สำนักข่าว "ผู้ จัดการออนไลน์" ตีพิมพ์เรื่อง "อ.นิ ด้าชี้ สเปรด ดอกเบี้ยกู้-ฝาก ต้องพบกันครึ่งทางที่ 3%" เขียนโดยท่านอาจารย์ รศ.ดร.มนตรี โสคติยานุรักษ์ จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)
----//----
สเปรด (spread) = ช่องว่างระหว่างดอกเบี้ยเงินกู้กับเงินฝาก ซึ่งของไทยอยู่ที่ 4-5% ขึ้นไป (สูงมากในหลายๆ กรณี เช่น ดอกเบี้ยบัตรเครดิตเทียบกับเงินฝาก ฯลฯ)
สเปรดในต่างประเทศ (น่าจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว) อยู่ที่ 2-2.5% ซึ่งส่งผลดีต่อผู้กู้ คือ ดอกเบี้ยเงินกู้ไม่สูงมากเกินไป ทำให้คน "กล้า" กู้ไปลงทุนมากขึ้น เศรษฐกิจก้าวไปไกลขึ้น
...
สเปรดที่น้อย ดีต่อผู้ฝาก คือ ดอกเบี้ยไม่ต่ำเกิน โดยเฉพาะไม่ต่ำเกินเงินเฟ้อ ทำให้คนออมทรัพย์มากขึ้น ประเทศชาติมีเงินทุนสำรองมากขึ้น
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากมีผลต่อคุณภาพของคนหลังเกษียณมาก เนื่องจากพอหยุดทำงานก็ต้องอาศัยรายได้จากดอกเบี้ยเงินฝาก หรือไม่ก็ต้องลงทุน เช่น หางานใหม่ ฯลฯ เพื่อให้มีเงินพอใช้ และไม่เป็นภาระกับคนอื่น
...
อ.มนตรีแนะนำ ว่า สเปรดที่เหมาะสมกับการพัฒนาประเทศชาติในระยะยาวน่าจะอยู่ที่ 3% ซึ่งตรงนี้... ผู้เขียนขอสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง
ความทุกข์ของคนไทยอย่างหนึ่ง คือ ความทุกข์จากการเป็นหนี้ โดยเฉพาะหนี้นอกระบบ, และแม้หนี้ในระบบ (ผ่านสถาบันการเงิน) ก็ยังทำให้ประชาชนทุกข์ยากมาก เนื่องจากดอกเบี้ยเงินกู้สูงมาก
...
ถ้าดอกเบี้ย เงินกู้ลดลง... ลูกหนี้น่าจะป่วยด้วยโรคเครียด-เศร้า-เหงา-เซง นอนไม่หลับ ความดันเลือดสูง หลอดเลือดสมองแตกน้อยลง
ถ้าดอกเบี้ยเงินฝากมากขึ้น... คนไทยน่าจะออมทรัพย์มากขึ้น คุณภาพชีวิตหลังเกษียณจะดีขึ้นอย่างมากมาย ทำให้คนสูงอายุป่วยด้วยโรคต่างๆ เช่น โรคเครียด-เศร้า-เหงา-เซง-ขี้บ่น-จู้จี้ ฯลฯ ลดลง
...
มูลนิธิที่ อาศัยดอกเบี้ยจากเงินฝากจะมีเงินไปช่วยเหลือสังคมมากขึ้น
ขอแสดงความชื่นชมอาจารย์นักวิชาการที่กล้าออกมาตีแผ่เรื่องนี้ และน่าประหลาดใจที่นักวิชาการท่านอื่นๆ นิ่งดูดาย ปล่อยให้ "สเปรด" ทำร้ายคนไทยมาโดยตลอด
...
ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ > [ ผู้จัดการออนไลน์ ]
...
ที่ มา
-
ขอขอบพระคุณ > ผู้ จัดการออนไลน์;
-
นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ รพ.ห้างฉัตร ลำปาง. 23 กรกฎาคม 2553.
-
ข้อมูลทั้งหมดเป็นไปเพื่อ การส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูงจำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแล ท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้.