เรียนรู้ใช้...แสงธรรมชาติ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในบ้าน


เรียนรู้ใช้...แสงธรรมชาติ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในบ้าน

 หลังจากคอลัมน์ "เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย" เคยนำเสนอเคล็ดลับเกี่ยวกับการลดความร้อนในตัวบ้านด้วยการใช้กันสาดเข้ามาช่วย ฉบับนี้เพื่อให้เข้ากับกระแสประหยัดพลังงาน ขอหยิบเอาเรื่อง ราวเกี่ยวกับการใช้ "แสงจากธรรมชาติ" จาก พ็อกเกตบุ๊ก "อยู่ เย็น เป็น สุข" ของบริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) หรือ "บีพีบี" มานำเสนอเป็นเกร็ดความรู้ให้กับผู้อ่านทุกท่าน - การใช้แสงธรรมชาติ แสงสว่างจากธรรมชาติช่วยประหยัดเงินค่าไฟ เพียงแค่เปิดช่องรับแสงให้เพียงพอและเหมาะสมกับการใช้งาน แต่การเปิดรับแสงแดดตรงๆ อาจทำให้บ้านร้อน ควรระมัดระวังสักหน่อย ถ้าจะให้ดีควรเปิดช่องรับแสงจากทางทิศเหนือหรือเป็นแสงที่ผ่านการป้องกันความร้อนแล้ว ซึ่งจะมีความร้อนน้อยกว่าแสงประดิษฐ์ ช่วยลดภาระการทำความเย็นของพัดลมและเครื่องปรับอากาศได้อีกด้วย ทั้งนี้ แสงธรรมชาติจะไม่คงที่ตลอดวัน ทั้งความสว่างและความร้อน การใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติในส่วนของตัวอาคารบ้านเรือนทำได้โดยกำหนด*** ส่วนของหน้าต่างและช่องแสงให้พอเหมาะต่อการมองเห็น โดยไม่ก่อให้เกิดความร้อนในอาคาร - ข้อแนะนำการใช้ประโยชน์จากแสงธรรม ชาติ 1.จัดและประมาณช่วงเวลาของกิจกรรมต่างๆ ให้อยู่ในระยะเวลาที่ได้ใช้แสงธรรมชาติมากที่สุด 2.ทำความสะอาดหน้าต่างและช่องแสงบนหลังคาเพื่อให้แสงสว่างเข้าได้เต็มที่ 3.ตั้งโต๊ะทำงานที่ต้องใช้สายตามากหรือต้องการแสงสว่างมากที่สุดไว้ใกล้กับหน้าต่าง โดยอาจจัดโต๊ะให้ขนานไปกับหน้าต่าง 4.ดับไฟฟ้าในบริเวณที่ได้รับแสงสว่างธรรมชาติ 5.ถ้าสีเดิมภายในห้องเป็นสีเข้ม ให้ทาสีใหม่เป็นสีอ่อนเพื่อเพิ่มความสว่างภายในห้อง 6.ปรับปรุงอาคารใหม่ เช่น บ้านที่มีมุมมืดตามห้องบันไดหรือส่วนอื่นๆ ก็ให้เพิ่มช่องแสงบนหลังคาเพื่อให้ได้ใช้แสงธรรมชาติ ช่องแสงที่มีอยู่เดิมถ้ามีความร้อนเข้ามามากเพราะถูกแสงแดดโดยตรง ก็หาวิธีแก้ไขเมื่อแสงจ้า เช่น ทำแผงกันแดด ติดฟิล์มกันความร้อน ติดบานเกล็ดปรับมุมได้ เป็นต้น - การใช้แสงธรรมชาติร่วมกับแสงประ ดิษฐ์ 1.เพื่อลดการใช้แสงไฟฟ้า พยายามใช้แสงธรรมชาติให้มากที่สุด ให้กระจายอย่างทั่วถึง หลีกเลี่ยงรังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์ โดยใช้แสงไฟฟ้าเสริมในพื้นที่บางจุดที่มีแสงธรรมชาติไม่เพียงพอ ทางเดิน โถงบันได และโถงลิฟต์ ควรมีแสงธรรมชาติส่องถึง ซึ่งอาจไม่ต้องใช้แสงไฟฟ้าตลอดทั้งวัน 2.ทาสีผนังและเพดานห้องด้วยสีอ่อน ช่วยสะท้อนแสงเพื่อลดจำนวนโคมไฟ 3.ในการใช้แสงธรรมชาติร่วมกับแสงประดิษฐ์อย่างมีประสิทธิภาพ ทำได้โดยการปรับแสงภายในซึ่งขึ้นอยู่กับแสงภายนอกที่เปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา บางครั้งความสว่างจากภายนอกไม่เพียงพอ ต้องใช้ไฟฟ้าช่วย เราสามารถประหยัดไฟได้โดยการติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมอัตโนมัติ เช่น การหรี่แสงอัตโนมัติซึ่งอาจใช้ระบบปรับหรี่อย่างต่อเนื่อง หรือระบบปรับหรี่เป็นขั้น เพื่อให้ได้ระดับแสงอย่างสม่ำเสมอ 4.การให้แสงสว่างเฉพาะที่ โดยใช้แสงสว่างร่วมกับแสงประดิษฐ์ที่ควบคุมโดยระบบปรับหรี่แสงและการเสริมแสงสว่างเฉพาะที่ด้วยโคมไฟ ที่มา นิตยสารบ้านและสวน since : 15/6/2005 วันที่ 15 ส.ค.2552

หมายเลขบันทึก: 383678เขียนเมื่อ 10 สิงหาคม 2010 19:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 15:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท