การใช้ ICT ในการเรียนและบูรณาการ
คอมพิวเตอร์ถือเป็นสื่อนวัตกรรมใหม่อย่างหนึ่งที่มีอายุยังไม่ถึง 40 ปี ความจริงแล้วคอมพิวเตอร์เพิ่งถือกำ เนิดขึ้นมาได้ไม่นานนี้เอง แต่ว่ามีการพัฒนาเติบโตอย่างรวดเร็วมาก จนเป็นแรงฉุดสำ คัญที่ดึงกระแสโลกเข้าสู่ยุคข้อมูลข่าวสาร ทุกวินาทีมีข้อมูลที่มีทั้งประโยชน์และโทษล่องลอย วิ่งไปมาอยู่เต็มท้องฟ้าเราสามารถทราบข่าวสารข้อมูลของอีกซีกโลกหนึ่งได้ภายในเวลาไม่กี่นาที ด้วยความสามารถทางเทคโนโลยีที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อ หลายคนเป็นมหาเศรษฐีด้วยการมีคอมพิวเตอร์เก่า ๆ ใช้เพียงเครื่องเดียวที่บ้าน ในอนาคตท่านสามารถจ่ายค่านํ้า ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าหมอจ่ายค่าเทอมลูก หรือแม้แต่ส่งการบ้านของลูกได้อย่างง่ายมาก เพียงท่านมีเครื่องคอมพิวเตอร์กับการ์ดบัญชีเงินฝากธนาคารเท่านั้นสิ่งที่ได้กล่าวมาข้างต้นมิได้พูดอย่างเกินจริงหลายประเทศที่พัฒนาแล้วมีสิ่งเหล่านี้เป็นปกติวิสัยในชีวิตประจำ วัน หลังจากที่หนุ่มสาวจดทะเบียนสมรสได้หนึ่งเดือน จะมีตัวอย่างของ“แพมเพิส” สำ หรับทารกมาให้ครอบครัวนี้ทดลองใช้ คนวัยทำ งานอายุ 30 ปี จะได้รับแผ่นโฆษณาขายบ้านและรถยนต์ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงข่าวสารข้อมูลทั่วไปและที่เกี่ยวข้องกับตัวเรามีการถ่ายโอน มีการนำ ไปใช้ประโยชน์มากมายหลายด้าน ในขณะเดียวกันเราก็ได้รับข้อมูลของคนอื่นด้วยเช่นกัน เทคโนโลยีมีบทบาทมากต่อเรื่องเหล่านี้ ในประเทศไทยของเราก็คงหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ไม่พ้น เพราะเราเป็นประเทศเสรี แม้จะมีหนี้สินมากสักหน่อยก็ตาม การเตรียมตน เตรียมทรัพยากรบุคคลของเราให้พร้อมสำ หรับอนาคตจึงมีความจำ เป็นเร่งด่วน การศึกษานับเป็นเครื่องมือสำ คัญในการพัฒนาคนให้เกิดความรู้เท่าทันเทคโนโลยีหลายปีมานี้โรงเรียนส่วนใหญ่ในเมืองไทย เริ่มนำ คอมพิวเตอร์มาใช้ในโรงเรียนกันมากขึ้น โดยเริ่มใช้เพื่อการบริหารและการจัดการก่อน เรียกว่า Computer Assisted Management
เช่น โปรแกรมบริหารระบบเงินเดือน งานธุรการ ห้องสมุด งานปกครองและอื่น ๆ ต่อมาจึงเริ่ม
นำ มาใช้เพื่อการเรียนการสอน เรียกว่า คอมพิวเตอร์ช่วยสอน มาจากคำ ในภาษาอังกฤษว่า
Computer Assisted Instruction หมายถึง การใช้คอมพิวเตอร์ในการเสนอสิ่งเร้าให้กับผู้เรียน มี
การประเมินการตอบสนองจากผู้เรียน ให้การเสริมแรงตามสมควรและเสนอสิ่งเร้าในลำ ดับต่อไป
เมื่อผู้เรียนตอบสนองสิ่งเร้าได้ตรงตามจุดประสงค์ที่ตั้งไว้ สมัยก่อนรัฐบาลมีนโยบายให้โรงเรียน
ต่าง ๆ สนับสนุนการเรียนการสอนทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้มากขึ้น แต่ติดขัดด้าน
งบประมาณเป็นสำคัญ ปัจจุบันคอมพิวเตอร์มีราคาถูกลงมาก หลายสถานศึกษาใช้คอมพิวเตอร์
การใช้ ICT เพื่อการเรียนรู้
การเรียนรู้ในปัจจุบันแตกต่างจากเดิมไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งหมายความว่า ผู้เรียนมีโอกาส มีอิสระในการเรียนรู้ด้วยตนเอง สร้างองค์ความรู้ สร้างทักษะด้วยตนเอง ครูเปลี่ยนบทบาทจากผู้สอนมาเป็น ผู้ให้คำแนะนำ นอกจากนี้ทั้งครูและศิษย์สามารถเรียนรู้ไปพร้อมกันได้ การจัดการเรียนที่โรงเรียนดำเนินการได้ในขณะนี้
1. การสอนโดยใช้สื่อ CAI ช่วยสอนให้เกิดการเรียนรู้ตามความสนใจ เช่น วิชาคณิตศาสตร์ วิชาภาษาไทย วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคม หรือวิชาภาษาอังกฤษ
2. ส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักสืบค้นวิทยาการใหม่ ๆ จากอินเทอร์เน็ต จาก E-book จาก E-Library
3. ส่งเสริมการเรียนรู้และสร้างเจตคติที่ดีในการเรียนและการค้นคว้าหาความรู้ โดยกำหนดให้ผู้เรียนได้เล่นเกมการศึกษา (Education Games ) ที่ผ่านการวิเคราะห์ของครูผู้รับผิดชอบว่าไม่เป็นพิษภัยต่อผู้เล่น และเป็นการสร้างเสริมความคิดสร้างสรรค์ที่ดีให้กับเด็ก
4. ใช้แผนการสอนแบบ ICT บูรณาการเรียนรู้ในสาระวิชาต่างๆ เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และ คอมพิวเตอร์
5. จัดระบบข้อมูลสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการเรียนรู้
6. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการจัดระบบและเผยแพร่ความรู้
7. จัดระบบข้อมูลสารสนเทศแหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียน และภูมิปัญญาชุมชนท้องถิ่น
8. พัฒนาเครือข่ายการเรียนรู้ในการจัดการเรียนรู้ของผู้สอน
บทสรุป
การนำเอาเทคโนโลยี เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการเรียนการสอน เป็นการเพิ่มพูน ประสิทธิภาพทางการเรียนรู้แก่ผู้เรียน และในสภาพปัจจุบันการเรียนการสอนก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ได้ ครูจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการสอนของตนเอง ต้องยอมรับความเปลี่ยนแปลงที่ เกิดขึ้น จึงต้องเรียนรู้เทคโนโลยีต่าง ๆ แล้ววิเคราะห์ความเป็นไปได้ ใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ให้เหมาะสมกับสภาพของโรงเรียน ที่มีความพร้อมในระดับหนึ่ง ครูควรต้องพัฒนาตนเองเพื่อพัฒนาผู้เรียนได้อย่างเหมาะสม และยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง เพื่อนำพาผู้เรียนให้สามารถเรียนรู้ ดำรงตนอยู่ได้อย่างมีความสุข
ไม่มีความเห็น