แนวคิดระบบบริหารราชการไทย ในทุกวันนี้


งาน อาจารย์สุนทรี วสันต์ ศรีหาสุข

 1. การชุมนุมของ ม็อบเสื้อแดง แสดงให้เห็นว่าการเมืองไทยมีการพัฒนาหรือไม่เพราะเหตุใด

   ตอบ  คือการชุมนุมดังกล่าวก็บอกอยู่แล้วว่าผู้ชุมนุมต้องการประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้ง ดังนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นที่มีคนออกมาชุมนุมทางการเมืองก็ถือว่าในทางการเมืองของไทยมีการพัฒนาแล้วเพราะประชาชนได้เรียกร้องสิทธิของตัวเองคือเจ้าของอำนาจอธิปไตย แต่อย่างไรก็ตามเหตุที่เกิดขึ้นนี้ก็ถือว่าการเมืองไทยมีการพัฒนาไปบ้างแล้วอันเนื่องมาจากการที่ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการเมืองซึ่งก็สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตย และไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ประชาชนมองเรื่องการเมืองว่าเป็นเรื่องน่าเบื่อ

 2. การปฏิรูปการเมืองไทยที่ผ่านมาประสบความสำเร็จหรือไม่ เพราะเหตุใด ควรมีการปฏิรูปการเมืองไทยต่อไปอย่างไร

   ตอบ  คือการปฎิรูปการเมืองไทยที่ผ่านมาเป็นเสมือนไม้ล้มลุกคือหาที่แน่นอนไม่ได้เพราะทุกครั้งที่ผ่านมาเกือบทั้งหมดนั้นจะเป็นการปฎิวัติของพวกทหารคือทหารเข้ามามีบทบาทในทางการเมืองโดยตลอดจนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังเหมือนเดิมดังนั้นการเมืองไทยจึงควรปฎิรูปกันอีกต่อไป

 3. จงอธิบายถึง คุณลักษณะที่สำคัญของ  องค์การในระบบราชการไทย

   ตอบ  คือ 1.ความหมายขององค์การ หมายถึง หน่วยงาน อาจจะเป็นภาครัฐ เอกชน องค์กรระหว่างประเทศ    
        กลุ่มคนที่มารวมตัวกัน ภายใต้โครงสร้าง โดยมีเป้าหมายบางสิ่งบางอย่าง ที่ต้องการให้บรรลุ
2.องค์ประกอบขององค์การ
          2.1 จุดมุ่งหมายของโครงการ หรือวัตถุประสงค์ที่มีการจัดตั้งองค์การและเป็นทิศทางในการทำงาน ตลอดจนเป็นทิศทิศทางของการนำทรัพยากรมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดภายใน องค์การ องค์การหนึ่ง องค์การอาจจะมีจุดมุ่งหมายได้มากกว่า 1 ข้อ หลัก ๆ มี 3 ข้อ คือ
       เพื่อแสวงหากำไร
       เพื่อบริการลูกค้า
       เพื่อช่วยเหลือสังคม

    ความสำคัญขององค์การ
           ด้านการระดมสรรพกำลัง เป็นแหล่งรวมทรัพยากรทางด้านการบริหาร
           สร้างความเข้มแข็งหรืออำนาจในการดำเนินกิจกรรม เป็นการสร้างอำนาจในการแข่งขันหรือต่อรองกับหน่วยงานอื่นๆ
           เป็นหน่วยการผลิตที่มีประสิทธิภาพ เป็นศูนย์กลางการผลิตที่ทันสมัยและประยุกต์ใช้นวัตกรรมที่ทันสมัยอยู่เสมอ
          เป็นแหล่งพัฒนาทักษะการทำงาน

    4. แนวคิดในการปฏิรูปการเมืองไทยแตกต่างจากแนวคิดในการปฏิรูประบบราชการอย่างไร

   ตอบ  คือ  แตกต่าง เพราะว่า การปฏิรูปการเมืองต้องมีการเลือกตั้งใหม่จัดรัฐบาลและ แต่งตั้ง สส สว และ กว่าจะเข้าบริหารบ้านเมือง ซึ้งเป็นการที่จะต้องใช้ปัจจัยหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นในด้านการเงิน การสร้างความเชื่อมั่นความศรัทธา เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในการทำงานของรัฐบาลชุดใหม่ แต่ในการปฏิรูประบบราชการนั้น เราไม่จำเป็นที่จะต้องย้ายใครเข้าออก หรือ ปลดใคร แต่จะเป็นการเปลี่ยนแปลง โครงสร้างและระบบการทำงานใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับความทันสมัย เล็งเห็นถึง ประโยชน์ที่จะได้รับตามมาเป็นหลัก การปฏิรูประบบราชการจะสำเร็จหรือไม่ขึ้นกับองค์ประกอบหลายปัจจัย ตั้งแต่

(1) การรู้จัก ส่งเสริมการตลาดด้วยการประชาสัมพันธ์ให้รู้ว่ากระทรวงตั้งที่ไหน มีภารกิจใหม่อย่างไร และรายงาน ผลงานทุกระยะ

(2) ผู้บริหารเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี และให้เห็นผลสำเร็จระยะสั้น 3 เดือน ถึง 6 เดือน ได้อย่างชัดเจน

(3) รัฐมนตรีปลัดกระทรวง หัวหน้ากลุ่มภารกิจ/ อธิบดี ต้องปรับตัวไปตาม บทบาทใหม่ของการเป็นผู้นำปฏิรูป

(4) มีการบริหารการเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจังเป็นระบบและต่อเนื่องจนทำให้เกิดความ ยอมรับให้เป็นวัฒนธรรมขององค์กรที่ดี

(5) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบ ราชการ (ก.พ.ร.) และสำนักงาน ก.พ. ต้องทำหน้าที่เป็นองค์กรพี่เลี้ยง แนะนำให้คำปรึกษาทางวิชาการแก่ส่วนราชการและข้าราชการ

(6) การจัดผู้บริหารเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงขององค์กร ต้องเลือกเฟ้นคนดี คนเก่ง เข้ามาเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง และ

(7) การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและภาคเอกชน โดยเปิดรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ รวมทั้งการให้ความรู้และสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนให้ตระหนักถึงความสำคัญ ของระบบราชการที่เป็นเสาหลักในการขับเคลื่อนให้ประเทศไทยก้าวไปสู่การพัฒนา จนพึ่งตนเองได้และมีศักยภาพแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ ได้ในเวทีโลก

 5. แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการไทย ปัจจุบันอยู่ในระหว่างข้อใด

คือ อยู่ในข้อที่ 3 จากทั้งหมด 4

จุดประสงค์ของแผนคือ มุ่งสู่การเป็นองค์การที่มีสมรรถนะสูง บุคคลากรมีความพร้อมและมีความสามารถในการเรียนรู้ คิดริเริ่มเปลี่ยนแปล และปรับตัวได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ

  6 ประเด็นยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการไทย ตาม ก.พ.ร. ปี 2553 เป็นต้นไปมีกี่ปีเด็น

   ตอบ  คือมี่ 3 ประเด็น

 

7 การฉ้อราษฎร์บังหลวงจะมีผลกระทบต่อการพัฒนาการเมืองและการบริหารราชการไทยอย่างไร

   ตอบ  คือ   อันนี้มีผลกระทบมากเพราะว่า ถ้าราชการทำงานอย่างไม่ซื่อสัตย์ มีการฉ้อราษฏร์บังหลวง แล้ว เงินหรืองบประมาณต่างๆ ที่จะนำไปพัฒนาประเทศนั้นก็จะตกอยู่ในกลุ่มคนเพียงบางกลุ่มเพื่อผลประโยชน์ ของพวกเขาแทนที่จะได้นำไปพัฒนาประเทศ เมื่อเป็นเช่นนี้ การที่จะพัฒนาบ้านเมืองให้เจริญรุดหน้าเท่าเทียมประเทศอื่นยิ่งไม่ต้องพูด ถึงเลย การคอร์รัปชั่นมีผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ และยังส่งผลถึงเสถียรภาพทางการเมืองของประเทศ 8 ประการ คือ

1) เกิดความไม่ยุติธรรม

 2) ทำให้เกิดความไม่มีประสิทธิภาพของหน่วย

3) ประชาชนขาดความไว้วางใจรัฐบาล

4) เกิดความสูญเปล่าในทรัพยากรของประเทศ

5) ขาดการจูงใจในการลงทุนจากภาคเอกชนต่างประเทศ

6) ขาดเสถียรภาพทางการเมือง เนื่องจากปัญหาเงินสินบน

7) ความไม่ประสิทธิภาพของมาตรการควบคุมคอร์รัปชั่น และ

8) ข้อจำกัดจากการนำนโยบายไปใช้เนื่องจากการทุจริตของข้าราชการ     

ฉะนั้น ต้องกำจัดคอรัปชั่นให้สิ้นเพื่อแผ่นดินไทยอยู่รอด

  

   8 จงอธิบายความแตกต่างของแนวคิดระบบราชการในอุดมคติกับการปฏิรูประบบราชการ

   ตอบ  คือรัฐบาลทุกยุคสมัยได้พยายามที่จะปฏิรูประบบราชการแม้ว่าผลการดำเนินงานไม่ อาจสำเร็จได้อย่างเป็นรูปธรรมทั้งหมด เนื่องจากระบบราชการไทยฝังรากลึก อีกทั้งระบบใหญ่โตทำให้มีขั้นตอนล่าช้ายุ่งยากในการทำงาน นอกจากนี้ปัจจัยสำคัญสำหรับรัฐบาลเองที่แก้ไม่ตก นั่นคือ การขาดเสถียรภาพในการทำงานอย่างต่อเนื่องของรัฐบาล ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงผู้นำประเทศบ่อยครั้ง ความแตกต่างของแนวคิดระบบราชการ จึงเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องตลอดมา แม้ว่า ในขณะนี้ยังไม่ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายที่ต้องการ ด้วยปัจจัยหลายๆด้านส่วน การปฏิรูประบบราชการในความคิดเห็นน่าจะเป็นเรื่องของการ ที่จะจัดสรรให้มีการเปลี่ยนแปลงการทำงานจากระบบเก่าๆ บ้างในบางอย่างเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน แต่ไม่ใช่ว่าระบบราชการทุกวันนี้ไม่ดี มันก็มีทั้งดี และไม่ดี แต่ในบางครั้งที่ดีนั้นคนมักมองไม่เห็น เช่นการทำบัตรประชาชน เขาก็ทันสมัยแล้ว การบริการตามสถานี หรือ สถานที่ราชการ ก็มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี แต่ละจังหวัดทำแข่งกันด้วยซ้ำจึงอยากให้มีการพัฒนาไปยิ่งๆขึ้น ยิ่งเรามีการพัฒนาให้ทันเท่าเทียมเอกชนได้เท่าไหร่ มันจะเป็นที่มั่นคงและ สนองตอบความต้องการของประชาชนได้มากเท่านั้น มันสมควรแล้วหล่ะ ที่จะได้มีการปฏิรูป เปลี่ยนแปลงบ้าง เพราะถ้า จะได้มีสิ่งที่ดี มีการพัฒนาขึ้น ทันสมัยขึ้น เพราะเราต้องตามให้ทันโลก ตราบใดที่ยังคงให้การบริหารจัดการแบบเดิม เราก็ควรมาปรับปรุงดุซิ อันไหนดีก็คงไว้ อันไหนไม่ดีก็เปลี่ยนไป ก็จะเกิดประสิทธิภาพขึ้นในการทำงาน

 

  9. จงอธิบายแนวคิดเชิงการพัฒนาการเมือง (Political Development)

   ตอบ  คือ สังคมโลกและสังคมไทยมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปอย่างรวดเร็วและกว้างขวางและ หลาย ด้าน ทั้งเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง โดยแต่ละด้านได้ส่งผลกระทบถึงกัน เชื่อมโยงกันตลอดเวลา สำหรับด้านการเมืองนั้น ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญต่อสังคมมนุษย์เพราะมีผลกระทบต่อความ สัมพันธ์ทางสังคมระหว่างมนุษย์ที่อยู่ร่วมกันและนัยดังกล่าวส่งผลไปถึงการ จัดความสัมพันธ์ทางสังคมและเศรษฐกิจระหว่างคนในสังคมด้วย ดังนั้น การพัฒนาการเมืองจึง เป็นพื้นฐานที่สำคัญต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคมและการพัฒนาประเทศ
การพัฒนาทางการเมือง หมายถึง การกระทำขององค์กรทางการเมืองซึ่งการกระทำนั้นส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลง จากความคิดเก่าๆ ไปสู่ความคิดใหม่ๆ และความคิดใหม่ที่เกิดขึ้นนี้ต้องดีกว่าเก่า
องค์ประกอบที่สำคัญต่อการพัฒนาการเมือง
1. จิตใต้สำนึกของประชาชน
2. รัฐธรรมนูญ

การจะพัฒนาทางการเมืองจึงต้องเริ่มต้นด้วยการสร้างจิตใต้สำนึกในระบอบ ประชาธิปไตยโดยการให้การศึกษาและการพัฒนาความคิดนั้นทั้งทางตรงและทางอ้อม แก่ประชาชน แล้วจึงนำไปสู่การพัฒนาในมิติอื่นๆ เพื่อการพัฒนาการเมืองต่อไป พื้นฐานสำคัญที่จะทำให้การพัฒนาการเมืองไทยบรรลุเป้าหมายคือ การที่ประชาชนในชาติมีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักและมีจิตสำนึกเป็นประชาธิปไตย ยึดถือหลักประชาธิปไตยเป็นหลักในการดำเนินชีวิต หรือมีวิถีชีวิตตามวิถีประชาธิปไตย ซึ่งการไปสู่จุดหมายดังกล่าวนี้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นเรื่องจำเป็นที่ทุกฝ่ายจะต้องให้ความสนใจและหันมาร่วมกันดำเนินกระบวน การเรียนรู้ให้เกิดขึ้นในสังคมการให้การศึกษาทางการเมืองและประชาชน

 10 การเมืองไทยมีปัญหาทางจริยธรรมอย่างไร
   ตอบ คือ อยากให้คิดถึงเรื่องของกฎหมายเป็นหลักเพราะว่านักการเมืองต่างๆที่เข้า มาบริหารประเทศไม่ว่าเขาจะทำถูกหรือทำผิด ดีหรือไม่ดี เราก็ต้องมีกลไกในการตรวจสอบอยู่แล้ว แต่ถ้าจะให้พูดถึงเรื่องของจริยธรรมนั้นมันเป็นเรื่องของตัวบุคคลซึ่งและละ บุคคลก็มีจริยธรรมหรือความเป็นคนดีที่ไม่เท่ากัน ซึ่งเราไม่สามารถที่จะนำมาเป็นเกณฑ์ในการวัดได้ว่าเขาจะต้องดีตลอดไปในการทำ งาน มันเป็นเรื่องที่ตรวจสอบยาก บางคนดีมาแต่พอมาเจอพรรคพวกเข้าก็กลายเป็นเสียไปก็มี เพราะว่า มาจากต่างที่ต่างจิตต่างใจ คนเหนือก็มี ใต้ก็มี อีสานก็มี เมื่อมาทำงานร่วมกัน  แต่ในความเป็นผู้นำหรือผู้บริหารที่ดีนั้นก็ควรมีความเป็นคนดี อยู่ในตัวด้วย ในเมื่อมีจริยธรรมดีแล้ว ความเห็นแก่ตัว เอารัดเอาเปรียบ ทะเลาะเบาะแว้งต่างๆ มันจะเบาบางลงไปการทำงานก็จะราบรื่น ก่อให้เกิดความสามัคคีในการทำงานให้มีประสิทธิภาพขึ้นไป เพราะว่าสังคมที่คนในสังคมไม่มีคุณธรรมจริยธรรม ก็จะเป็นสังคมไร้ระเบียบ มีการเบียดเบียนละเมิดและขัดแย้งอย่างไม่มีสิ้นสุด

คำสำคัญ (Tags): #หล่อ
หมายเลขบันทึก: 385054เขียนเมื่อ 15 สิงหาคม 2010 15:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 21:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ขอบคุณที่ให้ความสำคัญ

ขอบคุณสำหรับเนื้อหา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท