จำเนียรกาลผ่านมา จวบจนบรรลุสมัยพระยาสุวรรณคำผง ครองอาณาจักรล้านช้าง ปรากฏว่า ท้าวผีฟ้า ผู้เป็นโอรสมีความผิดมหันต์ถึงขั้นเนรเทศ (หรือท้าวผีฟ้าหนีไปเองก็ได้) ไปอยู่ในสำนักเขมร ท้าวผีฟ้า นำท้าวฟ้างุ้ม ผู้โอรสไปด้วย สมัยนั้น ชนชาติไทยก็เริ่มตั้งอาณาจักรสุโขทัย และเขมรเริ่มเสื่อมอำนาจลง เมื่อสิ้นสมัยของพระยาสุวรรณคำผง ฟ้าคำเฮียว อนุชาพระยาสุวรรณคำผงได้ครองอาณาจักรล้านช้าง ต่อไป แต่เขมรก็สนับสนุนให้เข้ายึดอำนาจจากฟ้าคำเฮียว และครองอาณาจักรล้านช้าง เมื่อ พ.ศ.๑๘๙๖ (พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงประดิษฐ์อักษรไทย เมื่อ พ.ศ.๑๘๒๖)
ท้าวฟ้างุ้ม พยายามสร้างอาณาจักรล้านช้างให้เป็นปึกแผ่นมั่นคง แต่คงอยู่ภายใต้อิทธิพลเขมร ในปี พ.ศ.๑๙๐๒ ได้ขอพระบาง ซึ่งอยู่ที่เขมร อัญเชิญมาประดิษฐานที่เมืองเชียงทอง
ท้าวฟ้างุ้มครองอาณาจักรอยู่ ๓ ปี ใน พ.ศ.๑๘๙๙ ก็ถูกขุนนางยึดอำนาจ แล้วแต่งตั้งพระยาอุ่นเฮือน โอรสให้ครองอาณาจักรแทน ท้าวฟ้างุ้มจึงหนีมาเมืองน่าน จนสิ้นชีวิต ใน พ.ศ.๑๙๑๖
ในสมัยของ พระยาอุ่นเรือน พ.ศ.๑๘๙๙ - ๑๙๑๖ พระเจ้าสามแสนไทยไตรภูวนารถ พ.ศ.๑๙๑๖ - ๑๙๖๐ และ พระยาล้านคำแดง พ.ศ.๑๙๖๐ - ๑๙๗๑ รวมเวลาประมาณ ๗๐ ปี อาณาจักรล้านช้าง ปลอดจากภัยคุกคามภายนอก เพราะเขมรแทบจะหมดอำนาจ สุโขทัย และล้านนา กำลังเสริมสร้างและบำรุงอาณาจักรของตน ล้านช้างจึงมีโอกาสเสริมสร้างความมั่นคงของตนเช่นกัน
หลังจากที่บ้านเมืองอยู่เย็นเป็นปรกติสุข ก็ต้องมีศึก ต่อมา ใน สมัยพระเจ้าไชยจักรพรรดิแผ่นแผ้ว พ.ศ.๒๐๒๓ อาณาจักรล้านช้างถูกเวียดนามรุกรานเข้ายึดเมืองเชียงทอง พระเจ้าไชยจักรพรรดิฯ ต้องมอบราชสมบัติให้เจ้าสุวรรณบัลลังก์ ราชโอรส ส่วนพระองค์หนีไปเมืองเชียงคาน และต่อมาเมื่อเจ้าสุวรรณบัลลังก์กู้แผ่นดิน
ได้แล้ว ก็เวนราชสมบัติให้พระบิดา จนกระทั่งพระบิดาสวรรคต เจ้าสุวรรณบัลลังก์จึงรับราชสมบัติต่อ จนสวรรคตใน พ.ศ.๒๐๒๙
พระยาหล้าแสนไทย อนุชาสืบราชสมบัติต่อ จนสวรรคตใน พ.ศ.๒๐๓๙
เจ้าชมพู โอรส ครองอาณาจักรสืบต่อ แต่ใน พ.ศ.๒๐๔๔ ถูกบวกกบฏจับสำเร็จโทษ
พระเจ้าวิชุณราช โอรสพระเจ้าไชยจักรพรรดิแผ่นแผ้ว ได้ราชสมบัติทรงสร้างวัดวิชุณราช เป็นที่ประดิษฐานพระบาง และเมืองเชียงทองก็เป็นที่เรียกว่าเมืองหลวงพระบาง นับแต่นั้นมา
ไม่มีความเห็น