การที่ระบบราชการจะมีความเข้มแข็ง มีประสิทธิภาพสูง ได้นั้น แน่นอนว่าต้องมี “คน” ที่มีคุณเป็นผู้รับผิดชอบทั้งด้านนโยบายและการปฏิบัติ จึงถือเป็นอันสูงสุดในการสรรหาคนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามารับราชการ เป็นโจทย์สำคัญว่าทำอย่างไรภาครัฐจึงจะเป็นนายจ้างที่คนหนุ่มสาวยุคใหม่เลือกที่จะเข้ามายึดเป็นอาชีพ การเลือกอาชีพของคนยุคใหม่ที่สำเร็จการศึกษามานั้นอาจมีหลายเรื่อที่เขาพิจารณา แต่ลำดับแรกก็คือ เงินเดือนที่เหมาะสมใกล้เคียงกับอัตราตลาด เป็นค่าตอบแทนที่มากเพียงพอในการเริ่มต้นเผชิญกับชีวิตการทำงาน และเป็นแรงจูงใจที่จะดึงดูดคนดีมีความรู้ความสามารถเข้ามารับราชการอัตราเงินเดือนที่ใช้สำหรับบรรจุผู้เริ่มรับราชการนั้นแต่เดิมมาใช้อัตราเดียวเท่ากันหมดทุกคุณวุฒิ ทุกสาขา กล่าวคือ จบปริญญาตรีเริ่มที่ 7,940 บาท ปริญญาโท 9,700 บาท การใช้อัตราเดียวเท่ากันหมดนี้มีจุดอ่อนคือ หากเป็นสาขาวิชาชีพซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน ราชการก็ไม่สามารถดึงดูดผู้ที่มีผลการเรียนเป็นเลิศและจบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำเข้ามาได้ เพราะค่าตอบแทนในอัตราตลาดที่ภาคเอกชนจ่ายสูงกว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก.พ. ได้พิจารณาเรื่องโครงการสร้างอัตราเงินเดือนแรกบรรจุแล้ว เห็นว่ามีปัจจัยหลายประการที่มีผลต่อการเพิ่มพูนสมรรถนะของผู้บรรจุเข้ารับราชการใหม่ให้สามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพสูง และควรนำปัจจัยเหล่านั้นมาพิจารณาเพิ่มเงินเดือนแรกบรรจุให้ได้ อาทิเช่น
ทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่างการเพิ่มเงินเดือนแรกบรรจุ เพื่อให้มีความสอดคล้องกับความจริงของการจ้างงานในตลาดแรงงานซึ่งเชื่อว่าจะเป็นการดึงดูดคนที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์เข้ามารับราชการได้ดียิ่งขึ้น และส่งผลในการเพิ่มพูนประสิทธิภาพของงานราชการ โดยที่ช่วงนี้เป็นช่วงแห่งการปฏิรูปประเทศไทย แนวทางในการปรับเงินเดือนแรกบรรจุดังกล่าว จึงอาจถือได้ว่าเป็นความริเริ่ม เป็นการปฏิรูประบบราชการในแง่มุมหนึ่ง ซึ่งจะส่งผลให้อาชีพการรับราชการได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น ได้คนที่มีสมรรถนะสูงเข้ามาเสริมความเข้มแข็งของระบบราชการ ทราบว่าจะมีการนำเรื่องนี้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาและหากเห็นชอบได้รับความเห็นชอบ ก็จะนำสู่การปฏิบัติเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 โยสำนักงาน ก.พ. เป็นผู้รับผิดชอบร่วมกันกระทรวง ทบวง กรม
สวัสดีค่ะ ดร.ผกาวรรณ
แวะมาทักทายค่ะ
ในสมัยนี้จะเลือกงานใดๆนั้นก็ต้องมีการคิดตัดสินใจในหลายๆด้านค่ะ
ขอบคุณค่ะ