นั่งนาน ๆ รู้สึกปวดชาที่ขา และเท้าบวมแดง ระวังจะเป็น DVT ในโลกไฮเทคอย่างทุกวันนี้ เราคงปฏิเสธคอมพิวเตอร์ไม่ได้แล้ว แต่ระวัง!! มันมีคุณอนันต์ก็อาจมีโทษมหันต์ ถ้าใช้คอมพิวเตอร์อย่างไม่ถูกวิธี โรค DVT อาจจะถามหา
โดยโรค DVT นี้ถูกค้นพบโดยนักวิจัย ที่ได้ข้อมูลมาจากชายวัย 32 ปีผู้หนึ่ง ซึ่งต้องนั่งทำงานอยู่หน้าเทอร์มินัลคอมพิวเตอร์ประมาณ 18 ชั่วโมงต่อวันมานาน จนกระทั่งวันหนึ่งเขาต้องเข้าโรงพยาบาล เพราะอาการเลือดจับตัวเป็นก้อน โดยเริ่มจากบริเวณขาของเขาก่อนที่จะแตกกระจายไปยังปอดทั้งสอง จนเกิดอาการโคม่า ต้องรีบรักษาเป็นการด่วน จากเหตุการณ์นี้ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายเริ่มหันมาใส่ใจกับโรคนี้กันมากขึ้น
ฉะนั้นถ้าเห็นลูกคร่ำเคร่งอยู่หน้าคอมฯ นาน ๆ ก็เตือนไว้บ้างว่า ถ้าเขารู้สึกปวดชาที่ขา และเท้าบวมแดงเมื่อไหรให้รีบลุกจากเก้าอี้มายืดเส้นยืดสายทันที เพราะถ้าลูกมัวทำงานเพลินหรือเล่นเกมจนติดพัน ไม่คอยจับสังเกตอาการ และแก้ไขให้ทันท่วงที ลูกจะกลายเป็นผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ เพราะการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานหลายชั่วโมง โดยไม่ลุกหรือขยับเขยื้อนร่างกายเลย จะทำให้เลือดซึ่งเคยไหลเวียนได้สะดวกจับตัวกันเป็นลิ่มๆ และอาจไปอุดตันตามอวัยวะที่สำคัญ เช่น ปอด หรือหัวใจ ทำให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตได้ นี่ล่ะค่ะคือความเสี่ยงที่ลูก ๆ ของเราต้องระวังไว้บ้าง
แต่ถ้าเลี่ยงการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์นาน ๆ ไม่ได้ อย่างน้อยก็ให้พยายามกระดิกนิ้วเท้าและข้อเท้า เมื่อเริ่มรู้สึกว่านั่งนานแล้ว หรือดื่มน้ำมากๆ เข้าไว้ และถ้าเป็นไปได้ควรลุกขึ้นมายืดแข้งยืดขาอย่างน้อยๆ ชั่วโมงละครั้งก็ยังดีค่ะ อ้อ...ท่าทางการนั่งที่ถูกต้องคือ นั่งลำตัวตรง ไม่ไขว้ขา จะช่วยลดความเสี่ยงนี้ได้ด้วย
และแน่นอนว่า อาการหลอดเลือดดำอุดตัน ของ โรค DVT ไม่ได้เกิดกับพนักงานออฟฟิศ ที่ต้องนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานเป็นเวลานาน หรือผู้โดยสารบนเครื่องบินชั้นประหยัดเที่ยวบินไกล ๆ เท่านั้น แต่คนที่มีอิริยาบถนั่งตลอดเวลาเป็นเวลานาน ๆ ไม่ว่าจะทำอะไร อาชีพไหนก็มีความเสี่ยงไม่แพ้กัน อย่างเช่น
นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กจะเสี่ยงต่ออาการผิดปกตินี้ถึง 2 เท่า โดยเฉพาะผู้ที่ต้องนั่งทำงานกับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กบนเครื่องชั้นประหยัด
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก http://kapook.com
ขอบคุณมากๆ เลยคะ..จะระวังไว้คะ