คำร้องขอความช่วยเหลือกรณีการดำเนินการระงับความเคลื่อนไหวทางทะเบียนราษฎรของเด็กชายหม่อง ทองดี ฉ.2

๙ กันยายน ๒๕๕๓

 

เรื่อง    คำร้องขอความช่วยเหลือกรณีการดำเนินการระงับความเคลื่อนไหวทางทะเบียนราษฎรของเด็กชายหม่อง ทองดี เลขประจำตัวประชาชน ๐-๕๐๐๑-๘๙๐๐๐-๙๔-๑

เรียน    ประธานคณะอนุกรรมการด้านสิทธิและสถานะบุคคลของผู้ไร้สัญชาติ ไทยพลัดถิ่น  ผู้อพยพ  และชนพื้นเมือง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

อ้างถึง   ๑.หนังสือสำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลตำบลสุเทพที่ ชม ๖๔๘๐๑.๑/ทร.๓๒ ลงวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๓ เรื่อง ปัญหาสถานะของบุคคลไม่มีสัญชาติไทยและอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทย (กรณีเด็กชายหม่อง ทองดี)

           ๒. หนังสือโครงการบางกอกคลินิกเพื่อให้คำปรึกษากฎหมายด้านสถานะและสิทธิของบุคคล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ลงวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๓ เรื่อง ดำเนินการระงับความเคลื่อนไหวทางทะเบียนราษฎรของ เด็กชายหม่อง ทองดี เลขประจำตัวประชาชน ๐-๕๐๐๑-๘๙๐๐๐-๙๔-๑

           ๓. หนังสือคณะอนุกรรมการด้านสิทธิและสถานะบุคคลของผู้ไร้สัญชาติ ไทยพลัดถิ่น ผู้อพยพและชนพื้นเมือง ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ลงวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๕๓ เรื่อง ความเห็นต่อประเด็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อกรณีสำนักทะเบียนท้องถิ่นตำบลสุเทพ

สิ่งที่ส่งมาด้วย   ๑. หนังสือมอบอำนาจโดยนายยุ้น ทองดี บิดาของเด็กชายหม่อง ทองดี ให้โครงการบางกอกคลินิกฯ เป็นผู้ดำเนินการแทน

                     ๒. ความเห็นทางกฎหมายต่อกรณีการดำเนินการระงับความเคลื่อนไหวทางทะเบียน เพื่อจำหน่ายรายการบุคคลของเด็กชายหม่อง ทองดี โดย สำนักงานกฎหมายธรรมสติ

                    ๓. ความเห็นทางกฎหมายต่อกรณีการดำเนินการระงับความเคลื่อนไหวทางทะเบียน ของเด็กในสถาบันการศึกษาของเด็กชายหม่อง ทองดี โดย คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อผู้อพยพย้ายถิ่น-ระนอง

 

ตามที่ท่านได้มีหนังสือลงวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๕๓ (ตามเอกสารอ้างถึงลำดับที่ ๓) เพื่อส่งประเด็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคำร้องขอความช่วยเหลือของโครงการบางกอกคลินิกฯ (ตามเอกสารอ้างถึงลำดับที่ ๒) เพื่อร้องขอความช่วยเหลือ กรณีการดำเนินการระงับความเคลื่อนไหวทางทะเบียนราษฎรของ เด็กชายหม่อง ทองดี เลขประจำตัวประชาชน ๐-๕๐๐๑-๘๙๐๐๐-๙๔-๑ ซึ่งสำนักทะเบียนท้องถิ่นตำบลสุเทพเป็นผู้ออกคำสั่ง (ตามเอกสารอ้างถึงลำดับที่ ๑) เพื่อใช้ในการประชุมตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนของเด็กในสถาบันการศึกษา กรณีเด็กชายหม่อง ทองดี ในวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๕๓ นั้น

 

ในการนี้ โครงการบางกอกคลินิกฯ ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจาก นายยุ้น ทองดี บิดาของเด็กชายหม่อง ทองดี (โปรดดูเอกสารที่ส่งมาด้วย ลำดับที่ 1) ขอแสดงความเห็น รวมถึงข้อห่วงกังวลเพิ่มเติมต่อประเด็นที่ท่านได้ส่งมา ดังต่อไปนี้

ประการแรก ทางโครงการบางกอกคลินิกฯ ไม่มีข้อขัดแย้ง หากจะมีการดำเนินการเพื่อทำให้เลขประจำตัวของเด็กชายหม่อง ทองดี เหลือเพียงชุดเดียว ทั้งนี้เพื่อประโยชน์สูงสุดในการจัดการฐานข้อมูลของประชากรทั้งประเทศ

ประการที่สอง แต่หากจะมีการดำเนินการเพื่อทำให้เลขประจำตัวของเด็กชายหม่อง ทองดี เหลือเพียงชุดเดียว ทางโครงการบางกอกคลินิกฯ เพียงอยากให้ท่านผู้ที่เกี่ยวข้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็ก รวมทั้งสิทธิที่อาจสูญเสียไปจากคำสั่งทางปกครองในการระงับหรือจำหน่ายรายการทางทะเบียนในสถานะใดสถานะหนึ่ง ซึ่งหมายความว่า ไม่ว่าเด็กชายหม่อง ทองดี จะอยู่ในสถานะใดก็ตาม แต่สิทธิอันเคยมีหรือสิทธิอันควรจะมีนั้น ไม่ควรจะได้รับผลกระทบจากคำสั่งฯ ระงับหรือจำหน่ายรายการทางทะเบียนราษฎรดังกล่าว

ประการที่สาม ทางโครงการบางกอกคลินิกฯ มีความกังวลใจเป็นอย่างยิ่งต่อสิทธิอาศัยของเด็กชายหม่อง ทองดี  

หากเด็กชายหม่อง ทองดี จำเป็นต้องคงไว้ซึ่งสถานะเดียว คือ สถานะผู้ติดตามแรงงานต่างด้าวแล้ว ในการนี้หากบิดามารดาผ่านการพิสูจน์สัญชาติกับประเทศพม่าซึ่งเป็นประเทศต้นทางแล้ว เด็กชายหม่อง ทองดี จะมีสิทธิอาศัยตามบิดามารดา ซึ่งหมายความว่าจะสามารถอยู่ในประเทศไทยต่อไปอย่างมากที่สุดเพียงแค่ ๔ ปี แต่หากบิดามารดาพิสูจน์สัญชาติไม่ผ่าน สิทธิอาศัยของเด็กชายหม่อง ทองดี และ บิดามารดา ก็จะสิ้นสุดลงในอีก ๒ ปี (ภายในวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕) หากเป็นเช่นนี้สิทธิในการศึกษาและสิทธิในการได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีในประเทศไทยในฐานะเด็กในสถานศึกษาก็จะต้องสิ้นสุดลงด้วยใช่หรือไม่ ? อย่างไร?

ในสถานการณ์เช่นนี้ การคงไว้ซึ่งสถานะของเด็กในสถานศึกษาจะก่อให้เกิดสิทธิอาศัยที่ดีกว่า ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อตัวเด็กชายหม่อง ทองดี มากกว่าในแง่ของการได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตหรือไม่ ? อย่างไร?

ประการที่สี่ ทางโครงการบางกอกคลินิกฯ มีความกังวลใจเป็นอย่างยิ่งต่อสิทธิในหลักประกันสุขภาพของเด็กชายหม่อง ทองดี ซึ่งได้รับ โดย มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๓ ในสถานะที่เด็กชายหม่อง ทองดี เป็นเด็กในสถานศึกษา

หากมีการระงับหรือจำหน่ายรายการทางทะเบียนราษฎรของเด็กชายหม่อง ทองดี ในฐานะเด็กในสถานศึกษาแล้ว เด็กชายหม่อง ทองดี จะเสียสิทธิในหลักประกันสุขภาพนี้ไปหรือไม่ ? อย่างไร?

และหากเด็กชายหม่อง ทองดี จำเป็นจะต้องคงไว้ซึ่งสถานะเดียว คือ สถานะของผู้ติดตามแรงงานต่างด้าวแล้ว เด็กชายหม่อง ทองดี จะสามารถเข้าถึงสิทธิในหลักประกันสุขภาพนี้ได้หรือไม่ ? อย่างไร?

ประการที่ห้า ทางโครงการบางกอกคลินิกฯ มีความกังวลใจเป็นอย่างยิ่งต่อสิทธิทางการศึกษาของเด็กชายหม่อง ทองดี

หากมีการระงับหรือจำหน่ายรายการทางทะเบียนราษฎรของเด็กชายหม่อง ทองดี ในฐานะเด็กในสถานศึกษาแล้ว สิทธิในศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น รวมทั้งสิทธิในการได้รับวุฒิทางการศึกษา จะได้รับผลกระทบหรือไม่ ? อย่างไร?

ประการที่หก ทางโครงการบางกอกคลินิกฯ มีความกังวลใจเป็นอย่างยิ่งต่อสิทธิในการเดินทางทั้งเพื่อการศึกษาและเพื่อรักษาพยาบาลของเด็กชายหม่อง ทองดี

หากมีการระงับหรือจำหน่ายรายการทางทะเบียนราษฎรของเด็กชายหม่อง ทองดี ในฐานะเด็กในสถานศึกษาแล้ว เด็กชายหม่อง ทองดี จะสามารถขออนุญาตเดินทางเพื่อศึกษาตลอดหลักสูตรในสถานศึกษาที่อยู่นอกเขตจังหวัดที่ควบคุมได้หรือไม่ ? อย่างไร? และสามารถขออนุญาตเดินทางเพื่อรักษาพยาบาลนอกเขตจังหวัดที่ควบคุมได้หรือไม่ ? อย่างไร?

ประการที่เจ็ด ทางโครงการบางกอกคลินิกฯ มีความกังวลใจเป็นอย่างยิ่งต่อสิทธิในการพัฒนาสถานะบุคคลของเด็กชายหม่อง ทองดี ซึ่งจะเป็นการที่จะทำให้เด็กชายหม่อง ทองดี พ้นจากสภาพความไร้สัญชาติในที่สุด

หากเด็กชายหม่อง ทองดี จำเป็นจะต้องคงไว้ซึ่งสถานะเดียว คือ สถานะของผู้ติดตามแรงงานต่างด้าวแล้ว เด็กชายหม่อง ทองดี จะสามารถเข้าถึงสิทธิที่จะพิสูจน์สัญชาติกับประเทศต้นทางตามบิดามารดาได้หรือไม่ ? อย่างไร?

หากเด็กชายหม่อง ทองดี ไม่สามารถเข้าสู่กระบวนพัฒนาสถานะบุคคลกับประเทศต้นทางได้แล้ว ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่ผูกพันประเทศไทย ประเทศไทยในฐานะประเทศเจ้าของภูมิลำเนา จำต้องมีหน้าที่ในช่วยขจัดความไร้สัญชาติให้แก่เด็กชายหม่อง ทองดี ต่อไป แต่เมื่อมีการสั่งระงับหรือจำหน่ายรายการทางทะเบียนราษฎรของเด็กชายหม่อง ทองดี ในฐานะเด็กในสถานศึกษาแล้ว จะทำให้เด็กชายหม่อง ทองดี เสียสิทธิในการพัฒนาสถานะบุคคลหรือไม่ ? อย่างไร?

และประการสุดท้าย ทางโครงการบางกอกคลินิกฯ ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากนายยุ้น ทองดี บิดาของ เด็กชายหม่อง ทองดี จะทำการส่งหนังสืออุทธรณ์คำสั่งของนายทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลตำบลสุเทพ ภายในระยะเวลา ๓๐ วันนับจากวันที่ได้รับคำสั่งฯ (คือวันที่ 31 สิงหาคม 2553) และหากยังปรากฏว่ามีการออกคำสั่งทางปกครองใดๆ ที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของเด็กชายหม่อง ทองดี โดยปราศจากความชอบด้วยกฎหมาย ทางโครงการบางกอกคลินิกฯ มีความจำเป็นที่จะต้องใช้สิทธิทางศาลเพื่อขอให้กระบวนการยุติธรรมทางปกครองเข้าคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของเด็กชายหม่อง ทองดี ต่อไป

 

และทางโครงการบอกคลินิกฯ ได้แนบความเห็นทางกฎหมายของทนายความผู้เชี่ยวชาญด้านสถานะบุคคลมาพร้อมกัน ณ โอกาสนี้ ด้วย (โปรดดูเอกสารแนบท้ายที่ส่งมาด้วย ลำดับที่ 2 และ 3)

 

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา และขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้

 

ขอแสดงความนับถืออย่างสูง

นางสาวบงกช นภาอัมพร และ นางสาวอัจฉรา สุทธิสุนทรินทร์

คณะทำงานโครงการบางกอกคลินิก

เพื่อให้คำปรึกษากฎหมายด้านสถานะและสิทธิของบุคคล

คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์