ถอดรหัสการบริหารการทำงานร่วมกันของคนต่าง GEN


สวัสดีครับชาว Blog

วันนี้ผมได้รับเกียรติจากจากบริษัท คอนเฟอเรนซ์ แอนด์ เซมินาร์ โพรเฟสชันนัล จำกัด ให้เป็นวิทยากรรับเชิญกิตติมศักดิ์ ในงานสัมมนา "HRM for 3 Generations People" ณ โรงแรมฮอลิเดย์ อิน กรุงเทพฯ ซึ่งผมจะพูดในหัวข้อ "ถอดรหัสการบริหารการทำงานร่วมกันของคนต่าง GEN"

งานนี้น่าสนใจมากเพราะนอกจากผมแล้ว ยังมีกูรูอีก 2 ท่าน คือ

  • รศ.ดร.เสรี วงษ์มณฑา พูดเรื่อง "รู้ทันทัศนคติของคน 3 Generation และการบริหารพฤติกรรมของคนต่าง Gen"
  • รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ พูดเรื่อง "ยุทธวิธีการบริหารความคิดของคนต่าง Gen"

เช่นเคยครับผมจะใช้ Blog นี้เป็นสื่อกลางที่เราจะแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน

จีระ หงส์ลดารมภ์

ภาพบรรยากาศการเรียนรู้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำสำคัญ (Tags): #จีระ#ต่าง gen
หมายเลขบันทึก: 385517เขียนเมื่อ 17 สิงหาคม 2010 11:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:23 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)
  • สวัสดีครับอาจารย์
  • ชื่อการสัมมนาน่าสนใจครับ พอเห็นรายชื่อวิทยากรยิ่งน่าสนใจใหญ่ ใคร่รู้ และน่าติดตามครับ
  • ส่วนตัวคงไม่มีโอกาสได้ไปร่วมแต่จะรอติดตามเรื่องที่อาจารย์นำมาถ่ายทอดใน Blog ครับ
  • ขอบคุณครับ

สิ่งที่ได้รับ

  • เปรียบเทียบ 3 G
  • HRDS
  • 8K, 5K ฯลฯ

สิ่งที่จะทำต่อ

  • วัดความสุขในที่ทำงาน เพื่อสร้าง performance ในองค์กรให้เพิ่มมากขึ้น

[email protected]

  • ได้ความคิดที่แตกต่างของ GEN ต่างๆกัน

สิ่งที่จะทำ นำ GAP นี้ไปขยายผลที่แผนกและครอบครัว 

  • เข้าใจแนวทางของจุดที่อาจก่อปัญหาได้ จะได้หาทางแก้ไข และกรณ๊ที่เกิดปัญหาแล้ว ก้จะได้เข้าใจในเหตุของปัญหาได้มากขึ้น ในทุกๆเรื่องที่เกิดจาก GEN

การบริหารทุนแห่งความสุขในแต่ละ Generation  เพื่อให้ทุกๆ Generation  ทำงานร่วมกันในองค์กรได้อย่างยาวนาน

[email protected]

ทฤษฎี HRDS

เป็นแนวคิดที่ดีมากที่ Bangkok Air Catering ก็ดำเนินการลักษณะเดียวกัน

ข้อสำคัญ จะทำอย่างไรให้ยั่งยืน

ขอบคุณอาจารย์มากๆที่ให้ความรู้และตอบโจทย์บางข้อที่สงสัย

[email protected]

สรุป การบรรยายได้แนวคิดคือ

       เรื่องของความแตกต่างระหว่าง Gen แต่ละ Gen มีมากมายแม้แต่ Gen เดียวกันก็ยังมีความแตกต่าง แต่เราจะต้องบริหารความหลากหลายที่มีในองค์กร โดยทำอย่างไรจะนำความแกต่างที่มีในองค์กรมาใช้ให้เกิดมูลค่าเพิ่มในองคืกร และสามารถสร้างบรรยากาศในการทำงานร่วมกันกับผู้อื่นอย่างมีความสุข

e-mail: [email protected]

สิ่งที่ได้คือเรื่อง การบริหาร Diversity อย่ากลัวคำว่า Diversity เอาศัตรูเป็นมิตร เพราะที่บริษัทเคยมีปัญหาพนักงานประท้วง แต่เราพยายามดึงน้องๆหัวโจกมาใกล้ชิดองค์กรมากขึ้นเหมือนให้น้องกลุ่มนี้มาเป็นกระบอกเสียงให้ผู้บริหารรับรู้ปัญหา

 

วันนี้ตั้งใจจะนำความรู้ที่ได้บริหาร Gen ที่แตกต่างกันเพื่อให้องค์กรมีความสุขร่วมกันอย่างยั่งยืน แต่ปัญหาอยู่ที่จะเปลี่ยน CEO อย่างไรเพราะเจ้านายเป็นคนรุ่นเก่า เปลี่ยนยาก

email; [email protected]

สิ่งที่ได้

  • ความเข้าใจพฤติกรรมของแต่ละ Gen ซึ่งได้เข้าใจธรรมชาติของคนแต่ละวัยและความแตกต่าง เพื่อป้องกันความขัดแย้งภายในองค์กร เนื่องจากในองค์กรจะมีคนที่มีความแตกต่างของช่วงวัย เช่น ผู้บริหารอายุ 40-50 และพนักงานอายุระหว่าง 22-30

       การนำทฤษฎี Gen ไปใช้สามารถอธิบายถึงการแสดงออกแต่ละบุคคลและการวางเงื่อนไขของแต่ละ Gen ในการรักษาคนแต่ละช่วงวัยให้อยู่ในองค์กรในระยะยาว

[email protected]

Tel 085-835-5522

เที่ยงจันทร์ เซียงคิ้ว

สิ่งที่ได้ในวันนี้

  • ต้องขอออกตัวก่อนว่า ยังไม่ได้อยู่ใน Field HR แต่ต้องการเปลี่ยนชีวิตเป็น HR Consultant
  • สิ่งที่ได้ในวันนี้ ได้ทราบ 8K's+5K's ว่า การใช้ชีวิตที่ Balance ทั้งการงานและชีวิตส่วนตัวทำอย่างไร มีแนวทางให้กลับไปคิดต่อ
  • โดยสรุป ต้องการเปลี่ยนตัวเองก่อนให้ Survive with satisfy เพราะตอนนี้ไม่มีความสุขในการทำงานค่ะ

สิ่งที่จะนำไปดำเนินชีวิต

1) ส่วนตัว พัฒนาตนเอง รู้จักตนเองและผู้อื่น

2) ที่บริษัทฯจะนำเรื่องนี้ไปเกริ่นเพื่อให้เกิดการเปลียนแปลงที่ดี

ขอบคุณมากค่ะ

081384-0840

[email protected]

[email protected]

อรรณพ จันทร์หอมไกล

การเปลี่ยนแปลงปัญหาให้กลายเป็นโอกาสเพื่อสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นแก่องค์กร ยกตัวอย่างเช่น

สร้างกลุ่ม Knowledge Management ให้ Baby Boomers เป็น Trainer และส่งต่อความรู้ให้แก่ Gen X และ Gen Y นอกจากจะได้ความรู้แล้ว ยังสร้างความเชื่อมั่นและความเคารพนับถือให้แก่กันและกัน สร้างมิตรภาพให้เกิดขึ้นระหว่าง Generation

ดังนั้นการใช้จุดแข็งแต่ละ Generation มาแบ่งปันในองค์กร ควรจะเป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม

อรรณพ จันทร์หอมไกล

บริษัท ครัวการบินกรุงเทพ จำกัด

[email protected]

สิ่งที่ได้จาก ศ.ดร.จีระ

1. ได้ความรู้ว่า HR ตะวันตกไม่ได้แก้ปัยหา ได้รู้ว่า HR ของไทยก็มีดี

2. ได้หลักการว่า ไม่มี Gen ไหนดีที่สุด ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลและเป็นการดีที่ถ้าในองค์กรมีหลาย Gen (Diversity)

3. ได้รู้ 8K's+5K's

4. Happiness Capital Development+HRDS

สิ่งที่จะไปปรับใช้

  • ได้ทฤษฎีการสร้างทุนแห่งความสุข ตอบโจทย์ตัวเองมากที่สุด
  • เอา HRDS ไปใช้ในองค์กร เป็นแนวของ HR บริษัท

085-667-6111

[email protected]

ขวัญฤทัย ชัยแสงจันทร์

จากการอบรม 3 Gen กับดร.จีระ วันนี้

  • ประโยชน์ที่ได้รับและนำไปพัฒนาทั้งครอบครัวและองค์กรคือ "ทุนแห่งความสุข"เพราะได้รับหลักการคิดครบและพัฒนาในด้านความสุขในการทำงานและมีความสุขในชีวิตครอบครัวกันได้อย่างไร? และสิ่งที่ตามมาคือ "เงิน" ไม่ใช่นำ "เงิน"เป็นหลักเพราะอาจจะขาดความสุขได้ในที่สุด แม้มีเงินแล้วอาจจะเกิดคำถามว่า เราทำงานเพื่ออะไร
  • ในหลักการบริหารของ CEO ของบริษัท ได้นำหลักธรรมจากพระพุทธเจ้าเผยแพร่และแชร์ให้ Gen Y ในบริษัทได้ทราบแล้ว ได้รับการยืนยันจากอาจารย์ก็จะดำเนินการต่อไป เพราะคิดว่ามาถูกทางในการสร้างทุนทางจริยธรรม "เก่งแต่ไม่โกง"

081-620-9227

[email protected]

สรุปการบรรยายเรื่อง ถอดรหัสการบริหารการทำงานร่วมกันของคนต่าง Gen

โดย ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

  • โลกเรามี Gen ที่แตกต่างกันมาจากทางโลกตะวันตก เขามีปัญหามากโดยเฉพาะในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2
  • Gen เริ่มมาจาก Babyboom คือ คนในยุโรปและอเมริกา พ่อแม่ไปรบในสงคราม หลังสงครามอยากมีลูกมาก ช่วงนั้น มีปัญหาและมีความกดดันมาก
  • ต่อมามี Gen X คือ พวกที่มีอายุตั้งแต่ 52 ปี ลงมาถึงอายุ 32 ปี จึงทำให้เกิดการแยกคนแบบฝรั่ง
  • ประเทศไทยควรทำวิจัยเรื่อง Gen
  • ปัญหาไม่ใช่เรื่องที่คนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ทะเลาะกัน ขึ้นอยู่กับชนิดของคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่มากกว่า คนแก่อาจจะฉลาดกว่าเด็กก็ได้หรือเด็กอาจจะเก่งกว่าคนแก่ก็ได้ เด็กบางคนมาจากครอบครัวที่ดี ได้รับการฝึกในการอยู่กับผู้ใหญ่ ก็ถือว่าดี ต้องดูสถานการณ์แต่ละแห่งให้ดี คนต่างรุ่นก็เข้าใจกันได้
  • วัตถุประสงค์เรื่อง Gen คือ ทำให้รู้เขา รู้เรา บริหารคนให้เกิดประสิทธิภาพ
  • Gen แบ่งได้ดังนี้
    • Builder คือคนที่มีอายุ 70-90 ปี
    • Baby boomers คือ คนที่มีอายุ 50-65 ปี เป็นคนขยัน ทำงานหนัก มีความจงรักภักดี มุ่งมั่นความสำเร็จ
    • Gen X คือ พวกที่มีอายุ 32-50 ปี
    • Gen Y คือ พวกที่มีอายุ 16-30 ปี
    • Millennium คือพวกที่มีอายุน้อยกว่า 16 ปี
  • ลักษณะ Gen Y
    • ขาดความจงรักภักดีต่อองค์กร
    • คิดถึงตนเองเป็นหลัก บ้าคลั่งความสำเร็จของงาน
    • พร้อมเปลี่ยนแปลง
    • ควรใช้งานเขาในระยะสั้นๆ 2-5 ปี ไม่ควรเขียน Career Path ให้เขา แต่ควรจ้างเป็นลักษณะ Outsourcing เป็นราย Job ไป
    • ควรใช้ Hollywood Model คือ ไม่ต้องจ้างเป็นพนักงานประจำก็ได้
  • Gen ต่างกัน มีความคิดต่างกัน ทำให้เกิดพลัง Synergy ความหลากหลายถือเป็นพลัง Obama เป็นคนที่บริหาร Diversity เก่ง นำ Hilary Clinton และ Joe Biden มาร่วมงาน
  • 3 Gen มีศักยภาพทุนมนุษย์ที่แตกต่างกัน ความเก่งของคนแต่ละรุ่นอยู่ที่การเรียนรู้และแสวงหา คนต่างรุ่นควรทำงานร่วมกัน
  • คนรุ่นใหม่มีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าคนรุ่นเก่า
  • คนรุ่นเก่ามีทุนทางวัฒนธรรมคนรุ่นเก่ามีมากกว่าคนรุ่นใหม่
  • จากงานวิจัย APM พบว่า
    • Baby boomers ชอบวางแผน สนใจสร้างแบรนด์ ทุ่มเทให้กับงาน มี service mind ต้องการความอบอุ่นเอื้ออาทรแต่ไม่ค่อยยอมเปลี่ยนแปลง
    • Gen X ไม่ต้องการเสียเวลา ให้ความสำคัยกับ Competency, result-oriented และมีอิสระการทำงาน
    • Gen Y ทำงานแบบทุกคนมีส่วนร่วม มีเกียรติ เน้นนวัตกรรม สนใจสิ่งแวดล้อม ให้ความสำคัญกับแรงจูงใจในการทำงาน เน้นความสำเร็จมีผลงาน และสนใจการเรียนต่อ ถือว่าการทำงานกับชีวิตครอบครัว พร้อมเปลี่ยนแปลง เจ้านายของ Gen Y ต้องทำให้เขาเห็น Purpose และ Reward
  • ในการบริหารคนต่าง Gen ต้องทำให้คนมีความสุขในการทำงานโดยทำให้คนชอบงานที่ทำ มีเป้าหมายในการทำงาน มี training
  • ควรใช้หลัก HRDS คือ เด็กต้องนับถือผู้ใหญ่ และผู้ใหญ่ก็ต้องเคารพศักดิ์ศรีของเด็ก

 

ความคิดเห็นผู้เข้าร่วมสัมมนา

กลุ่ม 1

  • บริษัทมีพนักงาน Gen Y อยู่ถึง 50% เพราะเน้นรับเด็กจบใหม่ และบริษัทมีนโยบายให้พนักงานเหล่านี้ทำงานแค่ 3 ปี เพราะมักจะมีพนักงานทำงานอยู่ 2 ปีแล้วลาออก บริษัทมีปัญหาคือ การบริหารค่าตอบแทน ถ้าให้ผลตอบแทนที่สูงแก่ Gen Y ก็จะกระทบ Gen X

ดร.จีระ

  • ถ้ารู้ว่าพนักงานจะลาออก ก็ไม่ต้องมี Career Path  
  • ควรทำ Exit Interview
  • CEO ควรศรัทธาเรื่องคน และมีทุนความยุ่งยืน เน้นความสุขการทำงาน
  • ควรนำตาราง 8K’s และ 5K’s ให้ CEO ดู
  • ควรอธิบายให้ HR ไปพูดกับเจ้านาย
  • ควรจะมีการทำวิจัยและศึกษาความจริง และ root cause

กลุ่ม 2

  • จะตรวจสอบอย่างไรตอน Recruit ว่า คนมีความซื่อสัตย์หรือไม่

ดร.จีระ

  • ต้องมีหลายคำถามสำหรับตรวจสอบ และใช้คนถามหลายคน
  • ควรเช็ค Family background เรียนจบที่ไหน ครอบครัวเป็นอย่างไรและเช็ค Reference
  • ควรมีการทดลองงานก่อน เพราะต้องใช้เวลานานเพื่อดูทัศนคติ

กลุ่ม 2 (ต่อ)

  • เราเป็นธุรกิจครอบครัว มีปัญหา Generation มาก โดยเฉพาะรุ่น 2 และรุ่น 3 และจะลงลึกดูรายละเอียดทุกอย่าง

ดร.จีระ

  • ศศินทร์มีหลักสูตร Managing Family Business ควรติดต่อไปที่ศศินทร์
  • ครอบครัวจีนมีปัญาขัดแย้งรุ่นลูกและหลาน แต่ขัดแย้งมากที่สุดเรื่องเงิน ควรมีความโปร่งใสเรื่องเงินก่อน
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท