มนุษย์เรามีประสาทสัมผัสเป็นสื่อรับรู้ความเป็นไปของสิ่งแวดล้อม และมีสมองอันชาญฉลาดเป็นตัวประมวลผลแล้วส่งข้อมูลให้ร่างกายเราแสดงปฏิกริยาออกมา ทุกข์บ้าง สุขบ้าง พอใจบ้าง ไม่พอใจบ้าง ตามแต่สภาวะแวดล้อมนั่นแสดงว่า ตัวเรากำลังถูกจองจำโดยสิ่งแวดล้อมแล้วเราจะมีความสุขได้อย่างไร เราจะปลดพันธนาการจากการถูกจองจำนี้ได้อย่างไร
จิต และ ใจ คือกุญแจ เราต้องใช้ใจคุมสมอง อย่าให้สมองคุมใจ แต่จิตและใจของเราต้องมีความแข็งแรง ทำอย่างไรใจของเราจึงจะแข็งแรง ภาษาทางพระเขาเรียกว่าการปล่อยวาง ปล่อยวางไม่ใช่ละเลย แต่เราต้องใส่ใจในทุกกระบวนการที่เกิดขึ้นและควบคุมสมองไม่ให้สมองสั่งให้ร่างกายแสดงปฏิกริยาในสิ่งที่ใจเราไม่ต้องการ
การฝึกใจในขั้นพื้นฐานคือ คิดให้มีความสุขก่อน คิดอย่างไรให้มีความสุข
เริ่มตั้งแต่ ตื่นนอนก่อนลุกจากที่นอน อย่าลืมบอกตัวเอง ว่า "วันนี้เราจะมีความสุขทั้งวัน"
- ลุกจากที่นอนมาให้ยิ้มอย่างจริงใจเมื่อเจอใครเป็นคนแรก(อาจเป็นสัตว์เลี้ยงก็ได้)
- ไปถึงที่ทำงานทักทายผู้อาวุโส ยิ้มให้ผู้อ่อนวัยกว่า(เราอาจจะได้รับการตอบรับที่คาดไม่ถึง)
- เรายกมือไห้วทักทายใคร เราอย่าไปคาดหวังว่าเขาจะไห้วตอบเราและเราจะสบายใจ
- อย่ายากรู้ว่าใครจะคิดกับเราอย่างไร ให้รู้แค่ใจเราคิดกับใครอย่างไรและคุมใจอย่าให้คิดติดลบพอแล้ว
- อย่าแสดงความไม่พอใจในการทำงานของเพื่อนร่วมงาน เพราะเขา ไม่ใช่เรา เขาจึงทำได้ไม่อย่างที่เราคิด
- เมื่อกลับถึงบ้าน อย่าลืมคำพูดก่อนลุกจากที่นอน
- ทุกชีวิตมีความคิดที่อิสระ(อย่าไปซีเรียสกับความคิดของคนอื่น) แต่การกระทำที่เกิดจากความคิดต้องจูนให้เข้ากัน
- ยิ้มให้ตัวเองซักนิดก่อนนอน แล้วพรุ่งนี้เช้าเราจะมีความสุข
ด้วยรักจากครูชาติ Too Much So Much Very Much.....
สวัสดีค่ะ ครูชาติ
บันทึกนี้ดีจังเลย
ทุกข์สุขอยู่ที่ใจ ตื่นเช้ามา อย่าลืมบอกตัวเองว่า "วันนี้เราจะมีความสุขทั้งวัน"
ขอบคุณที่ให้ข้อคิดดีๆ
ขอบคุณ Kruposong ครับที่ให้กำลังใจ