นลองให้แบ่งกลุ่มคุยกันเรื่องงานในหน้าที่ และปัญหาที่พบในงานเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับทำกิจกรรมในช่วงบ่าย และเปิดโอกาสให้ได้พูดคุยกันในกลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ช่วงก่อนเที่ยงเข้ากลุ่ม แล้วให้คนที่มีความรู้เรื่อง Mind Map ช่วยสอนเพื่อนในกลุ่ม กระบวนกรมาช่วยตบท้าย จากนั้นจึงให้แต่ละคนทดลองเขียน Mind Map แนะนำตัวเอง แต่ละคนเขียนกันออกมาอย่างมีสีสัน
ช่วงบ่าย body scan เสร็จมาเล่นเกมเรียกสติ ปลาอินทรี กระโดดออกมา จึ๋ย เพิ่งได้มาสดๆ จาก อ.กิตติชัย ของเสมสิกขาลัย ทราบตอน reflection ว่าผู้เรียนชอบเกมนี้มาก
อีกกิจกรรมที่เพิ่งคิดได้ว่าเข้ากับสถานที่ ที่สวยงามคือ Trust walk ซึ่งแม้จะมีเวลาน้อย แต่ผู้ร่วมกิจกรรมก็ชอบกิจกรรมนี้ โดยเฉพาะตอนเฉลยด้วยภาพถ่าย ว่าใครเป็นคนตาดี ที่พาคนตาบอดไปเรียนรู้
จากการได้เข้าสัมมนา 7 Habits จึงได้ประยุกต์บางส่วนมาใช้ เช่น นิสัยที่1 Be Proactive มีเครื่องมือที่น่าสนใจ คือ Circle of Concern & Circle of Influence ซึ่งเน้นการนำมาใช้แก้ปัญหาที่สามารถจัดการได้ด้วยตนเอง ลองเอาเครื่องมือนี้มาแนะนำให้ใช้แก้ปัญหาที่เขียนกันไว้ในช่วงเช้า สังเกตว่า บางกลุ่มสามารถหลุดกรอบความคิดเดิม คิดใหม่ ทำใหม่ บางกลุ่มยังติดที่ circle of concern
อีกวิชาที่คนชอบคือ อุปนิสัยที่ 7 Sharpen the Saw เพราะมันโดนคนทำงานหนักอย่างพวกเราที่ไม่มีเวลาทำเรื่องอื่นๆ ที่จะพัฒนาร่างกาย จิตใจ สังคม จิตวิญญาณ ของตนเองกันเลย
ช่วงกลางคืน ผู้บังคับบัญชาระดับ ส่วน มาร่วมกิจกรรม Deep Listening เป็นอีกกิจกรรมที่หลายคนชอบ เพราะในเวลางานไม่เคยคุยเรื่องส่วนตัว หรือทำความรู้จักอีกด้านของชีวิต กันเลย
พี่ระดับส่วนบางคนพอฟังน้องๆ reflection หลังกิจกรรม ถึงกับอยากมาเรียนบ้าง บางคนก็สนับสนุนการพูดคุยเรื่องส่วนตัวกันมากขึ้น
ในฐานะผู้จัด ผู้นำกิจกรรม ได้พลังกลับมาบ้าง ที่ผู้เรียนสามารถเก็บเกี่ยวรายละเอียดบางเรื่องได้และทำให้มีกำลังใจที่อยากจะทำรุ่นต่อไป โดยเฉพาะเรื่องของการโปรแกรมจิตใต้สำนึก การสร้างพลังชีวิต
ความเห็น (2)
อิจฉา ชาว SCG ครับที่ได้มีโอกาศได้เข้าคอส Soft skill แบบนี้ เหมื่อนอบรมธรรมะ จบคอสแล้วคงได้อะไรดีๆเต็มไปหมด อ. เก่งจักครับ สู้ๆครับ
สวัสดีคุณ look kaew ที่มาให้กำลังใจนะคะ ทุกวันนี้สู้ยิบตา ในบริษัทมีการพัฒนาคนเยอะมาก จนพนักงานบางคนรู้สึกว่าเรียนมาเยอะ แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือ เรียนแล้วเปลี่ยนตัวเองได้หรือเปล่าค่ะ เป็นสิ่งที่ท้าทายคนทำงานพัฒนาคน พัฒนาองค์กร