ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
ปัจจุบันการถ่ายภาพรังสีปอดยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการตรวจวินิจฉัยหาความผิดปกติของปอด ซึ่งสามารถตรวจวินิจฉัยได้ทั้งในผู้ใหญ่และในเด็ก กรณีผู้ป่วยที่รู้สึกตัวดีสามารถสื่อสารและให้ความร่วมมือในการถ่ายภาพรังสี ภาพรังสีที่ได้ก็จะมีคุณภาพดีแพทย์สามารถวินิจฉัยโรค ได้ง่าย กรณีเด็กเล็กจะดิ้นและต่อต้านไม่อยู่นิ่งขณะทำการถ่ายภาพรังสี ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องให้ญาติหรือเจ้าหน้าที่ช่วยจับเพื่อถ่ายภาพรังสีปอด ทำให้บุคคลดังกล่าวที่มาช่วยจับต้องได้รับปริมาณรังสีเอกซ์โดยไม่จำเป็น ถึงแม้ว่าจะมีการป้องกันโดยการใส่เสื้อตะกั่วและมีการจำกัดขอบเขตลำรังสีให้พอดีกับส่วนของอวัยวะที่ต้องการจะถ่ายภาพแล้วก็ตาม บุคคลดังกล่าวก็ยังคงได้รับปริมาณรังสีอยู่ การให้เจ้าหน้าที่หรือญาติช่วยจับเด็กในการถ่ายภาพรังสีปอดบางครั้งอาจ ทำให้ฟิล์มเสียได้ เนื่องจากมีการขยับตัวของเด็กขณะทำการถ่ายภาพรังสี ผู้ช่วยเหลือจับเด็ก ไม่แน่นพอก็จะทำให้เด็กสามารถขยับตัวได้ ศีรษะของผู้ช่วยเหลือมาบังบริเวณที่จะทำการถ่ายภาพรังสี ญาติเขย่าตัวเด็กเพื่อให้เด็กหยุดร้อง เหตุการณ์ดังกล่าวล้วนอาจเป็นสาเหตุทำให้ฟิล์มเสียได้ ปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้นได้ เนื่องจากการถ่ายภาพรังสีปอดเป็นการตรวจหาความผิดปกติของปอดอันดับแรกๆ ก่อนที่จะมีการตรวจวินิจฉัยอย่างอื่น
กลุ่มงานรังสีวิทยาจึงร่วมกันวิเคราะห์และหาแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าวโดยประดิษฐ์อุปกรณ์เพื่อช่วยยึดจับตัวเด็กขณะถ่ายภาพรังสีปอดโดยมีวัตถุประสงค์
1.ลดปริมาณรังสีที่เจ้าหน้าที่และญาติผู้ป่วยได้รับจากการจับยึดตัวเด็กขณะถ่ายภาพรังสี
2.ลดอัตราการถ่ายฟิล์มเสียที่เกิดจากการจับยึดเด็กขณะถ่ายภาพรังสีที่ไม่ถูกต้อง
วิเคราะห์สาเหตุของปัญหา
ปัญหาด้านผู้ป่วย
1.เด็กไม่ให้ความร่วมมือ ร้องและดิ้นขณะถ่ายภาพรังสี
2.ญาติผู้ป่วยจับยึดเด็กไม่ถูกวิธี โดยกลัวเด็กจะเจ็บ ทำให้จับไม่แน่นพอ หรือเขย่าตัวเด็กให้เด็กหยุดร้องไห้
ทำให้ภาพถ่ายรังสีที่ได้ไม่ชัดเจนไม่สามารถใช้วินิจฉัยโรคได้ต้องถ่ายภาพใหม่อีกครั้ง
ปัญหาด้านผู้ปฏิบัติ
1.กรณีไม่มีญาติเด็กขณะถ่ายภาพรังสีเจ้าหน้าที่ต้องจับยึดตัวเด็กเองทำให้เสียบุคลากรซึ่งจะต้องไปให้บริการผู้ป่วยรายอื่นที่รอรับบริการอยู่
2.เจ้าหน้าที่รังสีต้องปฏิบัติงานด้วยความรวดเร็วเนื่องจากมีข้อจำกัดจากตัวเด็กขณะถ่ายภาพรังสี บางครั้งทำให้ภาพรังสีที่ได้ไม่สามารถใช้วินิจฉัยโรคได้ต้องถ่ายใหม่
ขั้นตอนการดำเนินงาน
1.วิเคราะห์ปัญหาจากการปฏิบัติงาน
2.ออกแบบและประดิษฐ์อุปกรณ์เพื่อช่วยในการปฏิบัติงาน
3.ทดลองใช้อุปกรณ์และเก็บข้อมูลการใช้อุปกรณ์
4.วิเคราะห์ข้อมูลและแก้ไขปรับปรุงอุปกรณ์
5.นำอุปกรณ์ออกใช้งานจริง
อุปกรณ์ที่ใช้ในการประดิษฐ์
1.แผ่นพลาสติกแข็งมีขนาดความหนา 5 มิลลิเมตร
2.ยางยืด
3.ตีนตุ๊กแก
4.ด้าย,เข็ม
5.เทปกาวสองหน้า
6.แผ่นยางกันลื่น
7.กระดาษทราย
8.เครื่องมือสำหรับตัดแผ่นพลาสติกแข็ง
ผลการดำเนินงาน
1.สามารถใช้อุปกรณ์ยึดจับโดยไม่ใช้เจ้าหน้าที่และญาติผู้ป่วยจับยึด>90%
2.จำนวนฟิล์มเสียจากการจับยึดที่ไม่ถูกต้องลดลง 50%
ประโยชน์ที่ได้รับ
1.ลดปริมาณรังสีที่เจ้าหน้าที่และญาติผู้ป่วยได้รับจากการจับยึดตัวเด็กขณะถ่ายภาพรังสี
2.ลดอัตราการถ่ายฟิล์มเสียที่เกิดจากการจับยึดเด็กขณะถ่ายภาพรังสีที่ไม่ถูกต้อง
มาเรียนรู้สิ่งดีๆค่ะ
แบบอย่างที่ดีครับ