อาหารที่ชาวมันนิใช้ดำรงชีวิต
ด้วยชาวมันนิมีการเคลื่อนย้ายกันตลอด โดยส่วนใหญ่ใช้ชีวิตในป่า โดยเริ่มการเดินทางในป่า เริ่มต้นด้วยเดือน 3-5 ชาวมันนิจะเคลื่อนย้ายแหล่งที่มีหมูดิน มีหัวมันทราย เดือนเจ็ด ชาวมันนิจะออกไปหาลูกหวายมาให้คนในครอบครัวได้กิน พอเดือนเก้า เดือนสิบชาวมันนิจะเริ่มออกหาจำปาดะป่า เป็นผลไม้ที่อร่อยมาก และในขณะนี้อาหารเหล่านี้ได้หายออกไปจากป่าแล้ว เดือนสิบเอ็ดสิบสอง จะออกเก็บรังญวนผึ้งตามที่ต่างๆ
แต่ชาวมันนิประสบปัญหาเรื่องอาหารเป็นจำนวนในขณะนี้ ซึ่งอาหารในบ้านลดน้อยลงเรื่อยๆ ชาวมันนิพบกับคววามลำบากมากขึ้น จำเป็นที่ต้องออกไปนอกป่า เพื่อขออาหาร หรือบางครั้งก็ถูกหลอกให้หาดอกไม้ป่าออกไปขาย แต่แบ่งรายได้ใหนิดหน่อยเท่านั้น
กล้วยเป็นอาหารที่หาง่าย บางครั้งก็ต้องอาศัยสวนของชาวบ้าน โดยกลุ่มมันนิจะทำงานแลกผลไม้ แต่ไม่ใช่ขอ
หัวมันที่เห็นเป็นหัวมันที่ซื้อมาจากตลาด โดยใช้แทนหัวมันที่หาได้
เป็นมะม่วงป่าที่หลุดมาจากต้น ซึ่งตอนนี้หายากมากขึ้น
เป็นหัวมันที่ชาวมันนิหามาเอง และเป็นหัวมันที่อร่อยมาก ผู้เขียนของขอลองชิมจากชาวมันนิ ที่มีรสชาดหวานหอม และละเอียด
เป็นหัวมันทราย ที่ชาวมันนิไปขนมา ยังไม่ได้ล้าง แต่ชาวมันนิบอกกับเราว่าวันนี้ขุดหัวมันได้เพียง 3 หัวเท่านั้น ซึ่งไม่พอแบ่งปันกับสมาชิกในกลุ่มจึงยังไม่แบ่ง เอาไว้ส่วนกลางก่อน
ครอบครัวที่ทับทุ่งกำลังแบ่งหัวมันที่ต้มให้กับลูกของแต่ละครอบครัว ซึ่งเด็กแต่ละคนก็จองกันแบบว่า ฉันของกินด้วยนะ
การแบ่งอาหาร จะนำมากองกลาง
เมื่อหัวหน้ากลุ่มก็แบ่งกันไปทำ หรือบางกลุ่ม
ใช้วิธีทำรวม และกินด้วยกันหมด
อาหารหมด ก็คือหมดจ๊ะ