แอร์พอร์ตลิงค์ : เส้นทางสายด่วนของคนเมือง


แอร์พอร์ตลิงค์ รถไฟฟ้า นำพาสู่สุวรรณภูมิ

แอร์พอร์ตลิงค์ เป็นช่องทางเลือกหนึ่งของคนเมืองในการเดินทางออกไปนอกเมืองและไปที่สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นเส้นทางสายด่วนของคนเมืองเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาความแออัดของการจราจรในเมือง เป็นเส้นทางการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไร้มลพิษต่อสภาพอากาศ เนื่องจากเป็นพาหนะการเดินทางที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เดิมทีคนเมืองหลวงของประเทศไทย มีช่องทางเลือกในการเดินทางที่สะดวกสบายและไร้มลพิษอยู่แล้ว 2 ทางเลือก คือ รถไฟฟ้า BTS (รถไฟลอยฟ้า) และรถไฟฟ้า MRT (รถไฟใต้ดิน) ซึ่งก็เป็นทางเลือกในการเดินทางที่สะดวก สะอาด และปลอดภัย

ปกติผู้เขียนก็ใช้บริการรถไฟธรรมดาที่มีหัวรถจักรมีควันดำพวยพลุ่งโขมง อันอุดมสมบูรณ์ไปด้วยมลพิษ เป็นประจำวันอยู่แล้ว เนื่องจากต้องเดินทางไปมาระหว่างที่พักกับที่ทำงาน (หัวตะเข้ - พญาไท) โดยใช้บริการรถไฟสายตะวันออกระหว่าง ที่หยุดรถไฟพญาไท กับ สถานีหัวตะเข้ เดินทางไปมาเป็นปกติประจำวัน ซึ่งต้องใช้ความอดทนแต่ประหยัดค่าใช้จ่าย อดทนกับการให้บริการที่ไม่เอาถ่านของพนักงานรถไฟ ปล่อยให้ที่นั่งสกปรก มีทั้งขนหมา ขนแมว ทั้งฝุ่นดำ จะนั่งแต่ละครั้งก็ต้องเตรียมกระดาษทิชชูไว้เช็ดถูก่อนนั่งประจำ ผู้โดยสารก็แออัดยัดเยียด อีกทั้งเวล่ำเวลาก็เอาแน่ไม่ได้ แต่ประหยัดเงินเพราะค่าเดินทางราคาถูก และช่วงนี้รัฐบาลให้นั่งรถไฟฟรีอีกก็ประหยัดค่าเดินทางไปหลายบาท ครับจ้าวนายเอ้ย

เมื่อแอร์พอร์ตลิงค์ที่เริ่มดำเนินโครงการมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลทักษิณ แล้วมาเปิดใช้ในรัฐบาลอภิสิทธิ์ ได้เปิดทดลองให้บริการแก่ผู้โดยสารมาตั้งแต่วันอังคารที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 7 ปีขาล เป็นต้นมานั้น ซึ่งข้าพเจ้าลุ้นว่าจะได้ใช้บริการมาตั้งแต่ปี 2552 โน่นแล้ว แต่ก็กินแห้วมาตลอด วันแรกที่เปิดทดลองให้บริการข้าพเจ้าก็ไม่ปล่อยโอกาสให้ลอยนวลหรอก เกือบจะเป็นคนแรกด้วยซ้ำไปที่ไปรับตั๋วโดยสารฟรี ขอบอก อิอิ....เพราะไม่อยากขึ้นรถไฟฉึกฉักๆ ที่มีควันโขมง เมื่อไปใช้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ได้สักระยะหนึ่งก็เริ่มติดใจแหะ ตังค์ก็ไม่ต้องจ่ายแถมเร็วทันใจพระเดชพระคุณอีกต่างหาก หลงรักแอร์พอร์ตลิงค์เข้าแล้วสิเนี่ยะ..!..

ในต้นเดือนมิถุนายนนั้นเอง ข้าพเจ้ารีบแจ้งเจ้าของหอพักเดิมทันทีว่าจะขอย้ายออกในเดือนหน้า..โอ้..แม่เจ้าโว้ย..รักสายฟ้าแลบ..เจอปุ๊บรักปั๊บ..อะไรจะปานนั้น..นี่กระมังที่เขาเรียกฟ้าหรือสวรรค์ลิขิต..อิอิ..ข้าพเจ้าเริ่มคิดหาที่พักใหม่ให้ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ทันที ทันทีทันใดนั้น ราวๆ กลางเดือนมิถุนายนได้ไปวางมัดจำจองห้องพักไว้ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟฟ้าลาดกระบัง ซึ่งเป็นสถานีที่ 2 นับจากสถานีรถไฟฟ้าสุวรรณภูมิ ตั้งใจว่าจะย้ายเข้าไปอยู่ที่พักใหม่ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2553 เมื่อจับยามสามตาดูแล้วถ้าย้ายวันที่ 1 กรกฎาคม ฤกษ์ไม่เหมาะแหะ ไม่ใช่วันหยุด ไหนๆ ก็จะย้ายแล้วจับยามสามตาดูเอาโชคเอาชัยหน่อยได้ความว่า วันที่ 26 มิถุนายน กับ วันที่ 30 มิถุนายน ดาวฤกษ์บอกว่า "มหาสิทธิโชค" อืมม์นะ ของดีท่านโบราณาจารย์บอกไว้ เอาซะหน่อยน่า...ข้าพเจ้าตัดสินใจหิ้วกระเป๋าย้ายเข้าไปพักที่ใหม่ในวันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน 2553 ซึ่งตรงกับวันพระใหญ่ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ปีขาล พอดี เป็นวันหยุดซะด้วยสิ เหมาะจริงๆ ครับท่าน ในวันนั้นได้เตรียมพวงมาลัยและสิ่งของสำหรับไหว้ศาลตายายและศาลพระภูมิเจ้าที่หน้าหอพัก ครบถ้วน เรียบร้อย ไม่ให้ขาดไม่ให้เกินตามธรรมเนียมปฏิบัติที่คนดีเขานิยมทำกัน ขอเป็นคนดีบ้างเถอะ มีไรป่าว...อิอิ

การเดินทางด้วย "แอร์พอร์ตลิงค์" ก็สะดวกสบายครับ แต่มีข้อสงสัยนิดหน่อยว่า ทำไมเวลาประตูรถไฟปิดจะมีเสียงดังมากๆ เสียงดัง ตั๊บ ตึ้มมม...แรกๆ ก็สะดุ้งเลย ต่อมาก็ชิน  เคยสะกิดถามเจ้าหน้าที่ที่ยืนตะเบะเวลารถไฟวิ่งไปมาอยู่บนชานชาลาก็ได้รับคำตอบว่า "ครับ เสียงดังครับพี่..." แล้วก็ยิ้มหวานให้ ข้าพเจ้าเลยคิดเอาเองว่า "เขาก็คงไม่รู้เหมือนเรานะแหร่ะ" จนกระทั่งเพลานี้เสียงนั้นก็ยังดังอยู่ไม่เสื่อมคลาย ตั้งแต่ทดลองใช้บริการมาจนถึงบัดนี้ข้าพเจ้าเคยประสบปัญหา คือ มีวันหนึ่งเกิดความล่าช้าที่สถานีบ้านทับช้าง อยู่ๆ รถไฟที่หยุดรับผู้โดยสารไม่ออกจากสถานีและมีเสียงประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่า "ขออภัยในความไม่สะดวก กรุณารอสักครู่" พูดอยู่น่าจะเป็นสิบครั้ง สุดท้ายมีเจ้าหน้าที่มาแจ้งว่าให้ผู้โดยสารออกจากตู้รถไฟข้ามไปขึ้นอีกฝั่งเพื่อเดินทางต่อไป ผู้โดยสารที่เป็นชาวต่างชาติก็เดินส่ายหัวไปด้วย ลากกระเป๋าไปด้วย พี่ไทยเราก็มองตากันปริบๆ บ้างก็บ่นว่าการรถไฟนี่ทำข้างล่างห่วยแตกแล้วยังมาทำข้างบนห่วยแตกอีกหรือนี่ ว่าไปนั่น...เอาเถอะน่า ขอเป็นกำลังใจให้รีบๆ ปรับปรุงหน่อยก็ดี รู้สึกจะมีเสียงบ่นหนาขึ้นเรื่อยๆ น่าจะเป็นพันหรือหมื่นเสียงบ่นแล้วกระมังครับ คงไม่ใช่เสียงนกเสียงกาธรรมดาหรอก จ้าวนายเอ้ย

คนไทยทุกคนพร้อมให้กำลังใจคนทำงานเพื่อประชาชน ครับ

อนึ่ง ขอแจ้งข่าวดี วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม 2553 รถไฟฟ้าสายนี้จะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบ แต่เก็บค่าบริการในราคาเกรงใจผู้โดยสารคือ รถไฟแถบสีแดง จะเก็บค่าบริการพิเศษราคา 100 บาท จากราคาปกติ 150 บาท ตลอดสาย จะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00 - 01.00 น. และรถไฟแถบสีน้ำเงิน จะเก็บค่าบริการพิเศษราคา 15 บาท ตลอดสาย จากราคาปกติสถานีละ 15 บาท และไม่เกิน 45 บาท ตลอดสาย จะเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง การให้บริการในราคาพิเศษดังกล่าวจะมีไปจนถึงสิ้นปี 2553 ครับ

ขอให้คนไทย ทั้งคนเมืองและคนนอกเมือง ทุกท่านมีความสุขกับการใช้บริการแอร์พอร์ตลิงค์นะครับ

ทีโกสรัมย์

6 ส.ค.53

หมายเลขบันทึก: 382271เขียนเมื่อ 6 สิงหาคม 2010 14:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 พฤษภาคม 2012 15:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท