เมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๔๘ ณ ที่ทำการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เมืองทองธานี ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช, คุณสุนทรี ไพรศานติ และผู้เขียน ได้มีนัดประชุมร่วมกับสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย หรือ TEI ซึ่งเป็นการประชุมที่ใช้รูปแบบหรือเครื่องมือที่เรียกว่า Peer Assist หรือ เพื่อนช่วยเพื่อน โดยมีผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของสถาบันสิ่งแวดล้อมไทยเข้าร่วมประมาณ ๓๐ คน มี ศ.ดร.สนิท อักษรแก้ว ประธาน TEI ทำหน้าที่เป็นประธาน และ ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช ทำหน้าที่ "คุณอำนวย" ซึ่งโจทย์ของการทำ Peer Assist ครั้งนี้ คือ "TEI ควรประยุกต์กิจกรรม KM ภายในสถาบันอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด"
โดยเริ่มแรก ศ.นพ.วิจารณ์ ได้เกริ่นนำถึงความสำคัญของเครื่องมือ Peer Assist ที่นำมาใช้ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ซึ่งถือเป็นเครื่องมือหนึ่งของ KM หลังจากนั้น ได้ให้ผู้ที่อาวุโสน้อยที่สุดของวง Peer Assist นี้ ได้พูดถึง ว่า "TEI จะนำ KM มาใช้ในการพัฒนาการทำงานของ TEI ได้อย่างไร" และตามด้วยผู้ที่มีอาวุโสคนต่อๆ ไป ซึ่งแต่ละคนได้แสดงความคิดเห็นของตนเองออกมาอย่างอิสระ และน่าสนใจมากมาย ต่อจากนั้น จึงเป็นฝ่าย สคส. ที่แลกเปลี่ยนให้ TEI ฟังบ้างว่า สคส. มีวิธีการประยุกต์ใช้ KM เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการพัฒนาการทำงานกันอย่างไร และต่อมา ได้ให้ทางฝ่าย TEI บอกว่า จากที่ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้หรือได้ฟังประสบการณ์ของฝ่าย สคส. แล้ว แต่ละคนจะสามรถนำวิธีการหรือแนวคิดเหล่านี้ของ สคส. ไปปรับประยุกต์ใช้กับการทำงานของ TEI ได้อย่างไรบ้าง พร้อมทั้งมีการสอบถาม/ซักถามแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันอย่างอิสระ ไม่มีผิดไม่มีถูก ท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นกันเองและสนุกสนานตลอดระยะเวลา ๒ ชั่วโมงครึ่ง
สุดท้าย ศ.ดร.สนิท ได้กล่าวสรุปถึงสิ่งได้รับฟังจากวงแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และสิ่งที่ TEI สามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อไปได้ เพื่อเป็นการจุดประกายให้เกิดการเรียนรู้ KM ภายใน TEI จากการปฏิบัติจริง ดังนี้ คือ
๑. ต้องสร้างแนวคิดใหม่ ว่าการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เป็นความจำเป็นของคน / องค์กร
๒. ความสำเร็จในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ คือ การที่แต่ละคนต้องมีความสมดุลย์กันระหว่างการฟังและการพูด
๓. การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ดีต้องทำลายสิ่งกีดขวาง ต้องมีการบริหารจัดการสิ่งกีดขวางเหล่านั้นให้หมดไป
๔. ต้องสร้างกลไกและกระบวนการในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้แบบบูรณาการ
๕. การติดตามและประเมินผล ทั้งของตนเองและองค์กร เช่น เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง, เพื่อนได้เรียนรู้อะไรจากเราบ้าง, งานที่เราทำดีขึ้นหรือไม่ เป็นต้น
นอกจากนั้น ศ.นพ.วิจารณ์ ได้แนะนำให้ TEI จัดตลาดนัดความรู้ขึ้น เพื่อฝึกฝนและเริ่มต้นการดำเนินการ KM ในหน่วยงาน และขอให้ทุกๆ คนที่เข้าร่วมในวงครั้งนี้ ได้เขียน AAR ถึงการทำ Peer Assist ครั้งนี้ แล้วรวบรวมให้ สคส. ได้รับรู้ต่อไปด้วย
สำหรับ AAR ในมุมมองความคิดของผู้เขียน คือ
๑. เป้าหมายของการทำ Peer Assist ในครั้งนี้ คือ ได้ร่วมแลกเปลี่ยนวิธีการทำงานของตนเอง กับ TEI และได้เรียนรู้วิธีการทำงานของ TEI รวมทั้งหวังว่าจะได้เรียนรู้เครื่องมือ Peer Assist จากการปฏิบัติจริงด้วย
๒. โดยส่วนตัว คิดว่าตนเองได้บรรลุผลตามเป้าหมายเป็นอย่างดี โดยเฉพาะได้ลงมือปฏิบัติการใช้เครื่องมือ Peer Assist ด้วยตนเอง ซึ่งในช่วงก่อนถึงวันจริงจะค่อนข้างตื่นเต้น กังวลว่าตนเองจะเตรียมตัวไม่พร้อม จึงได้เตรียมอ่านเอกสารเรื่อง Peer Assist ที่ ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช เขียนบันทึก และคนอื่นๆ เขียน AAR ที่ได้ทำ Peer Assist ไว้มาก่อนล่วงหน้า
๓. สิ่งที่ไม่บรรลุผล คือ ผู้เขียนรู้สึกว่า ผู้เข้าร่วมของ TEI ยังไม่ค่อยเปิดใจ รู้สึกเกร็งๆ แต่ในช่วงหลังๆ ค่อยเริ่มผ่อนคลายและได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันมากขึ้น
๔. สิ่งที่ควรปรับปรุงในครั้งต่อไป คือ การเตรียมความพร้อมของผู้เข้าร่วมประชุมก่อน ว่า กิจกรรมนี้มีลักษณะอย่างไร ทำไปเพื่ออะไร หากแต่ละคนได้เตรียมประเด็นที่จะพูดแลกเปลี่ยนด้วยก็จะเป็นการดียิ่งขึ้น รวมทั้งต้องมีการระบุหรือมอบหมายบทบาท “คุณลิขิต” อย่างเป็นกิจลักษณะ เป็นต้น
ไม่มีความเห็น