ทำนาโยนที่สวนสายลมจอย

นาโยนประหยัดเวลากว่านาดำ และ ไม่มีพืชอื่นขึ้นแทรกเหมือนนาหว่าน

 

 

เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันแม่แห่งชาติ หนูได้ไปทำนาโยนที่สวนสายลมจอยในนาของน้าเอก พ่อน้องต้นกล้า  แต่ว่าพ่อกับแม่ติดธุระเลยไม่ได้ไปด้วยค่ะ  หนูจึงขอติดรถไปกับน้าลักษณ์และน้าโหน่ง แม่กับพ่อของน้องไอและน้องที  นอกจากนี้ยังมีเจนนี่เพื่อนของน้องไอไปด้วยอีกคน

                ระหว่างทางที่เราไปเห็นทุ่งนาสวยมากเลยค่ะ มีชาวนากำลังปลูกข้าวอยู่ด้วย  พอไปถึงเราก็เดินต่อเข้าไปที่บ้านของน้าเอก  สวนสายลมจอยของน้าเอกมีต้นไม้เยอะเลยและยังมีบ้านดินอีกหลายหลัง มีคลองเล็กๆ สายหนึ่งกว้างประมาณ 1 เมตร ค่อนข้างตื้น น้ำนิ่ง มีแพอยู่อันหนึ่ง  ตอนที่หนูไปถึงเห็นอ๋อง ปูน แปลน น้ำอุ่น ต้นกล้า และเด็กคนอื่นๆกำลังเล่นแพกันอยู่จึงไปดูเขาเล่นกัน หลังจากนั้นสักพักเราก็ไปนั่งรวมกันที่ศาลาไม้หลังใหญ่ มีคนเข้าร่วมประมาณ 40 คนทั้งเด็กและผู้ใหญ่

น้าเอกกำลังโยนต้นกล้า

น้าเอกสอนเรื่องนาโยนว่า นาโยนนั้นประหยัดเวลากว่านาดำ และไม่มีพืชอื่นขึ้นแทรกเหมือนนาหว่าน  ส่วนต้นกล้าที่จะใช้ในนาโยนนั้นจะถูกปลูกลงในถาดเพาะกล้าพลาสติคที่มีหลุมเล็กๆ อยู่หลายหลุม  วิธีเพาะต้องใส่ดินลงไปก่อนแล้วหยอดเมล็ดข้าวจากนั้นก็กลบด้วยดินบางๆ แต่ละหลุมจะมีข้าวประมาณหนึ่งถึงสามต้นและมีดินจากหลุมเพาะติดรากอยู่ด้วย

                วิธีปลูกก็แค่โยนต้นกล้าออกไป มันก็จะตกลงในนาโดยส่วนรากที่มีดินติดหนักกว่าจะตกลงมาก่อน จึงทำให้ต้นกล้าตั้งตรง น้าเอกอนุญาตให้เราเดินลงไปในนาได้ตอนที่ต้นกล้าในนายังมีน้อยอยู่  พอเกือบเต็มนาเราก็ขึ้นมาโยนบนคันนา

              

เสร็จแล้วเราก็ไปล้างมือล้างเท้าที่คลองเล็กๆ อีกสายหนึ่งลึกแค่เข่าหนู  ลงไปเดินเล่นได้ สุดท้ายหนูล้มเลยเปียกขึ้นมาถึงคอ

                ข้าวกลางวันที่นี่เป็นข้าวมันไก่กับเห็ดทอด อร่อยมากค่ะ  หลังจากนั้นตอนบ่ายเขาจะทาสีบ้านดินกันต่อ แต่เจนนี่เหนื่อยอยากกลับ หนูเลยต้องกลับด้วย

ขอบคุณบ้านเด็กคิดดี สำหรับภาพทั้งหมดค่ะ