(ประธานาธิบดีริชาร์ด เอ็ม. นิกสัน)
สหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของประธานาธิบดีริชาร์ด เอ็ม. นิกสัน (ประธานาธิบดีลำดับที่ ๓๗)ในช่วงปี ค.ศ. ๑๙๖๙ – ๑๙๗๔ เป็นช่วงที่โลกต้องประสบปัญหาความตรึงเครียดทางการเมืองระหว่างโลกเสรีนิยมโดยมีอเมริกาเป็นผู้นำและโลกคอมมิวนิสต์ที่รัสเซียเป็นผู้นำ เพราะทั้งสองชาติมหาอำนาจต่างก็มีอาวุธร้ายแรงอยู่ในมือ หากสู้รบกัน (Hot War) จะเกิดผลสูญเสียอย่างสูงสุดอย่างที่โลกไม่เคยประสบมาก่อน ประธานาธิบดีริชาร์ด เอ็ม. นิกสัน จึงมีแผนกับการลดความตึงเครียดทางการเมืองกับรัสเซีย โดยการเดินทางไปเยือนรัสเซีย อธิบายได้ดังนี้
สภาพโดยทั่วไป
๑. ทศวรรษที่ ๑๙๕๐ – ๑๙๘๐ ผู้นำรัสเซียคือ นิคิต้า ครุสชอฟ และ ลีโอนิค ไอ. เบรสเนฟ มุ่งดำเนินนโยบาย Cool War เพราะเกรงกลัวความสูยเสียอันเกิดจากอาวุธร้ายแรง
(นิคิต้า ครุสชอฟ)
(ลีโอนิค ไอ. เบรสเนฟ)
๒. อเมริกาและรัสเซีย ต่างก็ปิดบังอาวุธร้ายแรงที่มีในมือ ทำให้หวั่นเกรงซึ่งกันและกัน
เป้าหมาย
๑. อเมริกาต้องการให้รัสเซียเลิกสนับสนุนเวียดนามเหนือในสงครามเวียดนาม
๒. อเมริกาต้องการให้รัสเซียหวาดระแวงกันเอง
๓. เพื่อบรรลุข้อตกลงเรื่อง ประเภท ดารถือครอง และการลดอาวุธร้ายแรง
เหตุการณ์ที่นำไปสู่ความสำเร็จ ๖ ประการ
๑. ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับจีน เรื่อง
๑.๑ อุดมการณ์ทางการเมืองของรัสเซียที่เปลี่ยนไป
ค.ศ. ๑๙๕๓ – ๑๙๖๔ ครุสซอฟ ดำเนินนโยบาย Peaceful Coexistence
ค.ศ. ๑๙๖๔ – ๑๙๘๒ เบรสเนฟ ดำเนินนโยบาย Détente
ทั้งสองเป็นนโยบาย Cool War มีหลักการสำคัญคือ การอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ของชาติต่างลัทธิการเมือง แต่แข่งขันกันพัฒนาทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีและเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียหายอันเกิดจากอาวุธร้ายแรง
ค.ศ. ๑๙๖๓ รัสเซียร่มลงนามกับอเมริกาและอังกฤษในสัญญาห้ามการทดลองปรมานูในมหาสมุทร ชั้นบรรยากาศและอวกาศ
ที่กล่าวมาทำให้จีนมาองว่า รัสเซียทรยสต่ออุดมการณ์คอมมิวนิสต์
๑.๒ เรื่องการปราบปราม
ค.ศ. ๑๙๖๘ รัสเซียปราบปรามชาวเช็คโกสโลวาเกียอย่างรุนแรง เนื่องการขอแยกประเทศ จีนประณามรัสเซีย
๑.๓ พรมแดน
รัสเซียลุกล้ำพรมแดนจีนในมณทลซินเกียง เพราะต้องการพื้นที่อบอุ่น
๒. รัสเซียหวาดระแวงความสะพันธ์ระหว่างอเมริกากับจีน เนื่องจากการที่ประธานาธิบดีนิกสันไปเยือนจีนในเดือน ก.พ. ๑๙๗๒
๓. อเมริกาต้องการใช้ความสัมพันธ์กับรัสเซียให้มีผลทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจ
๓.๑ ต้องการให้รัสเซียกับจีนหวาดระแวงกันเอง เป็นการบั่นทอนลัทธิคอมมิวนิสต์
๓.๒ ต้องการให้รัสเซียเลิกสนับสนุนเวียดนามเหนือในสงครามเวียดนาม ภาพความสัมพันธ์ของอเมริกากับรัสเซีย จะนำไปสู่การลงนามสันติภาพในสงครามเวียดนามเร็วขึ้น
๓.๓ ต้องการขายผลผลิตทางการเกษตรให้รัสเซีย เช่น ข้าวโพด ข้าวสาลี ในราคาที่ต่ำกว่าตลาดโลก
๔. เบรสเนฟดำเนินนโบยาย Détente เพราะต้องการลดความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างโลกคอมมิวนิสต์กับโลกเสรีนิยม เพราะรัสเซียกำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ หวังให้โลกเสรีนิยมช่วงเหลือทางผลผลิตทางการเกษตร วิทยาการเทคโนโลยี และเพื่อนำทรัพยากรธรรมชาติจากไซบีเรียมาใช้
๕. ดร. เฮนรี่ คิสซิงเกอร์ ที่ปรึกษาด้านการต่างประเทศของนิกสันเตรียมการ
๕.๑ เจราจาเรื่องการเปิดเผยการถือครอง และจำกัดจำนวนอาวุธร้ายแรงระหว่างอเมริกากับรัสเซีย ใน The Strategic Arms Limitation Treaty Talk – SALT การประชุมเกิดขึ้น ๓ ครั้ง ในปี ค.ศ. ๑๙๖๙ – ๑๙๗๒
๕.๒ เตรียมการให้นิกสันเยือนรัสเซียในเดือน พ.ย. ๑๙๗๒ พบกับเบรสเนฟผู้นำของรัสเซีย
๖. การเยือรัสเซียของประธานาธิบดีนิกสันมีขึ้นระหว่าง วันที่ ๒๒ – ๓๑ พ.ย. ๑๙๗๒ ผู้นำของสองชาติได้ร่วมลงในในสัญญา ๓ ฉบับคือ
ฉบับที่ ๑ The Strategic Arms Limitation Treaty of 1972 – SALT 1
๑. จำกัดจำนวนการถือครองขีปนาวุธต่อสู้ขีปนาวุธ อเมริกามีถือครองมากกว่ารัสเซีย ๔๕๐ ต่อ ๒๐๐ ลูก
๒. ห้ามผลิตอาวุธร้ายแรง ๓ ชนิดในระยะ ๕ ปี (five-year freeze)
- จรวดขีปนาวุธยิงข้ามทวีป รัสเซียถือครองมากกว่าอเมริกา ๑,๖๐๗ ต่อ ๑,๐๕๔ ลูก
- จรวดขีปนาวุธยิงจากเรือดำน้ำ รัสเซียถือครองมากกว่าอเมริกา ๗๔๐ ต่อ ๖๕๖ ลูก
- หัวรบนิวเคลียร์ อเมริกาถือครองมากกว่ารัสเซีย ๕,๗๐๐ ต่อ ๒,๕๐๐ ลูก
อเมริกาพอใจในสัดส่วนเพราะมีอาวุธร้ายแรงที่รัสเซียไม่มีและไม่ได้กำหนดในปี ค.ศ. ๑๙๗๒ คือ ยานปล่อยหัวรบนิวเคลียร์ครั้งละหลาย ๆ ลูก
ฉบับที่ ๒ ข้อตกลงทางด้านการค้าและเทคโนโลยี
ฉบับที่ ๓ ข้อตกลงทางด้านการแพทย์และการรักาาสิ่งแวดล้อม
สรุป การเยือนรัสเซียของนิกสัน ทำให้ความตึงเคลียดทางการเมืองของทั้งสองประเทศลดลง โดยเฉพาะ SALT 1 นับว่าเป็นงานชิ้นสำคัญของนิกสันที่ประสบความสำเร็จ
บรรณานุกรม
อรพินท์ ปานนาค,รศ. ประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกาในคริตส์ศตวรรษที่ ๒๐. พิมพ์ครั้งที่ ๔. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง. ๒๕๕๑.
ยินดีครับ....................
โค้งคำนับนั่งอ่านช่วยสานฝัน
สาระดีมีจุดเด่นเป็นสำคัญ
ชอบสร้างสรรค์เสพหาวิชาการ
ขยันเขียนเวียนหามาบันทึก
เริ่องไม่นึกก็ได้เห็นเป็นแก่นสาร
เกิดความคิดติดปัญญาพาเชี่ยวชาญ
ประสบการณ์พบเห็นเป็นบทเรียน
ธนา นนทพุทธ
จักสานอักษรกลอนคิดเห็น