การฝึกจิตใจให้เป็นมนุษย์


คนเรานั้นหนุ่มก็ตาย แก่ก็ตาย โง่ก็ตาย ฉลาดก็ตาย รวยก็ตาย จนก็ตาย ทุกคนต้องตาย วันไหนไม่รู้ แต่ที่รู้แน่ๆคือไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ชีวิตสำคัญที่รู้จักใช้มันให้เป็นบุญ

           ในช่วงพรรษาในแต่ละปีผู้เขียนจะหาโอกาสไปวัดทุกปี สำหรับปีนี้เลือกไปทำบุญตักบาตรในวันที่ 8 ตุลาคม 2553 เป็นวันแรม 15 ค่ำเดือน 10 และตอนเย็นผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าไปไหว้พระและฟังธรรมเทศนาและนั่งสมาธิ เริ่มเวลา 19.00 น. ถึง 21.00 น. ไหว้พระเสร็จก็มีพระสงฆ์เทศน์เกือบชั่วโมงแล้วจึงนำชาวบ้านนั่งสมาธิเสร็จแล้วก็ชาวบ้านก็แยกย้ายกันกลับบ้าน เนื้อหาที่ฟังวันนี้สรุปสั้นๆได้เล่าสู่กันฟังดังนี้
 ถ้าถามว่าคนเราเกิดมาเพื่ออะไร?
       คนเราเกิดมาเพื่อเรียน  เพื่อทำงาน เพื่อตั้งหลักปักฐาน มีครอบครัว มีลูกมีเต้า แก่ เจ็บ ตาย เท่านี้ใช่ไหม? ถ้าเราคิดว่าเกิดมาเพียงเพื่อ เรียน  ทำงาน ตั้งหลักปักฐาน มีครอบครัว มีลูกมีเต้า แก่ เจ็บ ตาย ก็เท่ากับว่าเรายังเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฎฎสงสารนี้ ไม่ถึงจุดประสงค์ที่สูงสุดในทางพระพุทธศาสนา ซึ่งจุดหมายสูงสุดคือพระนิพพานสิ้นกิเลสไม่เวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฎฎ์นั่นเอง
 เราไปวัดเพื่ออะไร?
          คนส่วนใหญ่เข้าวัดตามประเพณี  ปีใหม่ก็มาวัด วันมาฆบูชามาวัด มาวัดเฉพาะในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ถ้าแค่นี้ถือได้ว่าเราแค่ได้ทำตามประเพณีเท่านั้นคือได้ตักบาตร ได้รับศีล แต่ไม่มีใครคิดตัดกิเลสสักคน ถือว่าเรากำลังทำตัวเหมือนวัวในพุทธทำนายกล่าวว่าคนเราเหมือนฝูงโคที่วิ่งกรูกันเข้ามาสู่สถานที่แห่งหนึ่งเหมือนจะมาชนกันแต่พอมาถึงแล้วต่างฝ่ายต่างก็เดินกลับเหมือนไม่มีอะไร ถ้าเรามาวัดหรือไปวัดวันนี้แล้วได้แค่นั่งทำวัตรไหว้พระสวดมนต์ รับศีล ขี่รถผ่านวัดก็คงคล้ายฝูงโควิ่งมาจากทิศสี่ทิศเหมือนจะมาชนกันพอมาถึงที่หมายก็เดินกลับไปสู่ที่เดิม
               คนเราอยากได้อะไรจึงไหว้พระ สรุปได้ว่าบางคนปรารถนาแค่ความสุข ถูกหวย อยากเลื่อนขั้น แต่สวรรค์ไม่เอา นิพพานไม่สน อยากได้ในชาติหน้า ในอนาคตกันทุกคน
              ชีวิตสั้นมากและอายุเราเสื่อมสิ้นไปทุกวัน เสื่อมไปตั้งแต่วินาทีแรกที่อยู่ในท้องมารดา แต่กิเลสพรางตาเราว่าเป็นการเจริญเติบโตแต่พระพุทธเจ้าเรียกว่าเสื่อมหรือวัย เราเข้าใจว่าปฐมวัยเป็นวัยเจริญแท้จริงก็คือกำลังเสื่อม ก้าวไปสู่ความตายทีละก้าว
          พุทธเจ้าตรัสว่า ;  อจฺจยนฺติ มโหรตฺตา ชีวิตํ  อุปรุชฺฌติ 
                                 อายุขียติ มจฺจานํ กุนฺนทีนวํ  อุทกํ
               วันคืนผ่านไป ชีวิตวัยก็ร่นเข้ามา อายุใกล้สิ้นสุด ดุจสายชลในกุนนที.
 ชีวิตนี้สั้นนัก ถ้าเทียบกับสวรรค์ร้อยปีในเมืองมนุษย์เราก็เท่ากับวันหนึ่งคืนหนึ่งของสวรรค์แค่นั้นเอง
**ทุกชีวิตเกิดมาแล้วต้องตาย
             คนเรานั้นหนุ่มก็ตาย แก่ก็ตาย โง่ก็ตาย ฉลาดก็ตาย  รวยก็ตาย จนก็ตาย ทุกคนต้องตาย วันไหนไม่รู้  แต่ที่รู้แน่ๆคือไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ชีวิตสำคัญที่การใช้มันให้สร้างประโยชน์
บัณฑิตเตือนเราว่า : รีบทำสิ่งที่ควรทำก่อนไม่มีเวลา รู้ว่าชีวิตน้อยนิด แล้วคิดทำชั่ว เกลือกกลั้วสิ่งเลวทราม คนเช่นนี้เขาประณามว่า “โง่เขลา” รู้ตัวว่าเวลาอยู่ในโลกนี้ไม่มาก  บากบั่นทำความดี คนเช่นนี้เรียกว่าคนฉลาด
วัดคือสถานที่ทำความดีเข้าวัดให้ได้บุญควรทำดังนี้
         1. งานศพ  เข้าวัดถ้านุ่งกระโปรงสั้นควรนั่งแถวหลัง ถ้านุ่งกระโปรงสั้นนั่งแถวหน้าควรหาผ้ามาปกเข่าจะดูดีกว่า
         2.ใส่บาตร  ถ้านุ่งชุดนอนควรบางต้องเอาชุดหนาทับก่อนไปใส่บาตรถ้านุ่งกระโปรงสั้นใส่บาตรไม่ควรนั่งใส่ควรยืนใส่บาตร และยืนไหว้
         3. มาวัดควรแต่งตัวให้มิดชิดเรียบร้อยดูงาม ไม่ใช่ศูนย์การค้าที่จะมาโชว์เรือนร่าง ขี่รถผ่านวัดก็อย่าขับเร็วนัก อย่าบีบแตร์ไล่พระที่เดินในวัดให้หลีกทางรถเราเพราะเป็นกิริยาที่ไม่น่าทำเอาจริงๆ
                   
สิ่งที่ควรทำมีอะไรบ้าง?
          1. อย่าทะเลาะกัน ยามทะเลาะกันคนส่วนมากลืมนึกว่าตนกำลังเสื่อมจากความดี
                สาเหตุแห่งการทะเลาะ 1. แย่งผลประโยชน์
                                                2. ความคิดเห็นไม่ตรงกัน
                 -พระสงฆ์ทะเลาะกันเพราะทิฎฐิ  ความคิดเห็นเช่นสอนไม่เหมือนกัน  ทะเลาะกันเรื่องใดก็ตามก็เสียหายทั้งสองฝ่าย
                 -ชาวบ้านทะเลาะกันเพราะกามเช่น แย่งทรัพย์สมบัติมรดก จนไม่นึกถึงว่าคนที่เราด่าว่าก็คือพี่น้องคลานตามกันมา  แย่งตำแหน่งจนลืมว่าเราตายก็เอาไปไม่ได้สักคน แย่งคู่ครองจนลืมบาปและความเสียหายลืมนึกถึงอกผัวเขาอกเมียเรา สามีภรรยาทะเลาะกันก็รำคาญหูคนข้างบ้าน เด็กทะเลาะกันบางทีก็ดึงพ่อแม่ไปทะเลาะด้วยก็มี
            2. อย่าริษยากัน :  ริษยาคือเมื่อเห็นเขาได้ดิบได้ดีแล้วรับไม่ได้ ทุกข์ใจเมื่อคนอื่นดีกว่า
ริษยามี 3 ระดับ
                     2.1 ริษยาอย่างเบา  คือไม่สบายใจเมื่อรู้ว่าเขาได้ดี.....
                     2.2 ริษยาอย่างกลางคือ ทนรับรู้ไม่ได้เมื่อรู้ว่าผู้อื่นได้ดีต้องเบือนหน้าหนีเหมือนเป็นโรคตาแดงหนีแสงแดด
                     2.3 ริษยาอย่างแรงคือ  เมื่อเขาได้ดีคดจะทำร้ายเขาอย่างเดียว ทนไม่ได้ อกจะแตกตายอุปมาเหมือนคนเป็นไข้ไม่ได้ส่งโรงพยาบาลทรมานหรือรอความตายหรือปางตายทีเดียว
           วิธีแก้ริษยาคือคนที่สูงกว่าอย่าริษยา  คนต่ำกว่าอย่าเย้ยหยัน  คนเสมอกันต้องประคับประคอง
        การหมั่นทำใจให้เป็นมนุษย์ คือเป็นมนุษย์ที่จิตใจ อย่าเป็นมนุษย์แค่ร่างกาย  การเป็นคนทางกายนั้นไม่ยากเท่าการเป็นคนทางใจหรือเป็นมนุษย์ทางใจ คนหรืออมนุษย์ คือคนที่มีจิตใจสูงกว่าคนทั่วไปรู้จักอะไรควร ไม่ควร รู้จักละอายใจ ยับยั้งชั่งใจ  ดำรงตนอยู่ในศีลธรรมอันดี 
                     เมื่อไปวัดไปทำบุญ เวลาไปวัดต้องนุ่งเสื้อผ้าให้เหมาะสม ไหว้ให้สวยงาม กราบพระให้สวย พูดกับพระภิกษุสามเณรต้องประนมมือ  การประนมมือขณะพูดจะทำให้เราสำรวมและคุยไม่ได้นานจะได้กลับบ้าน ไม่ต้องไปพูดมากในวัดและจะได้ไม่หลงไปพูดคำไม่ดีในวัด มาวัดต้องรู้จักสิ่งดีที่ควรทำ 
สิ่งที่รู้แล้วดีคือะไร?
          -รู้จักสิ่งที่ควรไหว้ ไหว้พระพุทธรูป ไหว้พระธรรม ไหว้พระสงฆ์ คนเราทุกวันนี้ขนาดไหว้พระพุทธรูปยังลำเอียงแห่ไปไหว้พระพุทธรูปที่คนเล่าลือว่าศักดิ์สิทธิ์แต่ละเลยพระพุทธรูปที่เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าองค์อื่นๆ ขนาดเราไหว้พระเรายังลำเอียงแล้วเราจะมีความดีครบได้อย่างไร
         -รู้โทษภัยกิเลส ได้แก่ต้องละกิเลสคืออย่าโกรธ อย่าเนรคุณ อย่าริษยา อย่ามารยา อย่าอวดตัว อย่าดูหมิ่นใครๆ อย่าคิดลามก อย่าเห็นผิดจากทำนองคลองธรรม
         -รู้เหตุหายนะ อบายมุขคือช่องทางที่มาของความฉิบหายทางนำไปสู่ความวิบัติเสียทั้งตนเองและสังคมเสียทั้งทรัพย์ทั้งสติปัญญา พาจิตให้ตกต่ำไปเรื่อยๆ 
           อบายมุขมีเสน่ห์แรงที่แฝงไว้ด้วยทุกข์โทษ ยั่วให้เราหลงได้หลายวิธีเปลือกนอกนั้นหอมหวานล่อตาล่อใจปิดทุกข์ไว้มิดชิดจนคนโง่มองไม่เห็นว่าเป็นอันตรายดุจแมงเม่าบินเข้กองไฟ อบายมุขมีแต่โทษ....
            ดื่มเหล้า :  เสียเงินเสียทรัพย์ ทีแรกอาจไม่เสียเขาเลี้ยง พอกินติดต้องซื้อเอง กินมากจ่ายมาก      ก่อการทะเลาะวิวาท  เมาแล้วขาดสติใครพุดไม่เข้าหูก็โกรธทะเลาะฆ่าฟัน   ทำลายสุขภาพ (เกิดโรค) ทำให้ตับแข็ง มือสั่น  ทำให้เสื่อเสียชื่อเสียง เมื่อเมาแล้วทำไม่ดีคนย่อมตำหนิ ไม่มีความอาย  สมองฝ่อลืมง่าย
          เที่ยวกลางคืน การเที่ยวมากๆจะทำให้ร่างกายไม่ได้พักผ่อนทำให้ร่างกายแก่เร็วครอบครัวขาดความอบอุ่น เปลืองเงินในการเที่ยวกลางคืนคนระแวงว่าเป็นผู้ร้ายได้รับความลำบากเพราะเที่ยวบ่อยๆทำให้ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ    เสียทรัพย์ ก่อการวิวาท เกิดโรคกับตนเอง ถูกตำหนิ หมดยางอาย ทอนกำลังปัญญา
         เรามาทำความดี หยุดทะเลากัน หยุดริษยากัน ขยันหมั่นเพียรไม่เกียจคร้าน หมั่นทำใจให้เป็นมนุษย์  อย่าเป็นมนุษย์แค่ร่างกายแล้วชีวิตนี้จะเป็นชีวิตที่มีสาระไม่เป็นโมฆบุรุษ 
          อย่าใหญ่ย้อนกินเข่า(ข้าว) เฒ่าเพราะเกิดโดน(นาน) ดีแท้ต้องดีรอบด้านทุกอย่าง

หมายเลขบันทึก: 402350เขียนเมื่อ 12 ตุลาคม 2010 18:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:35 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

อ่านแล้วอิ่มบุญมากเลย แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้าวัดเพราะที่นี่มัสยิดมากหาวัดไม่ค่อยเจอ

ขอเป็นมนุษย์กับเขาสักคนนะครับ สาธุ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท