หน้าแรก
สมาชิก
ศุภัชณัฏฐ์ หลักเมือง
สมุด
แผนชุมชน
การจัดทำแผนชุมชน 3
ศุภัชณัฏฐ์ หลักเมือง
นาย ศุภัชณัฏฐ์ หลักเมือง (เอ) หลักเมือง
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
การจัดทำแผนชุมชน 3
แผนชุมชน แผนแก้ปัญหาชุมชนที่แท้จริง
เทคนิคการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แผนชุมชน (3)
ศุภัชณัฏฐ์ หลักเมือง
ผู้อำนวยการสถานศึกษา (เชี่ยวชาญ) กศน.อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์
E-mail :
[email protected]
*******************
แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แผนชุมชน สรุปแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
แผนชุมชนมี 5 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้
ขั้นตอนที่ 1 การกำหนดเป้าหมายของชุมชน กระบวนการเรียนรู้ในการกำหนดเป้าหมายของชุมชนขั้นตอนนี้ ประกอบด้วย 3 กิจกรรม ได้แก่
กิจกรรมที่ 1 การค้นหาองค์ประกอบของชุมชน
วัตถุประสงค์ของกิจกรรมนี้ เพื่อวิเคราะห์ประสบการณ์เดิม และสะท้อนความคิดเห็นเกี่ยวกับองค์ประกอบของชุมชนของแกนนำชุมชน โดยใช้เทคนิคบัตรคำ (Meta Plan)
วิธีการ
1. ให้ผู้เข้าร่วมประชุม เขียนองค์ประกอบชุมชนที่น่าอยู่ ควรมีองค์ประกอบอะไรบ้างจากความคิดเห็นของตนเองลงในบัตรคำ โดยใช้เวลาในกิจกรรมนี้ 5 - 8 นาที
2. เมื่อผู้เข้าร่วมประชุม เขียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้นำไปติดในบอร์ดที่เตรียมไว้
3. ครู / วิทยากร รวบรวมเป็นหมวดหมู่ ใน 3 องค์ประกอบ เช่น ด้านเศรษฐกิจชุมชน ด้านการบริหารจัดการชุมชน และด้านการมีส่วนร่วมของชุมชน
4. วิทยากรสรุปข้อมูลที่ได้ และเสนอข้อมูลเพิ่มเติม ในส่วนที่ยังไม่ครอบคลุม กิจกรรมนี้ จะทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคน ได้นำเอาประสบการณ์ของตนเองออกมานำเสนอร่วมกัน จะทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนรู้สึกว่าตนเองได้มีส่วนร่วม มีความสำคัญในฐานะสมาชิกคนหนึ่งและได้รับรู้ข้อมูลจากบุคคลอื่นซึ่งจะทำให้มีความรู้เพิ่มขึ้น และเกิดสัมพันธภาพที่ดีภายในกลุ่มสมาชิกที่เข้าร่วมประชุม
กิจกรรมที่ 2 การสำรวจสภาพ และบริบทของชุมชน
วัตถุประสงค์ของกิจกรรมนี้ เพื่อกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้วิเคราะห์สภาพ
ของชุมชนที่ผ่านมาในอดีตจนถึงปัจจุบัน โดยแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ปี พ.ศ. 2525 ถึง 2539
และ ปี พ.ศ. 2540 ถึงปัจจุบัน โดยใช้เทคนิคบัตรคำ (Meta Plan) และนำเสนอสภาพด้วยการเขียน
เป็นแผนที่ความคิด (Mind Mapping)
วิธีการ
1. ให้ผู้เข้าประชุมทบทวนข้อมูลประสบการณ์และเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในระยะเวลา 2 ช่วงที่กำหนด ด้วยคำถามว่า “ช่วงเวลา ปี พ.ศ. 2525 - 2539 และ ปี พ.ศ. 2540 ถึงปัจจุบัน ชุมชนของท่านมีสภาพเป็นอย่างไร มีสิ่งใดบ้างที่รู้สึกภาคภูมิใจ และมีสิ่งใดบ้างที่ทำให้รู้สึกเสียใจ ” ใช้เวลา 5 นาที โดยให้ผู้เข้าประชุมเขียนตามความคิดเห็นของตนเองลงในบัตรคำ
2. แบ่งผู้เข้าประชุมออกเป็นกลุ่มย่อย 3 กลุ่ม สมาชิกแต่ละคนนำบัตรคำของตนเองเข้ากลุ่มย่อย นำเสนอเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันภายในกลุ่ม แล้วนำบัตรคำไปติดบอร์ดที่จัดไว้ โดยประธานกลุ่มทำหน้าที่ตรวจสอบข้อมูล เลขากลุ่มทำหน้าที่จัดหมวดหมู่ของบัตรคำโดยข้อความเดียวกัน หรือใกล้เคียงกันให้จัดรวมไว้ด้วยกัน ใช้เวลา 10 นาที
3. โฆษกกลุ่มย่อยทั้ง 3 กลุ่ม นำเสนอข้อสรุปจากกลุ่มย่อย นำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่ที่เกี่ยวกับสภาพหรือบริบท ในช่วงเวลา ปี พ.ศ. 2525 - 2539 และ ปี พ.ศ. 2540 ถึงปัจจุบัน โดยใช้เวลากลุ่มละ 5 นาที
4. เลขากลุ่ม แต่ละกลุ่มย่อยรวบรวมข้อมูลของกลุ่มตนเอง โดยนำเสนอเป็นแผนที่ความคิด ( Mind Mapping ) ให้เป็นภาพของชุมชน ในช่วงเวลา ปี พ.ศ. 2525 - 2539 และ ปี
พ.ศ. 2540 ถึงปัจจุบัน
วิธีการนี้ เปิดโอกาสให้สมาชิกผู้เข้าร่วมประชุมทุกคน มีโอกาสได้แสดงออกใน
ความคิดเห็น และความรู้สึกของตนเอง เกี่ยวกับสภาพ หรือบริบทที่เป็นจริงของชุมชนร่วมกัน
ด้วยการทำงานเป็นทีม ความช่วยเหลือเกื้อกูลกัน การให้เกียรติ และความเคารพซึ่งกันและกัน
ทำให้ได้ข้อสรุปที่หลากหลาย เพื่อเป็นการเตรียมไปสู่กิจกรรมการกำหนดเป้าหมายในอนาคตของชุมชนร่วมกัน
กิจกรรมที่ 3 การกำหนดเป้าหมายในอนาคต
วัตถุประสงค์เพื่อให้สมาชิกผู้เข้าร่วมประชุมทุกคน ร่วมกันกำหนดเป้าหมายหรือสิ่งที่มุ่งหวังในอนาคตของชุมชนร่วมกัน โดยการนำข้อมูลที่ได้เรียนรู้จากอดีต จนถึงปัจจุบันมาจินตนาการสร้างภาพอนาคตของชุมชน โดยใช้เทคนิคศิลปะการสร้างภาพ และแผนที่ความคิด
วิธีการ
1. ครู / วิทยากร แจกกระดาษ A4 ให้สมาชิกผู้เข้าประชุมคนละ 1 แผ่น ให้สมาชิกผู้เข้าประชุม ฉีกกระดาษสีต่าง ๆ แล้วนำไปแปะลงในกระดาษ A4 ให้เป็นเป็นภาพของชุมชนที่ตนเองอยากเห็น อยากเป็น หรืออยากได้ในอนาคต 5 ปีข้างหน้า (ห้ามเขียนข้อความ หรือรูปภาพ) ใช้เวลา 5 นาที
2. แยกสมาชิกผู้เข้าร่วมประชุมออกเป็นกลุ่มย่อย (กลุ่มเดิมจากกิจกรรมที่ 2) แล้วให้สมาชิกผู้เข้าประชุมแต่ละคนแสดงภาพ และบรรยายภาพที่คาดหวังในอนาคตของตนเอง
ให้สมาชิกกลุ่มของตนเองได้ทราบ เมื่ออธิบายเสร็จเรียบร้อยให้นำภาพไปติดที่บอร์ด ระหว่าง
สมาชิกนำเสนอครู / วิทยากร และเลขากลุ่มช่วยกันบันทึกข้อมูลในแผนที่ความคิด เมื่อสมาชิก
ทุกคนในกลุ่มย่อยได้บรรยายครบแล้ว ให้ประธานกลุ่มรวมภาพของทุกคนให้เป็นภาพของกลุ่ม เลขากลุ่มสรุปประเด็นเป็นภาพความมุ่งหวังในอนาคตของกลุ่ม โฆษกกลุ่มนำเสนอผลงาน โดยใช้เวลา 10 นาที
3. การนำเสนอผลงานกลุ่มย่อย ต่อที่ประชุมกลุ่มใหญ่ โดยโฆษกกลุ่มย่อยเสนอผลงานกลุ่มด้วยแผนที่ความคิด และภาพของกลุ่มจนครบทุกกลุ่ม โดยให้สมาชิกคนอื่น ๆ ได้ร่วมพิจารณา เสนอความคิดเห็น และสอบถามเพิ่มเติม ใช้เวลา 10 นาที
4. ผู้แทนกลุ่มย่อยแต่ละกลุ่ม รวมภาพ / ประเด็นความมุ่งหวังในอนาคตของกลุ่ม
ให้เป็นภาพรวมของชุมชน
5. ขอเชิญอาสาสมัคร หรือผู้แทนสมาชิก ที่มีความสามารถเขียนคำกลอน คำคม
ที่สามารถสะท้อนภาพของชุมชน โดยรวมเอาองค์ประกอบหลัก ๆ ของภาพชุมชนที่พึงปรารถนาออกมา โดยอาจเขียนเป็นคำคล้องจอง ให้มีความสละสลวย จดจำได้ง่าย เป็นการยกร่างวิสัยทัศน์เบื้องต้นของชุมชน หลังจากนั้นให้ผู้แทนสมาชิกอธิบายภาพรวมในอนาคตของชุมชน รวมทั้งอธิบาย วิสัยทัศน์ของชุมชน
6. ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนร่วมกันตรวจสอบว่า ภาพรวมที่เป็นความมุ่งหวังในอนาคต รวมทั้งวิสัยทัศน์ของชุมชน มีความเหมาะสมเพียงใด ต้องการเพิ่มเติมอะไรอีกบ้าง เพื่อให้ได้ภาพรวมที่สมบูรณ์ที่สุด และเป็นเป้าหมายที่ทุกคนต้องการร่วมกัน
วิธีการนี้ เป็นการกระตุ้นให้สมาชิกผู้เข้าประชุม มองภาพการพัฒนาในแนวทางที่สร้างสรรค์ เป็นการฝึกเทคนิคการกำหนดขอบเขตความคิดของตนเองในเรื่องต่าง ๆ การอธิบายความหมาย รวมทั้ง มองเห็นความสำคัญของการสร้างสรรค์ชุมชนในภาพรวม และการมีส่วนร่วมในชุมชน
ขั้นตอนที่ 2 การประเมินสภาพชุมชน และการวิเคราะห์ปัญหาของชุมชน
กระบวนการเรียนรู้ในการประเมินสภาพชุมชน และการวิเคราะห์ปัญหาของชุมชน ประกอบด้วย 4 กิจกรรม ดังนี้
กิจกรรมที่ 1 การออกแบบสำรวจข้อมูล
วัตถุประสงค์เพื่อให้แกนนำชุมชน ที่เข้าร่วมประชุมมีส่วนร่วมในการสำรวจและรวบรวมข้อมูลของชุมชน โดยการออกแบบสอบถามข้อมูลสำหรับชุมชนของตน พร้อมทั้งได้สำรวจสภาพที่แท้จริงของชุมชนว่าเป็นอย่างไร และเป็นการฝึกกระบวนการเรียนรู้ ให้แกนนำชุมชนเกิดทักษะ และสั่งสมประสบการณ์ในกาทำงาน เรื่องการสำรวจและรวบรวมข้อมูลชุมชน เนื่องจาก ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญต่อการตัดสินใจ เพื่อการพัฒนาชุมชน/หมู่บ้าน และสิ่งที่จะทำให้ได้ข้อมูล และสามารถนำข้อมูลมาตรวจสอบซ้ำได้อีกครั้ง ก็คือ แบบสอบถาม ซึ่งในการดำเนินการจัดทำแผนชุมชนพึ่งตนเองนั้น แบบสอบถามที่ดีที่สุดสำหรับชุมชน/หมู่บ้าน คือ แบบสอบถามที่คนในชุมชน/หมู่บ้าน ช่วยกันสร้างขึ้นมา เพราะเป็นแบบสอบถามที่คนในชุมชน/หมู่บ้าน สร้างขึ้นมาจากความอยากรู้ มีความสนใจ และต้องการข้อมูลในชุมชน/หมู่บ้าน ของตนเอง เพื่อนำมาใช้ในการตัดสินใจในการแก้ไขปัญหาไปในแนวทางใด ซึ่งข้อมูลจะช่วยให้ผู้นำชุมชน / หมู่บ้าน และชาวบ้านสามารถตัดสินใจเองได้
วิธีการ
1. ครู / วิทยากรชี้แจง ทำความเข้าใจกับแกนนำชุมชนถึงความสำคัญและประโยชน์ของข้อมูลที่ได้จากการสำรวจโดยคนในชุมชน รวมทั้ง การมีส่วนร่วมกันออกแบบสำรวจข้อมูล และสร้างความเข้าใจในแบบสำรวจข้อมูลร่วมกัน
2. แกนนำชุมชนร่วมกันคิด และออกแบบสำรวจข้อมูล โดยคิดว่าจะมีข้อมูลที่ต้องการสำรวจด้านใดบ้างที่ชุมชนต้องการทราบ และเป็นประโยชน์ต่อการนำไปใช้ในการจัดทำแผนชุมชน ซึ่งอาจประกอบไปด้วยข้อมูลด้านจ่าง ๆ เช่น ด้านรายรับของชุมชน ด้านรายจ่ายของชุมชน และหนี้สินของชุมชน เป็นหลัก และข้อมูลระดับรองลงไป เช่น ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านการมีส่วนร่วมการพัฒนาชุมชน และข้อมูลทุนทางสังคมต่าง ๆ ในชุมชน โดยให้กลุ่มแกนนำชุมชนร่วมกันพิจารณาความเหมาะสมของแบบสำรวจข้อมูลร่วมกัน และแก้ไขตามความคิดเห็นของกลุ่ม
3. แกนนำชุมชน ร่วมกันฝึกทักษะสอบถาม และการกรอกข้อมูลในแบบสำรวจข้อมูล และการวิเคราะห์ข้อมูล โดยมอบหมายงานให้แกนนำชุมชนทุกคน ทดลองฝึกทักษะการสอบถาม การกรอกแบบสอบถาม โดยอาจใช้ข้อมูลครัวเรือนของตนเองเป็นตัวอย่างในการกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนทุกข้อตามแบบสอบถามข้อมูล และให้ซักถามเรื่อง หรือหัวข้อที่ไม่เข้าใจในแบบสำรวจ
กิจกรรมที่ 2 การเก็บรวบรวมข้อมูล
วัตถุประสงค์ เพื่อให้แกนนำชุมชน ได้มีการฝึกปฏิบัติจริงในการเก็บรวบรวมข้อมูลเพราะข้อมูลเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาชุมชน / หมู่บ้าน เพราะจะทำให้มองเห็นภาพรวมของชุมชน / หมู่บ้าน ทั้งหมดและการลงพื้นที่เก็บรวบรวมข้อมูล จะทำให้เกิดกระบวนการทำงานเป็นทีม ตลอดจน แบ่งงานกันทำตามความสามารถ และความถนัดของแต่ละบุคคล และจะทำให้ได้ข้อมูลตามที่คนในชุมชน / หมู่บ้านต้องการทราบ และมีความสนใจ อีกทั้ง จะเห็นแนวโน้มของข้อมูลที่จะสามารถบอกทิศทางของการพัฒนาชุมชนของตนเองได้ ร่วมกันแก้ไขปัญหา และพัฒนาชุมชนในที่สุด ที่สำคัญของกระบวนการนี้การเก็บรวบรวมข้อมูล การสอบถามข้อมูล สมควรเป็นบุคคลในชุมชนและครู / วิทยากร เป็นผู้ช่วยจดบันทึกข้อมูล ซึ่งจะทำให้ได้ข้อมูลตรงตามวัตถุประสงค์ ของการเก็บข้อมูลในแบบสอบถามมากกว่าบุคคลที่อยู่ภายนอกชุมชน / หมู่บ้าน เก็บรวบรวมข้อมูล และสอบถามข้อมูล เพราะเป็นคนที่คนในชุมชนไม่คุ้นเคย
วิธีการ
1. ครู / วิทยากร นำแบบสอบถามที่ชุมชน ได้ร่วมกันสร้างขึ้นมาทบทวนและชี้แจงในรายละเอียดของข้อคำถาม ความหมายของข้อมูล การตีความข้อมูลและการบันทึกข้อมูล
2. แบ่งกลุ่มผู้นำชุมชน ออกเป็นกลุ่ม ๆ กลุ่มละ 4 - 5 คน ต่อคุ้ม โดยมีมีครู / วิทยากร เป็นพี่เลี้ยงในการลงพื้นที่เก็บรวบรวมข้อมูล
3. แกนนำชุมชน ดำเนินการชี้แจงแบบสำรวจข้อมูลของทุกครัวเรือนที่ตนเองรับผิดชอบ โดยชี้แจงให้แต่ละครัวเรือนทราบถึงความสำคัญ และประโยชน์ของข้อมูลชุมชนให้แต่ละครัวเรือนลงข้อมูลให้ครบถ้วนตามความเป็นจริง แล้วนัดวันที่จะมารับข้อมูล ในกรณีที่ครัวเรือนนั้นสามารถให้ข้อมูลได้ หรือแกนนำชุมชนสอบถามบุคคลในครัวเรือน แล้วเก็บรวบรวมข้อมูลจากแบบสอบถามก็ได้ อาจใช้พี่เลี้ยงร่วมในการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วย เช่น ครูการศึกษานอกโรงเรียน เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน และอาสาสมัครสาธารณสุข เป็นต้น
4. แกนนำชุมชนแต่ละกลุ่มนำเสนอ ข้อขัดข้อง ปัญหาและอุปสรรคจากการลงพื้นที่เก็บรวบรวมข้อมูล ตามคุ้มต่าง ๆ และช่วยสังเคราะห์ข้อมูลที่ได้ ร่วมทั้งร่วมกันหาแนวทางการลงพื้นที่เก็บรวบรวมข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพและนำไปปรับใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลในโอกาสต่อไป
5. แกนนำชุมชนรวบรวมข้อมูลชุมชน โดยอาจแบ่งข้อมูลออกเป็นแต่ละคุ้มหรือหย่อมบ้าน หรือตามที่แกนนำชุมชนได้เก็บรวบรวมมา แล้วลงข้อมูลในตารางข้อมูลที่เตรียมไว้เป็นภาพรวมของชุมชน และช่วยกันพิจารณาข้อมูลที่รวบรวมได้และเพิ่มเติมข้อมูลส่วนที่ไม่สมบูรณ์
เพื่อนำเสนอในเวทีต่อไป
กิจกรรมที่ 3 การสังเคราะห์ข้อมูล
วัตถุประสงค์เพื่อให้แกนนำชุมชนมีความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ในการสังเคราะห์ข้อมูลของชุมชน และได้เรียนรู้สภาพปัญหาที่แท้จริงของชุมชนด้วยตนเองจากผลการรวบรวมข้อมูลในระดับพื้นที่
วิธีการ
1. การวิเคราะห์ข้อมูลของชุมชน
1.1 ครู / วิทยากรชี้แจงให้แกนนำชุมชน และผู้ประสานงานในพื้น นำข้อมูลที่ได้รวบรวมมาวิเคราะห์ร่วมกัน โดยมองในภาพรวมว่า “ ปัจจุบันชุมชนมีสภาพเป็นอย่างไร” และในอนาคต “ถ้าชุมชนมีสภาพคงอยู่อย่างนี้ ชุมชนจะเป็นอย่างไร” สรุปประเด็นด้วยข้อเขียนลงในแบบฟอร์มที่ครู / วิทยากร และแกนนำชุมชนเตรียมไว้
1.2 แกนนำชุมชน และตัวแทนครัวเรือนทุกครัวเรือนร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาของชุมชน รวมทั้งสรุปประเด็นการวิเคราะห์ปัญหาในแบบฟอร์มที่เตรียมไว้ โดยอาจสรุปตามแนวทางข้อคำถาม ดังนี้
1.2.1 ปัญหาของชุมชน คืออะไรบ้าง
1.2.2 สาเหตุของปัญหาเกิดจากอไร
1.2.3 ชุมชนจะมีแนวทางแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร
2. เมื่อชุมชนได้ข้อสรุปจากการวิเคราะห์ข้อมูล และปัญหาของชุมชน แล้วให้แกนนำชุมชนจัดเวทีชาวบ้าน เพื่อทำการวิเคราะห์ข้อสรุปของข้อมูล และปัญหาที่แท้จริงในชุมชน โดยมีตัวแทนแต่ละครัวเรือนร่วมในเวทีด้วย โดยให้ผู้ร่วมเวทีวิเคราะห์ความสัมพันธ์สาเหตุของปัญหา และนำเสนอข้อสรุปด้วยเทคนิคแผนที่ทางความคิด (Mind Mapping)
สำหรับ กิจกรรมที่ 2 การเก็บรวบรวมข้อมูลและกิจกรรมที่ 3 การสังเคราะห์ข้อมูลนี้ ครู / วิทยากรและแกนนำชุมชน อาจใช้วิธีการสัมภาษณ์ และเทคนิควิธีการอื่น ๆ ร่วมด้วย ดังต่อไปนี้
1. ทีมปฏิบัติการรวบรวม และสังเคราะห์ข้อมูลแบ่งกลุ่มสมาชิก กลุ่มละ 4 - 5 คน และก่อนการสำรวจข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ ควรศึกษาแบบเก็บรวบรวมข้อมูลให้เข้าใจซึ่งแบบเก็บข้อมูล โดยการสัมภาษณ์ควรเป็นลักษณะแบบกึ่งมีโครงสร้าง
2. ทีมปฏิบัติการรวบรวมและสังเคราะห์ข้อมูล ร่วมกันกำหนดกรอบการสัมภาษณ์เพื่อให้ได้ข้อมูลตามหัวข้อที่กำหนด อย่างไรก็ตาม คำถามของการสัมภาษณ์ เป็นเพียงแนวทาง / ตัวเชื่อม เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่ต้องการ เป็นการช่วยให้ผู้สัมภาษณ์สร้างระบบในการพูดคุยในการสัมภาษณ์นั้นควรขึ้นต้นด้วยการพูดคุยถึงสภาพความเป็นอยู่ แล้วจึงนำเข้าสู่เรื่องที่ต้องการ ตามหัวข้อที่กำหนด ด้วยบรรยากาศของการแลกเปลี่ยนข้อมูลเป็นสำคัญ ซึ่งจะทำให้การสัมภาษณ์เป็นไปตามธรรมชาติ ปราศจากการรบกวน และการสร้างความกังวลใจให้แก่ผู้ให้สัมภาษณ์
3. เมื่อได้แนวคำถามเรียบร้อยแล้ว ให้ทีมปฏิบัติการรวบรวม และสังเคราะห์ข้อมูลเลือกคนใดคนหนึ่งเป็นผู้สัมภาษณ์ (ควรเป็นคนในชุมชน / หมู่บ้านนั้น) ส่วนคนอื่นให้ทำหน้าที่จดบันทึกข้อมูลจากการสัมภาษณ์ ยกเว้นกรณี ที่สัมภาษณ์แล้วได้ข้อมูลไม่ครบถ้วนตามที่ตนเองรับผิดชอบให้คนในทีมถามเพิ่มเติมได้ แต่ต้องให้คนหนึ่งพูดคุยเสร็จสิ้นประเด็นนั้น ๆ ก่อนอย่าสอดแทรกถามขึ้นขณะที่ตัวแทนกลุ่มกำลังพูดคุยอยู่
เขียนใน
GotoKnow
โดย
ศุภัชณัฏฐ์ หลักเมือง
ใน
แผนชุมชน
คำสำคัญ (Tags):
#แผนชุมชน
#แผนแก้ไขความยากจน
หมายเลขบันทึก: 375718
เขียนเมื่อ 16 กรกฎาคม 2010 14:09 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 16:33 น. (
)
สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
ศุภัชณัฏฐ์ หลักเมือง
สมุด
แผนชุมชน
การจัดทำแผนชุมชน 3
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท