งานอาจารย์สุนทรี


ความเหมือนและความต่างข่าวเศรษฐกิจและข่าวการเมือง

 

     ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ในฐานะผู้นำด้านผลิตภัณฑ์หน้าจอคอมพิวเตอร์อันดับหนึ่งของโลก เดินหน้าสานต่อการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตหน้าจอแอลอีดีอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดประสบความสำเร็จในการผลิตหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมพร้อมเพิ่มศักยภาพในการมองเห็นของผู้ใช้ให้ดีขึ้นกับ ซัมซุง แอลอีดี มอนิเตอร์ซีรีย์ 50 และ ซีรีย์ 35

นายบุญเลิศ วิบูลย์เกียรติ ผู้อำนวยการธุรกิจไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เผยว่า “มีปัจจัยอยู่สามประการที่ผู้บริโภคใช้เป็นเกณฑ์ในการเลือกซื้อสินค้า และปัจจัยสามประการนี้ก็คือ ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ดีไซน์สวยงาม และศักยภาพในการทำงานของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักที่ซัมซุงยึดมั่นในการนำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อการตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง”

นายบุญเลิศ วิบูลย์เกียรติ ผู้อำนวยการธุรกิจไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เผยว่า “มีปัจจัยอยู่สามประการที่ผู้บริโภคใช้เป็นเกณฑ์ในการเลือกซื้อสินค้า และปัจจัยสามประการนี้ก็คือ ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ดีไซน์สวยงาม และศักยภาพในการทำงานของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักที่ซัมซุงยึดมั่นในการนำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อการตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง”

ซัมซุง แอลอีดี มอนิเตอร์ ซีรีย์ 50 และซีรีย์ 35 เป็นผลิตภัณฑ์ไฮไลท์แห่งปีสำหรับสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะหน้าจอแอลอีดีของซัมซุงตัวนี้มีสารที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั่วไปในตลาด ไม่ว่าจะเป็นสารปรอท สารตะกั่ว พร้อมนวัตกรรมประหยัดพลังงานมากกว่าหน้าจอมอนิเตอร์ทั่วไปถึง 40% นอกจากนี้ ซัมซุง แอลอีดี มอร์นิเตอร์ซีรีย์ 50 และ 35 ใช้เทคโนโลยี “ทัชออฟคัลเลอร์ (Touch of Color Technology)” ซึ่งไม่มีการทาสี พ่นสี ลงไปในผลิตภัณฑ์ ทำให้ปราศจากสารประกอบประเภทอินทรีย์ระเหย (VOCs) จึงทำให้ ซัมซุง แอลอีดี มอนิเตอร์ เป็นผลิตภัณฑ์อิเล็คทรอนิกส์ที่สามารถนำมาเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย หน้าจอสุดมหัศจรรย์ตัวนี้ยังได้รับมาตรฐานการรับรองด้านพลังงานสากล ทั้งมาตรฐาน Energy Star 5.0 และสำหรับรุ่นซีรีย์ 50 ยังได้รับมาตรฐาน China’s Energy Level 1 อีกด้วย

ซัมซุง แอลอีดี มอนิเตอร์ ซีรีย์ 50 และซีรีย์ 35 ได้รับการออกแบบที่สวยงามภายใต้ปรัชญาในการออกแบบที่มองเห็นผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นเป็นผลงานศิลปะ มากกว่าเพียงแค่เครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป โดยการออกแบบ ซัมซุง แอลอีดี มอนิเตอร์ ซีรีย์ 50 และซีรีย์ 35 นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ และไลฟไตล์ที่อยู่รอบๆตัวเรา โดดเด่นด้วยแนวการออกแบบ New Sleek Design ซึ่งจะทำให้มอนิเตอร์ของซัมซุงทั้งสองซีรีย์นี้มีความบางลงอย่างมาก

สำหรับ ซัมซุง แอลอีดี มอนิเตอร์ ซีรีย์ 50 จะมาพร้อมกับทัชออฟคัลเลอร์ดีไซน์สีเทา (Charcoal Gray) พร้อมขาตั้งชุมโครเมียม และด้านหลังของมอนิเตอร์ได้รับการสร้างสรรค์เป็นลายรูปคลื่นที่ละเอียดอ่อน พริ้วไหว สวยงาม ส่วนซีรีย์ 35 นั้นจะแตกต่างและโดดเด่นด้วยทัชออฟคัลเลอร์ดีไซน์สีน้ำตาล (Mystic Brown) ให้ความรู้สึกถึงเนื้อช็อคโกแลตที่แสนหอมหวาน เข้มข้น สวยสะดุดตาไม่เหมือนใคร

ปัจจัยสุดท้ายที่ซัมซุงคำนึงถึงในการสร้างสรรค์นวัตกรรมมอนิเตอร์รักษ์โลกล่าสุดนี้คือศักยภาพในการใช้งาน ซัมซุง แอลอีดี มอนิเตอร์ ซีรีย์ 50 และ 35 ถูกออกแบบด้วยฟังก์ชันการใช้งาน “เมจิค แองเกิล (Magic Angle)” เทคโนโลยีเอกสิทธิ์จากซัมซุงซึ่งสามารถลดการอ่อนล้าของดวงตาจากการจ้องมองหน้าจอเป็นเวลานานได้ และทำให้จอภาพจะแสดงภาพวัตถุให้อยู่ตรงกลางหน้าจอไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็ตาม ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะช่วยตัดปัญหาการบิดเบือนของภาพได้อย่างสมบูรณ์ และช่วยให้แสดงภาพได้ชัดเจนและดีที่สุดในทุกอิริยาบทของผู้ใช้ ไม่ว่าจะยืนดู นั่งดู หรือแม้กระทั่งนอนดู ผู้ใช้จะมองเห็นภาพที่มีสีสันสดใสและมีพลังกว่าเดิมด้วยเทคโนโลยี Mega Dynamic Contrast Ratio รวมทั้งระบบตอบสองความเร็วสูง ความละเอียดของภาพระดับ FHD และอัตราส่วนของภาพแบบ 16:9

“เมจิค รีเทิร์น (Magic Return)” ถือเป็นไฮไลท์ฟังก์ชันของมอนิเตอร์ซีรีย์ 50 เพราะช่วยย้ายข้อมูลทั้งหมดจากมอนิเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังมอนิเตอร์อีกเครื่องหนึ่งโดยอัตโนมัติ เมื่อเครื่องที่ใช้งานอยู่มีปัญหาขึ้นมาอย่างฉับพลัน และเรายังสามารถแก้ไข หรือใช้ข้อมูลนั้นๆได้แม้ว่าเราจะไม่ได้เชื่อมต่อหน้าจอสองเครื่องนี้เข้าด้วยกัน แต่ทั้งนี้ระบบนี้จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อเราใช้งานกับมอนิเตอร์สองเครื่องเท่านั้น

“ซัมซุง แอลอีดี มอนิเตอร์ ซีรีย์ 50 และ 35 ถือเป็นหนึ่งในคำมั่นสัญญาของเราที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพชั้นเยี่ยมและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้บริโภค เรายังคงมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า ซัมซุง แอลอีดี มอนิเตอร์ทั้งสองซีรีย์นี้จะช่วมเสริมทัพให้แข็งแกร่งในฐานะผู้นำในตลาดหน้าจอแอลอีดีระดับโลกได้อย่างแน่นอน”นายบุญเลิศ กล่าวสรุป

 

ซัมซุง แอลอีดี มอนิเตอร์ ซีรีย์ 50 และซีรีย์ 35 เป็นผลิตภัณฑ์ไฮไลท์แห่งปีสำหรับสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะหน้าจอแอลอีดีของซัมซุงตัวนี้มีสารที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั่วไปในตลาด ไม่ว่าจะเป็นสารปรอท สารตะกั่ว พร้อมนวัตกรรมประหยัดพลังงานมากกว่าหน้าจอมอนิเตอร์ทั่วไปถึง 40% นอกจากนี้ ซัมซุง แอลอีดี มอร์นิเตอร์ซีรีย์ 50 และ 35 ใช้เทคโนโลยี “ทัชออฟคัลเลอร์ (Touch of Color Technology)” ซึ่งไม่มีการทาสี พ่นสี ลงไปในผลิตภัณฑ์ ทำให้ปราศจากสารประกอบประเภทอินทรีย์ระเหย (VOCs) จึงทำให้ ซัมซุง แอลอีดี มอนิเตอร์ เป็นผลิตภัณฑ์อิเล็คทรอนิกส์ที่สามารถนำมาเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย หน้าจอสุดมหัศจรรย์ตัวนี้ยังได้รับมาตรฐานการรับรองด้านพลังงานสากล ทั้งมาตรฐาน Energy Star 5.0 และสำหรับรุ่นซีรีย์ 50 ยังได้รับมาตรฐาน China’s Energy Level 1 อีกด้วย

ซัมซุง แอลอีดี มอนิเตอร์ ซีรีย์ 50 และซีรีย์ 35 ได้รับการออกแบบที่สวยงามภายใต้ปรัชญาในการออกแบบที่มองเห็นผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นเป็นผลงานศิลปะ มากกว่าเพียงแค่เครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป โดยการออกแบบ ซัมซุง แอลอีดี มอนิเตอร์ ซีรีย์ 50 และซีรีย์ 35 นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ และไลฟไตล์ที่อยู่รอบๆตัวเรา โดดเด่นด้วยแนวการออกแบบ New Sleek Design ซึ่งจะทำให้มอนิเตอร์ของซัมซุงทั้งสองซีรีย์นี้มีความบางลงอย่างมาก

สำหรับ ซัมซุง แอลอีดี มอนิเตอร์ ซีรีย์ 50 จะมาพร้อมกับทัชออฟคัลเลอร์ดีไซน์สีเทา (Charcoal Gray) พร้อมขาตั้งชุมโครเมียม และด้านหลังของมอนิเตอร์ได้รับการสร้างสรรค์เป็นลายรูปคลื่นที่ละเอียดอ่อน พริ้วไหว สวยงาม ส่วนซีรีย์ 35 นั้นจะแตกต่างและโดดเด่นด้วยทัชออฟคัลเลอร์ดีไซน์สีน้ำตาล (Mystic Brown) ให้ความรู้สึกถึงเนื้อช็อคโกแลตที่แสนหอมหวาน เข้มข้น สวยสะดุดตาไม่เหมือนใคร

ปัจจัยสุดท้ายที่ซัมซุงคำนึงถึงในการสร้างสรรค์นวัตกรรมมอนิเตอร์รักษ์โลกล่าสุดนี้คือศักยภาพในการใช้งาน ซัมซุง แอลอีดี มอนิเตอร์ ซีรีย์ 50 และ 35 ถูกออกแบบด้วยฟังก์ชันการใช้งาน “เมจิค แองเกิล (Magic Angle)” เทคโนโลยีเอกสิทธิ์จากซัมซุงซึ่งสามารถลดการอ่อนล้าของดวงตาจากการจ้องมองหน้าจอเป็นเวลานานได้ และทำให้จอภาพจะแสดงภาพวัตถุให้อยู่ตรงกลางหน้าจอไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็ตาม ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะช่วยตัดปัญหาการบิดเบือนของภาพได้อย่างสมบูรณ์ และช่วยให้แสดงภาพได้ชัดเจนและดีที่สุดในทุกอิริยาบทของผู้ใช้ ไม่ว่าจะยืนดู นั่งดู หรือแม้กระทั่งนอนดู ผู้ใช้จะมองเห็นภาพที่มีสีสันสดใสและมีพลังกว่าเดิมด้วยเทคโนโลยี Mega Dynamic Contrast Ratio รวมทั้งระบบตอบสองความเร็วสูง ความละเอียดของภาพระดับ FHD และอัตราส่วนของภาพแบบ 16:9

“เมจิค รีเทิร์น (Magic Return)” ถือเป็นไฮไลท์ฟังก์ชันของมอนิเตอร์ซีรีย์ 50 เพราะช่วยย้ายข้อมูลทั้งหมดจากมอนิเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังมอนิเตอร์อีกเครื่องหนึ่งโดยอัตโนมัติ เมื่อเครื่องที่ใช้งานอยู่มีปัญหาขึ้นมาอย่างฉับพลัน และเรายังสามารถแก้ไข หรือใช้ข้อมูลนั้นๆได้แม้ว่าเราจะไม่ได้เชื่อมต่อหน้าจอสองเครื่องนี้เข้าด้วยกัน แต่ทั้งนี้ระบบนี้จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อเราใช้งานกับมอนิเตอร์สองเครื่องเท่านั้น

“ซัมซุง แอลอีดี มอนิเตอร์ ซีรีย์ 50 และ 35 ถือเป็นหนึ่งในคำมั่นสัญญาของเราที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพชั้นเยี่ยมและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้บริโภค เรายังคงมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า ซัมซุง แอลอีดี มอนิเตอร์ทั้งสองซีรีย์นี้จะช่วมเสริมทัพให้แข็งแกร่งในฐานะผู้นำในตลาดหน้าจอแอลอีดีระดับโลกได้อย่างแน่นอน”นายบุญเลิศ กล่าวสรุป

การเมือง

นายกรัฐมนตรีให้ กทม.ร่วมดูแลการชุมนุมใหญ่เสื้อแดง เน้นจัดจราจร (สำนักข่าวไทย)

          นายกรัฐมนตรีซักซ้อมความเข้าใจเจ้าหน้าที่ กทม. ให้ช่วยดูแลการชุมนุมใหญ่คนเสื้อแดง เน้นช่วยจัดจราจรและทำความเข้าใจกับประชาชน ย้ำต้องไม่เป็นคู่กรณีขัดแย้งกับใคร ยอมรับสิ่งที่กลัวที่สุดคือการสูญเสีย แต่ยังมั่นใจบริหารสถานการณ์ได้  

          นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุมร่วมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. และผู้อำนวยการเขตทั้ง 50 เขต วันนี้ ที่ทำเนียบฯ เป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง เพื่อรับทราบการประเมินสถานการณ์การชุมนุมทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตลอดจนซักซ้อมแนวทางปฏิบัติในการรับมือกับผู้ชุมนุม

          นายกรัฐมนตรี ย้ำว่ารัฐบาลและเจ้าหน้าที่ กทม. ถือว่าการรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นภารกิจหลัก ไม่เป็นคู่กรณีขัดแย้งกับใคร และไม่มีเป้าหมายปราบปรามการชุมนุมหรือการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เป็นสิทธิเสรีภาพของการชุมนุม ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทนอดกลั้นสูงสุด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์บานปลาย แม้มีแนวโน้มว่าคนบางกลุ่มมีความคิดที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง 

           "ภารกิจของเจ้าหน้าที่ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่จะต้องมีความพร้อมทุกด้าน ทั้งป้องกันเหตุและแก้ไข หากเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ขึ้น รวมถึงการดูแลอำนวยความสะดวก เนื่องจากอาจเกิดปัญหาการจราจรและการให้บริการประชาชน ซึ่งแต่ละฝ่ายได้แบ่งหน้าที่กันชัดเจนแล้ว" นายกรัฐมนตรี กล่าว 

           นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมวันนี้ได้ซักซ้อมการดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งกฎหมายปกติและกฎหมายความมั่นคง หากคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ประกาศใช้ ขณะเดียวกัน ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนที่อาจไม่ได้รับความสะดวกจากการปฏิบัติหน้าที่หรือการป้องกันเหตุของเจ้าหน้าที่ และหากประชาชนพบเหตุหรือมีอะไรผิดสังเกต ขอให้แจ้งข้อมูลและเบาะแสกับเจ้าหน้าที่ด้วย

           "ที่สำคัญขอให้ทำความเข้าใจกับประชาชนว่า ไม่ว่าจะมีความเห็นทางการเมืองอย่างไร อย่าได้นำตัวเองเข้าไปสู่ความขัดแย้งที่อาจนำไปสู่ความรุนแรงได้ เพราะหากความรุนแรงเกิดขึ้นแล้ว ความสูญเสียจะเกิดขึ้นกับทุกฝ่าย" นายกรัฐมนตรี กล่าว 

           นายกรัฐมนตรีขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก การเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ หรือการประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร เป็นเพียงการตั้งอยู่บนความไม่ประมาทเท่านั้น หากประชาชนให้ความร่วมมือก็ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล รัฐบาลและ กทม. จะช่วยกันดูแลให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ โดยทางออกที่ดีที่สุดขณะนี้ คือ พิสูจน์ให้คนไทยทั้งประเทศและชาวโลกได้เห็นว่า เรามีความคิดเห็นที่แตกต่าง และสามารถใช้สิทธิทางการเมืองโดยไม่ละเมิดกฎหมาย ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของระบอบประชาธิปไตย 

           "เราไม่สามารถทำให้ทุกคนเห็นตรงกันได้ ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถปล่อยให้ใครก็ตามใช้เรื่องความรุนแรงหรือการข่มขู่ เข้ามากำหนดอนาคตของประเทศ เพราะปัญหาจะไม่มีวันจบ และกลายเป็นวงจรที่ทำให้บ้านเมืองเราเสียหลัก" นายกรัฐมนตรี กล่าว

           อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีไม่พูดชัดว่าการดูแลความเรียบร้อยของการชุมนุมจะใช้เจ้าหน้าที่ของ กทม.จำนวนเท่าไร เพราะเกรงจะมีการนำไปเปรียบเทียบกับจำนวนผู้ชุมนุม บอกแต่ว่าเจ้าหน้าที่ กทม. จะเน้นบริหารการจราจรเพื่ออำนวยความสะดวก แนะนำเส้นทางต่าง ๆ ให้กับประชาชนและผู้ชุมนุม เพราะมีการเชิญชวนให้ประชาชนมาชุมนุมจำนวนมาก และนำยานพาหนะมาด้วย

           "ที่เน้นใน กทม.และปริมณฑล เนื่องจากมีการเชิญชวนให้เข้ามาชุมนุมใน กทม. เมื่อคนเข้ามามาก และมาเกี่ยวข้องกับการสัญจรทั้งทางบกและทางน้ำ จึงจำเป็นต้องดูแลสถานการณ์เป็นพิเศษ แต่ในต่างจังหวัดก็ได้ให้เตรียมความพร้อมไว้ด้วยเช่นกัน" นายกรัฐมนตรี กล่าว 

           นายกรัฐมนตรี ย้ำว่ามาตรการในการดูแลการชุมนุมจะมีเป็นขั้นเป็นตอน เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงจะต้องยึดหลักกฎหมายและหลักสากล การจะดำเนินการใด ๆ จะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะไม่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐ ไปใช้ความรุนแรงกับประชาชน จะไม่มีการเข้าปราบปราม โดยไม่มีเหตุที่ต้องไประงับ และจะหลีกเลี่ยงถึงที่สุด ไม่ให้เจ้าหน้าที่พกพาอาวุธ แต่จะมีอุปกรณ์ในการป้องกันตัวเอง 

           ต่อข้อถามว่า รัฐบาลประเมินสถานการณ์การชุมนุมครั้งนี้จะรุนแรงกว่าเดือนเมษายน 2552 ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้บอกเช่นนั้น บอกเพียงแต่ว่ามีคนบางกลุ่มต้องการเห็นความรุนแรง และสิ่งที่รัฐบาลทำทั้งหมดก็เพราะไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์เหมือนเดือนเมษายน 2552 และขอยืนยันว่ารัฐบาลจะบริหารสถานการณ์ให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง 

           เมื่อถามว่า มาจนถึงวันนี้กลัวหรือไม่ เพราะถูกหมายหัวในบัญชีดำของคนเสื้อแดง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "ผมไม่กลัว ผมอยู่ในบัญชีดำมานานแล้ว" และว่าสิ่งที่กลัวที่สุดในการชุมนุมใหญ่ครั้งนี้คือ กลัวเกิดความสูญเสีย เพราะทุกชีวิตมีค่า และไม่ควรมีใครต้องมาเสียชีวิต หรือสูญเสียกับสิ่งที่ความจริงแล้ว เราสามารถบริหารจัดการได้ 

           "นี่คือสิ่งที่ผมไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะเวลามีคนมาชุมนุมจำนวนมาก และมีคนที่มีเจตนาแอบแฝง ต้องการฉกฉวยโอกาส ก็จะมีความเสี่ยง แต่ขอยืนยันว่ารัฐบาลจะพยายามไม่ให้เกิดขึ้น ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศก็ไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสีย ดังนั้น ถ้าเราร่วมมือกัน เราจะรักษาความปกติและความสงบได้" นายกรัฐมนตรี กล่าว 

           อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีปฏิเสธที่จะให้ความเห็นว่า ผู้ที่มาชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาลอย่างเดียว หรือมีเป้าประสงค์อื่น โดยให้เหตุผลว่าคนที่จะมาชุมนุมมีจำนวนมาก แต่ละคนก็มาด้วยเหตุผลต่าง ๆ กัน จึงไม่สามารถสรุปได้ ส่วนถ้าสถานการณ์วุ่นวาย จะยุบสภาเพื่อให้เลือกตั้งใหม่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ถ้ายุบสภาแล้วเหตุการณ์สงบ เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ก็ไม่มีปัญหา แต่ปัจจุบันไม่มีสัญญาณว่าจะหยุดจากกลุ่มที่บอกให้ยุบสภา 

           ต่อกรณีที่การชุมนุมอาจกระทบกับการสมัครสอบเข้าเรียนต่อของนักเรียน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการแจ้งว่าจะเลื่อนการสอบออกไป เพื่อไม่ให้เป็นปัญหา แต่วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม ยังไม่ได้ประกาศเป็นวันหยุดราชการ รัฐบาลจะตัดสินใจตามสถานการณ์ ไม่ได้ตั้งธงไว้ล่วงหน้า

ความเหมือนของข่าวเศรษฐกิจกับข่าวการเมืองคือ เดินหน้าจัดทำโครงการแก้ไขปัญหาเหมือนกัน เพื่อให้กลุ่มของตนอยู่รอดเพื่ออำนาจในทางด้านต่างๆๆ ส่วนความต่างคือ ซัมชุงจะเดินหน้าพัฒนาสินค้าของตนให้เป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลกมากยิ่งขึ้นต่อไปเพื่อเงินตรา แต่การเมืองคือเอื้อผลประโยชน์ให้เพื่อนฝูงของตอนเองและเพื่อความอยู่รอดของสมาชิกที่ชอบชกชิงวิ่งราวของคนอื่นเขามาอย่างผิดศิลธรรมแต่ก็ไม่สะท้านเพราะการบริหารประเทศจะต้องมีความอดทนอดกลั้นในการทำงาน อย่างคำที่ว่า

ประชาชนต้อมาก่อน ?.......

คำสำคัญ (Tags): #หล่อ
หมายเลขบันทึก: 374258เขียนเมื่อ 12 กรกฎาคม 2010 12:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท