พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ . 2542 ปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 ได้กำหนดหลักการเกี่ยวกับการจัดการศึกษาเอกชนไว้ โดยกำหนด ให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา โดยการบริหารและจัดการศึกษาของเอกชนเป็นไปโดยอิสระ ภาครัฐเป็นเพียงผู้กำกับ ติดตาม ประเมินคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา ทั้งนี้รัฐต้องกำหนดนโยบายและมาตรการที่ชัดเจนเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของเอกชนด้านการศึกษา และต้องให้การสนับสนุนด้านเงินอุดหนุน การลดหย่อน หรือ การยกเว้นภาษี และสิทธิประโยชน์อย่างอื่นที่เป็นประโยชน์ในทางการศึกษาแก่สถานศึกษาเอกชนตามความเหมาะสม รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนด้านวิชาการให้สถานศึกษาเอกชน มีมาตรฐานและสามารถพึ่งตนเองได้อย่างแท้จริง
ประเด็นที่ |
สภาพปัจจุบันปัญหา |
1. |
การแก้ไขพระราชบัญัติโรงเรียนเอกชน (ฉบับแก้ไข) พ.ศ......และการบังคับใช้กฎหมาย |
2 |
ครูโรงเรียนเอกชน ยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพจากรัฐบาลตามมติ ครม. คนละ 1,500 บาท ซึ่งทุกครั้งรัฐเพิ่มให้กับครูภาครัฐครูเอกชนจะได้รับอานิสงส์ส่วนนี้มาโดยตลอด |
3 |
การเรียกบรรจุครูกลางปีของ สพท.และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำให้ครูเอกชนต้องออกกลางคัน ส่งผลกระทบต่อการจัดการเรียนการสอน |
4 |
ครูขาดขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน |
5 |
ครูโรงเรียนเอกชนไม่มีวิทยฐานะและค่าตอบแทนวิทยฐานะ |
6 |
โรงเรียนรัฐบาล เปิดรับนักเรียนหลายรอบ และรับนักเรียนต่อห้องเกินความจุ เช่น ห้องละ 55-60 คน ส่งผลให้นักเรียนในโรงเรียนเอกชนลดลง |
7 |
โรงเรียนเอกชนได้รับความเดือดร้อนในเรื่องการเรียกเก็บภาษีโรงเรือน ภาษีป้าย ฯลฯ จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น เทศบาล อบจ.ในอัตราที่สูงกว่าธุรกิจอื่นๆ |
8 |
การเปิดเสรีการค้าบริการสาขาการศึกษาภายใต้กรอบความร่วมมืออาเซี่ยน |
9 |
การเปิดขยายโรงเรียนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและโรงเรียนภาครัฐส่งผลกระทบต่อนโยบายการขยายสัดส่วนให้การศึกษาเอกชนเข้ามาแบ่งเบาภาระของรัฐ |
ข้อเสนอแนะแนวทางในการสนับสนุนส่งเสริมการศึกษาเอกชน |
1. กระทรวงศึกษาธิการจะต้องเร่งรัดให้มีการแก้ไข พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชนฯ โดยเร่งด่วนเพื่อเป็นแนวปฏิบัติให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน |
2. รัฐบาลควรเร่งจัดงบประมาณช่วยเหลือค่าครองชีพแก่ครูเอกชนดังกล่าว เพื่อเป็นการผ่อนเบาภาระทางเศรษฐกิจของครอบครัวอันจะเป็นขวัญ กำลังใจแก่ครูเอกชนต่อไป |
3. กระทรวงศึกษาธิการ ควรประสานกับ สพฐ.และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการเรียกบรรจุครูช่วงเดือนมีนาคมหรือเมษายนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อการจัดครูเข้าสอนอันจะเป็นผลกระทบการเรียนการสอนของโรงเรียนเอกชน |
4. ควรจัดสวัสดิการให้กับครูเอกชน เช่นเดียวกับครูภาครัฐ เช่น ค่ารักษาพยาบาลของครูและบุคคลในครอบครัว |
5. กระทรวงศึกษาธิการควรกำหนดระเบียบหรือแนวปฏิบัติในการให้ครูโรงเรียนเอกชนมีและได้รับเงินค่าตอบแทนวิทยฐานะเช่นเดียวกับข้าราชการครู |
6. กระทรวงศึกษาธิการควรกำชับให้ สพฐ.และ สพท. กำหนดแนวปฏิบัติที่ชัดเจน ในการเปิดรับนักเรียนเข้าเรียนของโรงเรียนภาครัฐ |
7. กระทรวงศึกษาธิการควรเร่งดำเนินการประสานงานกับกระทรวงมหาดไทยและหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องการจัดเก็บภาษีจากโรงเรียนเอกชนในอัตราที่เป็นธรรม เนื่องจากโรงเรียนเอกชนเป็นหน่วยงานทางการศึกษามิได้เป็นธุรกิจการค้าหวังผลกำไร |
8. รัฐบาลควรมีมาตรการที่ชัดเจนในการกำหนดเกณฑ์มาตรฐานในการเปิดหรือขยายสาขาสถานศึกษาของต่างประเทศในประเทศไทยเพราะเกรงว่าหากไม่สงวนอาชีพบางอย่างสำหรับคนไทยจะเกิดผลเสียหายในภายหลัง |
9.กระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการประชุมหาข้อตกลงร่วมกันในการปรับสัดส่วนในการจัดการศึกษาของรัฐและเอกชน ให้เป็น 70:30 อย่างเป็นรูปธรรม |
รัฐทำอะไรกันอยู่ในเรื่องภาษีโรงเรือน ยิ่งสร้างประกอบก็ยิ่งเก็บ แล้วจะไปคิดสร้างทำไม จัดการสอนไปแบบแกนๆดีกว่าไม่ต้องสร้างไม่ต้องเสียเพิ่ม เกณฑฺชี้วัดบางตัวก็เกี่ยวกับอาคาร ทำอย่างไรดีหรือผลักภาระไปให้ผู้ปกครองดีครับ