ปรับโฉมบ้านให้ใหม่ ทั้งภายใน-ภายนอก


ปรับโฉมบ้านให้ใหม่ ทั้งภายใน-ภายนอก

 ปรับโฉมบ้านให้ใหม่ ทั้งภายใน-ภายนอก คอลัมน์ DECORATE แนะนำไอเดียสำหรับดูแลบ้านให้ใหม่อยู่เสมอ ด้วยการใช้เคล็ดลับง่ายๆ โดยจัดทำคู่มือการบำรุงรักษาและดูแลส่วนประกอบต่างๆ ของตัวบ้าน จากทีมงานของบริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) ที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยมากว่า 50 ปี ไปบ้างแล้ว ฉบับนี้ขอถ่ายทอดเทคนิคการดูแลภายในและภายนอกบ้านซึ่งทำได้ง่ายและไม่ยุ่งยากเหมือนเดิม - การดูแลภายนอกบ้าน นอกจากการตรวจสภาพบ้านอย่างสม่ำเสมอตามตารางการตรวจสอบในเบื้องต้นแล้ว สิ่งสำคัญอีกประการสำหรับการดูแลภายนอกบ้านคือ การป้องกันไม่ให้แสงแดดและน้ำฝนตกกระทบบ้านโดยตรง เพราะจะทำให้สีซีดจางเกิดคราบสกปรกและตะไคร่ได้ วิธีที่ดีที่สุดคือ การหาต้นไม้มาปลูกเพื่อให้ร่มเงาและช่วยบังแดด หรือการเพิ่มกัดสาดบังแดด-กันฝน, ใส่รางน้ำฝน, ยกขอบฝาท่อกันน้ำ, ตัดแต่งกิ่งไม้ใกล้อาคาร เพื่อป้องกันน้ำไหลกระทบหลังคาและผนังจนเกิดตะไคร่ไม่น่าดู เป็นต้น นอกจากนั้นการร่วมกันปรับแต่งพื้นที่รอบบ้านด้วยสวนสวยๆ โดยฝีมือของสมาชิกในครอบครัว ยังเป็นกิจกรรมยามว่างที่สนุกสนานและช่วยให้บ้านสวยงามน่าอยู่แล้ว ยังเป็นผลงานที่น่าภูมิใจและช่วยประหยัดเงินในครอบครัวได้อีกด้วย - การดูแลภายในบ้าน ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน ลองปรับเปลี่ยนหรือหามุมมองใหม่ๆ ของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นมุมนั่งเล่น หรือมุมพักผ่อน เพิ่มบรรยากาศในบ้านโดยการปรับโยกเฟอร์นิเจอร์ เปลี่ยนผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ หรือผ้าม่าน ให้ดูมีสีสันแปลกตา หรืออาจจะลองเพิ่มสีเขียวภายในบ้าน ด้วยต้นไม้ หรือการจัดแต่งมุมสวนเล็กๆ ไว้ในบ้าน เป็นต้น การทาสีใหม่ หรือการตกแต่งโดยการติดวอลเปเปอร์เป็นบางจุดที่ต้องการเน้นหรือปกปิดรอยชำระและสกปรกต่างๆ ก็ยังเป็นการเพิ่มสีสันและบรรยากาศของบ้านได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ทราบเคล็ดลับดีๆ ในการดูแลบ้านให้ดูใหม่อยู่ตลอดเวลากันแล้ว ก็สามารถนำไปเลือกปฏิบัติกันได้ตามความเหมาะสม แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ทุกๆ บ้านจะลืมเสียไม่ได้นอกจากการมีบ้านที่สวยงามน่าอยู่แล้ว ความรักและความอบอุ่นในครอบครัวที่ทุกคนจะต้องคอยเติมเต็มให้กันตลอดเวลาก็เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะช่วยให้บ้านหลังงามของคุณเต็มไปด้วยความสุขและน่าอยู่ สำหรับวิธีตรวจสอบส่วนประกอบต่างๆ นอกจากที่เคยแนะนำไว้ 12 ข้อ ยังมีเพิ่มเติมอีกดังนี้ 1.บานประตู ควรซ่อมแซมดูแลทุก 5 ปี หน้าต่าง หากมีกระจกควรเปลี่ยนหรือซ่อมวัสดุ ยาแนวกันรั่วทุกๆ 5 ปี 2.พื้นไม้ปาร์เกต์ ซ่อมรอยขูดขีดทุก 10 ปี 3.หินล้าง ทรายล้าง กรวดล้าง ผนังก่ออิฐโชว์ แนวบุกระเบื้องดินเผา หมั่นทำความสะอาด และทาน้ำยากันตะไคร่ 4.หินขัด ควรขัดทำความสะอาด ซ่อมผิวที่แตกร้าวทุก 3 ปี 5.รั้ว ซ่อมงานสี งานเหล็ก งานไม้ งานปูนทุก 5 ปี หากพบรอยร้าวหรือสนิมเหล็กควรซ่อมทันที 6.ดินถมรอบๆ บ้าน โดยธรรมชาติจะทรุดตัวทุกปี ควรตรวจสอบและป้องกันไม่ให้ดินไหลทับลงใต้อาคาร รั้ว หรือกำแพง 6.บล็อกตัวหนอน ทาน้ำยาประสานรอยต่อ เพื่อป้องกันไม่ให้เม็ดทรายที่อุดร่องบล็อกตัวหนอนหลุด กันน้ำรั่วซึม 7.บานหน้าต่างอะลูมิเนียม ควรเปลี่ยนยางกันซึม และสักหลาดกันฝุ่นทุก 5 ปี และซ่อมซิลิโคนกันรั่วทุก 2 ปี 8.ชักโครก ปรับลูกลอยทุก 6 เดือน และเปลี่ยนลูกลอยทุก 5 ปี ทำความสะอาดลูกยางทุกๆ 2 ปี 9.วงกบยูพีวีซี หน้าต่างยูพีวีซี ควรตรวจตรายางกันซึม, ซิลิโคนยาแนว และอุปกรณ์การล็อกทุก 10 ปี ที่มา นิตยสาร dgmagazine ฉบับที่ 38 เดือนพฤศจิกายน 2005 วันที่ 16 ส.ค.2549

หมายเลขบันทึก: 383684เขียนเมื่อ 10 สิงหาคม 2010 19:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 พฤษภาคม 2012 16:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท