ตำนานไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์

     คงไม่มีใครไม่รู้จักไม้กางเขน แต่รู้ไหมว่าไม้กางเขนที่โลกถือว่าศักดิ์สิทธิ์ที่สุดนั้นมาจากไหน !!

   ถึงไม่เฉลย ก็น่าจะเดาได้ว่าไม้กางเขนอันที่เริ่ดที่สุดก็ต้องเป็นอันที่พระเยซูถูกจับไปตรึงทั้งเป็น เพราะมันคือที่มาที่ทำให้ไม้กางเขนได้แจ้งเกิดเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาคริสต์ไปโดยปริยาย  แรกเริ่มเดิมทีไม้กางเขนถูกมองว่าเป็นอุปกรณ์โลโซ เพราะชาวโรมันสมัยแรก ๆ ทำไม้กางเขนขึ้นมาก็เพื่อเอาไว้ประหารนักโทษโดยเฉพาะ และไม่ใช่นักโทษธรรมดาด้วย แต่ต้องเป็นนักโทษประเภทที่แสบมาก ๆ อย่างมหาโจรหรืออาชยากรชื่อดังเท่านั้น ในยุคนี้เองที่พระเยซูได้เริ่มเผยแพร่คำสอนไปทั่วกรุงโรม แถมยังรวบรวมชาวยิวที่พวกโรมถือว่าเป็นชนชั้นต่ำให้มารวมตัวกันได้เป็นกลุ่มก้อน จนำท่าว่าจะต่อกรกับฝ่ายปกครองได้ ผู้ปกครองในตอนนั้นก็เลยจัดการยัดข้อหาหัวหน้าโจรให้พระองค์เสียเลย แล้วจับตัวพระเยซูมาประหารบนไม้กางเขนด้วยการตอกตะปูตรึงมือเท้าทิ้งไว้ให้ตากแดดตากลมจนตายอย่างทรมาน

     หลังจากที่พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์แล้ว โจเซฟ แห่งอาริมาเธียก็ได้ขออนุญาติฝ่ายปกครองเพื่อเอาพระศพลงมาฝัง ซึ่งถึงจะได้รับอนุญาตแต่ฝ่ายปกครองโรมันก็ยังตามจองล้างจองผลาญไม่เลิก ด้วยการสั่งให้แกะสลัก แผ่นไม้ว่า " จีซัสแห่งนาซาเรธ กษัตริย์แห่งยิว" ติดไว้กับไม้กางเขนที่ตรึงองค์พระเยซู เป็นการเยาะเย้ยว่าพระเยซูเป็นได้ก็แค่กษัตริย์ของพวกยิวเท่านั้น ไม่ใช่พระบุครของพระเจ้าอย่างที่ทรงประกาศ

     แต่อีกหลายร้อยปีต่อมา เมื่อพระเยซูได้รับการยอมรับจากชาวคริสต์ว่าทรงเป็นพระบุตรที่พระเจ้าส่งลงมาโปรดชาวโลกจริง ไม้กางเขน...อุปกรณ์ชั้นต่ำสำหรับคนสมัยก่อนก็ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ตามไปด้วย เริ่มมีการตีความไม้กางเขนกันใหม่ว่าแขนทั้ง 4 ข้างของมันน่าจะหมายถึงทิศทั้ง 4 แปลได้ว่า พระมหากรุณาทิคุณของพระเจ้าทรงครอบคลุมไปทั้ง 4 ทิศ และไม้กางเขนอันที่ตรึงพระเยซูจนตายก็กลายเป็นไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์หนึ่งเดียวของชาวคริสต์ไปในทันที

     ในปี ค.ศ.350 เชื่อกันว่านักบุญไซริลบิชอปแห่งเยรูซาเลม ได้ขุดไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาบูชา ส่วนจะหาว่าอันไหนคือไม้กางเขนของพระเยซูนั้นก็ไม่ยากเลย อันไหนที่มีแผ่นไม้ถากถางว่า "จีซัสแห่งนาซาเรธ กษัตริย์แห่งยิว" ก็นั่นล่ะ ไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ของแท้ !

     ถ้ายังไม่มั่นใจว่าใช่ของจริงหรือเปล่า เพราะในวันที่พระเยซูถูกประหาร ที่ข้าง ๆ พระศพมีนักโทษถูกตรึงกางเขนตายทั้งเป็นพร้อมพระองค์ด้วยอีก 2 คน ท่านบิชอปท่านก็มีวิธีพิสูจน์อันสุดแสนอะแมซิ่งและกลายเป็นตำนานเล่าขานมาจนถึงทุกวันนี้ นั่นคือท่านเอาไม้กางเขนที่ขุดได้ทั้ง 3 อัน ( อันหนึ่งเป็นของพระเยซู อีก 2 อันเป็นของนักโทษที่ตายใกล้ ๆ กัน ) ไปให้ผู้หญิงที่กำลังป่วยหนักใกล้จะตายได้ลองจับ พอมือของเธอได้สัมผัสกับไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ของจริงเข้า โรคร้ายก็หายเป็นปลิดทิ้งทุกคนที่เห็นจึงรู้ได้ทันทีว่าอันนี้ล่ะของจริงร้อนเปอร์เซ็นต์ !  หลังจากนั้นท่านบิชอปก็ได้ตัดไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ออกเป็นหลายส่วน แจกจ่ายให้กับคนสำคัญหลาย ๆ คนเพื่อให้เอาไปเผยแพร่พระเกียรติคุณของพระเยซูต่อไป

[อุ้มผาง ทีลอซู]

เป็นความรู้ที่มีประโยชน์มากต่อคนที่ไม่รู้มาก่อน