การประเคน คือ การถวายสิ่งของแด่พระสงฆ์ด้วยการยกถวาย การประเคนที่ถูกต้องจะต้องประกอบด้วยลักษณะ ๕ ประการ คือ
๑) ของที่จะถวายนั้นต้องไม่หนักหรือใหญ่เกินไป คนเดียวสามารถยกได้
๒) ผู้ถวายต้องอยู่ในหัตถบาส (อยู่ในระยะวงแขน) คือ พอที่จะยกถวายได้ ไม่ใกล้หรือไกลเกินไป
๓) เวลาถวายต้องยกให้พ้นพื้น ไม่เสือกไสไปกับพื้น
๔) ต้องถวายด้วยความเคารพ มีจิตใจนอบน้อม
๕) เมื่อพระภิกษุรับแล้วจึงปล่อยมือแล้วยกมือไหว้ ๑ ครั้ง
ผู้ชายให้ถวายกับมือพระได้เลยและควรนั่งคุกเข่าให้เรียบร้อยก่อนยกของประเคน ผู้หญิงเวลาถวายให้วางของลงบนผ้ารับประเคนของพระที่ปูรับอยู่ด้านหน้าและควรนั่งพับเพียบให้เรียบร้อย
การแสดงความเคารพพระสงฆ์
พระสงฆ์ในฐานะสาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามธรรมวินัย จึงเป็นผู้ที่ชาวพุทธต้องแสดงความเคารพ ซึ่งมีวิธีการที่แตกต่างกันตามโอกาส ดังนี้
๑. การลุกขึ้นยืนรับพระสงฆ์
การลุกขึ้นยืนรับนั้น ถ้านั่งเก้าอี้อยู่ หากพระสงฆ์เดินมานิยมลุกขึ้นยืนรับ เมื่อท่านเดินผ่านมาตรงหน้า นิยมน้อมตัวลงยกมือไหว้เมื่อท่านนั่งเรียบร้อยแล้วจึงนั่งลงตามเดิม แต่ถ้านั่งอยู่กับพื้นแล้ว ไม่นิยมลุกขึ้นยืนรับเมื่อท่านเดินผ่านมาเฉพาะหน้านิยมยกมือไหว้หรือกราบตามความเหมาะสมแก่สถานที่นั้น
๒. การให้ที่นั่งแก่พระสงฆ์
นิยมจัดอาสนะสงฆ์หรือเก้าอี้ไว้ต่างหากจากฆราวาส หรืออุบาสก-อุบาสิกา ถ้า สถานที่ชุมชนนั้นจัดให้นั่งเก้าอี้ที่ไม่ได้จัดเตรียมไว้เฉพาะพระสงฆ์ หากท่านมาต้องลุกหลีกไป ให้โอกาสแก่พระสงฆ์นั่งเก้าอี้แถวหน้า หากชายจำเป็นต้องนั่งแถวเดียวกับพระสงฆ์ นิยมนั่งด้านซ้ายของพระสงฆ์ สตรีเพศ (อุบาสิกา) ไม่นิยมนั่งแถวเดียวกันหรืออาสนะยาวเดียวกัน เว้นแต่กรณีจำเป็น ต้องมีบุรุษคั่นอยู่
๓.การตามส่งพระสงฆ์
ถ้านั่งเก้าอี้ นิยมลุกขึ้นยืนส่งท่าน เมื่อท่านเดินผ่านมาถึงเฉพาะหน้า นิยมน้อมตัวลงยกมือไหว้
ถ้านั่งกับพื้น นิยมไม่ต้องยืนส่ง เมื่อท่านเดินผ่านมาถึงเฉพาะหน้านิยมกราบหรือยกมือไหว้ตามควรแก่กรณี
เจ้าภาพหรือประธานพิธี ต้องตามไปส่งท่านจนพ้นบริเวณงานหรือจนกว่าท่านจะขึ้นรถพ้นออกไปจากบริเวณงาน แล้ว ก่อนที่ท่านจะจากไปนิยมน้อมตัวลงไหว้
๔.เมื่อพระสงฆ์เดินตามหลังมา
๑. หลีกทางชิดข้างทางด้านซ้ายมือของพระสงฆ์
๒. ยืนตรง มือทั้งสองต้องประสานกันไว้ข้างหน้า หันหน้ามามองท่าน
๓. เมื่อพระสงฆ์เดินมาถึงเฉพาะหน้า นิยมน้อมตัวลงยกมือไหว้
๔. ถ้าท่านพูดด้วยนิยมประนมมือพูดกับท่าน ถ้าไม่พูดด้วยก็อยู่ในท่าปกติ
๕.วิธีเดินตามหลังพระสงฆ์
๑. เดินตามไปเบื้องหลัง โดยให้เยื้องไปทางซ้ายของท่านระยะห่างจากท่าน ๒-๓ ก้าว
๒.กิริยาเดินตามหลัง ต้องสำรวมเรียบร้อย
๓.นิยมไม่แสดงความเคารพผู้อื่นขณะเดินตามหลังท่าน
๔.นิยมไม่พูดคุยทักทายปราศัยกับผู้อื่น
ประโยชน์ของมารยาท
ประโยชน์ของมารยาท มีดังนี้
๑. ป้องกันการกระทบกระทั่งเพราะผู้มีมารยาทจะไม่สร้างความขัดเคืองใจผู้อื่น
๒. ปิดบังความไม่งามของร่างกาย เพราะมีมารยาทดีเป็นจุดเด่น
๓. เป็นที่เจริญตาเจริญใจแก่บุคคลรอบข้าง
๔. ฝึกการเป็นคนรู้จักประมาณและความพอดี
๕. ฝึกการสังเกต ทำให้เป็นคนละเอียดรอบคอบ
๖. ฝึกให้เป็นผู้มีศิลปะและมีความประณีตในการดำเนินชีวิตและอยู่ร่วมกับผู้อื่น
๗. ฝึกความมีน้ำใจ รู้จักจับแง่คิดมุมมองที่ดี
๘. ฝึกให้มีสติสัมปชัญญะในอิริยาบถต่างๆ
เกื้อหนุนต่อการปฏิบัติธรรมให้ก้าวหน้ายิ่ง ๆขึ้นไป เพราะมีจิตใจที่ดีงาม
สวัสดีครับ กำลังค้นอยู่ทีเดียว มาพบโดยบังเอิญ เพราะข้อมูลที่นำลงบันทึกชาวพุทธต้องรู้ทั้งนั้น ขอบคุณในภูมิรู้ของคุณและนำมาแบ่งปันครับ