ในช่วงระหว่างวันที่ 24 มิถุนายน -8 กรกฎาคม 2553


ข่าวสารในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์

ในห้วงระหว่างวันที่ 24  มิถุนายน – วันที่ 8 กรกฎาคม 2553

        เรื่องที่ 1 เช้าวันนี้ (8 ก.ค.2553) ที่ ศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์  นายวิฑูรย์  ศิริบูลย์ภักดี  ปลัดจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้นำหัวหน้าส่วนราชการ ประชุมหารือกับนายฐากร  ธรรมประทีป  ผู้อำนวยการกองนิติการ สำนักราชเลขาธิการ เพื่อเตรียมการจัดพิธีมอบความช่วยเหลือพระราชทานแก่ราษฎร ที่ อำเภอท่าปลา  จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งกำหนดจัดพิธีขึ้นในวันที่  4 สิงหาคม   2553   เวลา 14.00 น. ที่   หอประชุมอำเภอท่าปลา  โดย พลอากาศเอกกำธน  สินธวานนท์  องคมนตรี จะเป็นประธานมอบสิ่งของพระราชทานแก่ราษฎร  500 ราย  นอกจากนี้ สำนักงานอัยการสูงสุด จะจัดหน่วยให้บริการ ให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย และแพทย์จากโรงพยาบาลรามาธิบดี  จะให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป และโรคฟัน แก่ราษฎรด้วย  ในวันเดียวกันนี้ ผู้อำนวยการกองนิติการ สำนักราชเลขาธิการ ได้ไปเยี่ยมผู้ที่ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานความช่วยเหลือ 4 ราย ซึ่งอาศัยอยู่ในเขตอำเภอเมืองอุตรดิตถ์, อำเภอลับแลและอำเภอท่าปลา เพื่อพิจารณาให้การช่วยเหลือเพิ่มเติมจากที่อำเภอและจังหวัดได้ช่วยเหลือไปแล้ว

             เรื่องที่ 2 เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2553 นางรัตนาวดี  ศิริภูล  ประกันสังคมจังหวัดอุตรดิตถ์  เปิดเผยว่า  สำนักงานประกันสังคมจังหวัดอุตรดิตถ์  จะจัดให้มีการประชุมชี้แจงให้ความรู้งานประกันสังคม ในจังหวัดอุตรดิตถ์ แก่นายจ้าง/ผู้ประกันตน และผู้เกี่ยวข้อง ในวันที่ 16 กรกฎาคม 2553 เวลา 08.30-16.00 น. ที่ ห้องสีหราชบอลรูม โรงแรมสีหราช  อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม 100 คน การจัดประชุมครั้งนี้ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้มีความรู้ ความเข้าใจในแนวปฏิบัติ หลักการของประกันสังคมและพัฒนาการประสานงานระหว่างสถานประกอบการ  สถานพยาบาล  สำนักงานประกันสังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งเพื่อสร้างจิตสำนึกตามพระราชดำริฯ หลักเศรษฐกิจพอเพียง   ให้ประชาชนในชุมชน  สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยมีนายโยธินศร์  สมุทรคีรีจ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์  เป็นประธานในพิธีเปิดและบรรยายสรุป ในหัวข้อ การพัฒนาสังคมและส่งเสริมคุณภาพชีวิตด้วยเศรษฐกิจพอเพียงและการแก้ไขปัญหายาเสพติด       

         เรื่องที่ 3 เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2553 สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้รับแจ้งจาก บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด สาขาอุตรดิตถ์ ว่า บริษัทกลางฯ จะจัดทำโครงการถนนปลอดภัยในสถานศึกษา  RVP  ROAD SAFETY  CAMP    ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2553 ที่ หอประชุมโรงเรียนทองแสนขันวิทยา  ตำบลบ่อทอง อำเภอทองแสนขันและวันที่ 16 กรกฎาคม 2553 ที่ หอประชุมวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุตรดิตถ์  อำเภอเมืองอุตรดิตถ์เพื่อให้ความรู้แก่นักเรียน  นักศึกษา   ได้มีความรู้เรื่องการขับขี่ปลอดภัย , ระเบียบกฎจราจร ,ความรู้เกี่ยวกับ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ  ,สาธิตและการฝึกการขับขี่ปลอดภัยในสนามจำลอง, สาธิตการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากรถโดยมูลนิธิอุตรดิตถ์สงเคราะห์    

      เรื่องที่ 4 เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2553 นายศุภชัย  เหลืองแสงทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์     เปิดเผยว่า จังหวัดอุตรดิตถ์ จะจัดโครงการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกเชิงรุกแบบบูรณาการทางคลินิกครอบคลุมทั้ง 9 อำเภอ  67 ตำบล  610 หมู่บ้าน 32 ชุมชน     ในระหว่างวันที่ 13-14 กรกฎาคม 2553  โดยอาสาพัฒนาปศุสัตว์ เครือข่ายเฝ้าระวังโรค ตรวจเยี่ยมเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกทุกราย และสอบถามอาการสัตว์ปีก เมื่อพบสัตว์ป่วยหรือผิดปกติสงสัยว่าจะเป็นโรคไข้หวัดนก     ให้แจ้งสำนักงานปศุสัตว์อำเภอ เพื่อตรวจสอบและเก็บตัวอย่างส่งตรวจทันที          จึงขอให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกทุกชนิด  ให้ความร่วมมือแก่เจ้าหน้าทีอาสาพัฒนาปศุสัตว์และเครือข่ายดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 13-14 กรกฎาคม 2553

         เรื่องที่ 5   เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2553 นายโยธินศร์  สมุทรคีรีจ์  ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์  เปิดเผยว่า   จังหวัด           ได้กำหนดจัดงานพบปะยามเช้า “สภากาแฟ” เป็นประจำทุกเดือน  ทุกวันพุธสัปดาห์ที่สองของเดือนตั้งแต่เวลา 07.00-08.30 น.  โดยเชิญชวนให้หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมกันหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพ เพื่อเป็นที่รวมพบปะของบรรดาหัวหน้าส่วนราชการ  หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ  นายอำเภอและหน่วยงานภาคเอกชนทุกแห่ง          เพื่อจะได้มีโอกาสพบปะพูดคุยหารือกันแบบไม่เป็นทางการ  ได้ประสานงาน         ในเรื่องต่าง ๆ และได้สร้างความสนิทสนมคุ้นเคยกันมากยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงาน สำหรับในเดือน กรกฎาคม 2553 ศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ จะเป็นเจ้าภาพจัด        “สภากาแฟ”ขึ้น  ในวันพุธที่ 14 กรกฎาคม 2553 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป ที่ บริษัทสยามพาณิชย์ลิสซิ่งจำกัด    สี่แยกหนองผา  อำเภอเมืองอุตรดิตถ์          จึงขอเชิญหัวหน้าส่วนราชการและภาคเอกชนเข้าร่วมงาน “สภากาแฟ” โดยทั่วกัน   

       เรื่องที่ 6 เมื่อวันที่ 1  กรกฎาคม 2553  นายโยธินศร์    สมุทรคีรีจ์    ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า เนื่องในวันต่อต้าน       ยาเสพติดประจำปี 2553 สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 6 คัดเลือก บุคคลและองค์กรที่มีผลงานดีเด่นด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ซึ่งจังหวัดอุตรดิตถ์มีบุคคลและองค์กรที่มีผลงานในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดประจำปี 2553 ดังนี้  บุคคลที่มีผลงานดีเด่นด้านการป้องกันยาเสพติด ประจำปี 2553 ได้แก่    นางภาวินี    ทานะ    ครูชำนาญการโรงเรียนอุตรดิตถ์ ผลงานด้านกิจกรรม  To Be Number One     ,องค์กรที่ผลงานดีเด่นด้านการป้องกัน        ยาเสพติด ประจำปี 2553  ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์, เครือข่ายพัฒนาชุมชน        คนอุตรดิตถ์, โรงเรียนอุตรดิตถ์ดรุณี, ชมรม  To Be Number One โรงเรียนอุตรดิตถ์  , บุคคลที่มีผลงานดีเด่น  ด้านการปราบปรามยาเสพติดประจำปี 2553 ได้แก่       พ.ต.ท. ไกรสิทธิ์  พรมปฏิมา      รองผู้กำกับการป้องกันและปราบปราม ส.ภ.ลับแล  ปฏิบัติราชการ  หัวหน้าฝ่ายอำนวยการ           ศตส.ภ.จว.อต. ,  องค์กรที่มีผลงานดีเด่น   ด้านการปราบปรามยาเสพติดประจำปี 2553 ได้แก่      กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์, ประเภทบุคคลดีเด่น ด้านการบำบัด ฟื้นฟู และพัฒนาผู้ติดยาเสพติด      ปี 2553 ได้แก่ นางรัตนาพร อินมา พยาบาลวิชาชีพ ชำนาญการ โรงพยาบาลอุตรดิตถ์  ,ประเภทองค์กร ด้านการบำบัด ฟื้นฟู และพัฒนาผู้ติดยาเสพติด ปี 2553 ได้แก่ กลุ่มงานจิตเวช โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ (คลินิกแสงส่องใจ)และประเภทบุคคล ด้านเยาวชน        ที่มีผลงานด้านการป้องกันยาเสพติด     ปี 2553 ได้แก่      นายเมธาวี  อะไรวรณ์ รองประธานชมรม To Be  Number One   โรงเรียนอุตรดิตถ์

     เรื่องที่ 7 เมื่อ วันที่ 30 มิ.ย.53 นายโยธินศร์ สมุนคีรีจ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ รับแจ้งจากชาวบ้านว่าจะมีกลุ่มขบวนการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ขนย้ายไม้ออกจากท้องที่ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ จึงได้สั่งการให้นายมงคล ขอร้อง ปลัดอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ และ พ.ต.นิพนธ์ แก้วบัวระบัติ รอง หน.กลุ่มงานข่าว กอ.รมน.จว.อ.ต.พร้อมเจ้าหน้าที่ฝายปกครอง กลุ่มงานข่าวฯและเจ้าหน้าที่ อส.ได้ออกไปดักซุ่มรถต้องสงสัยตามที่สายข่าวรายงานบริเวณ สามแยก บ.น้ำหลง หมู่ 4 ต.บ้านด่านนาขาม อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ บนถนนหลวงหมายเลข 11 ถ.สายอุตรดิตถ์-เด่นชัย-พิษณุโลก ซึ่งกำลังจะมุ่งหน้าไป จ.แพร่ พบรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ สีฟ้า ยี่ห้อโตโยต้า มีเครนพ่วงข้าง คลุมผ้าใบมิดชิด หมายเลขทะเบียน 81–2571 แพร่ โดยมีนายธีรภัทร์ อ่วยนอก อยู่บ้านเลขที่111 หมู่ 4 ต.บ้านเวียง อ.ร้องกวาง จ.แพร่ เป็นคนขับและรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ สีฟ้า ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน 80–9558 แพร่ มีนายอานุพงศ์ วันชัย อยู่บ้านเลขที่ 67 หมู่ที่ 4 ต.บ้านเวียง อ.ร้องกวาง จ.แพร่ เป็นคนขับรถคันดังกล่าว จึงได้สั่งหยุดรถเพื่อเข้าทำการตรวจสอบรถคันดังกล่าว พบไม้ท่อนจำนวน27 ท่อน ความยาวประมาณ3 เมตร ได้แก่ ไม้มะหาด ไม้ปันแผล ไม้เลือดควาย หรือ ไม้มะพร้าวนก ไม้มะเดื่อร่อง และ ไม้ทุเรียน จำนวน 31 ท่อน ความยาวประมาณ 3 เมตร ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 20 – 30 นิ้ว มีลักษณะใหม่สด รวมมูลค่าเกือบล้านบาท จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าไม้ดังกล่าวได้รับซื้อมาจาก นางคำ เครือฟั่น อยู่บ้านเลขที่ 49/2 หมู่ 7 ต.ฝายหลวง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ และ นาง อรพันธ์ เรืองพัฒนกุล อยู่บ้านเลขที่ 44/3 หมู่ที่ 2ต.ฝายหลวง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ จึงได้อายัตไม้ไว้ เพื่อทำการตรวจสอบ เนื่องจากไม่ทราบแหล่งที่มาของไม้และมีการตัดออกมาจากที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้อง หรือ อยู่ในเขตป่าสงวน จึงได้อายัดไม้ และ ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมส่งพนักงานสอบ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เพื่อรอการพิสูจน์ และ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป รายงานข่าวแจ้งว่ากลุ่มขบวนการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า มีการขนย้ายไม้กันอย่างต่อเนื่อง โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย เพราะมีเจ้าหน้าของรัฐบางกลุ่มรู้เห็นเป็นใจ และ ในการตรวจอายัดไม้ครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ดังกล่าวไม่เข้าร่วมตรวจอายัดไม้จำนวนดังกล่าว โดยไม่ทราบสาเหตุ

      เรื่องที่ 8  เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2553 ที่ผ่านมา มีข้าราชการ นักเรียน  นักศึกษา และประชาชน ชาวอุตรดิตถ์       ได้ร่วมกันเดินรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดสากล (26 มิ.ย.2553)              ขบวนรณรงค์  ได้ถือป้ายคำขวัญต่อต้านยาเสพติด เคลื่อนขบวนจากหน้าสถานีรถไฟอุตรดิตถ์ ไปยังสนามกีฬาพระยาพิชัยดาบหัก หน้าศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยนายศุภชัย  เหลืองแสงทอง  รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้เป็นประธานนำข้าราชการ  นักเรียน  นักศึกษาและประชาชน ประมาณ 10,000 คน ร่วมกันกล่าวปฏิญาณตน จะไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและร่วมกันขจัดยาเสพติด   ในโอกาสนี้ ได้มีการแสดงของคณะทูบีนัมเบอร์วัน โรงเรียนอุตรดิตถ์ดรุณี ให้ชมด้วย      

       เรื่องที่ 9  เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2553 ที่ผ่านมา นายระเมียน จันทร์ดำ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นาอิน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีโรงงานรับซื้อสุนัขมาตั้งดำเนินการในพื้นที่ตำบลนาอิน 3-4 โรงงาน โดยผู้ประกอบการจะออกรับซื้อสุนัขจากหมู่บ้านทั่วไปตัวละ 200-300 บาท บางรายก็แลกด้วยเครื่องใช้พลาสติก บางรายก็จับสุนัขจรจัดทั่วไป บางครั้งก็จับสุนัขพันธ์ดีที่มีเจ้าของ เมื่อเจ้าของออกติดตามก็พบว่าถูกจับขังรวมอยู่กับสุนัขตัวอื่นอยู่ที่โรงงานดังกล่าว จนมีเรื่องราวเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง       แต่ล่าสุดขณะนี้มีโรงงานดังกล่าวเหลือเพียง 1 แห่งเท่านั้น ซึ่งตนเองจะเข้าไปเจรจาว่า ขอให้หยุดรับซื้อสุนัขและถอนโรงานออกไป เนื่องจากสร้างความเสียหายให้กับ ต.นาอิน และชื่อเสียงของจังหวัดอุตรดิตถ์ เพราะสังคมทั่วไปมองว่า ต.นาอิน เป็นตำบลที่รับประทานสุนัข       ทั้งที่ความจริงโรงงานดังกล่าวได้รับซื้อสุนัขในพื้นที่ใกล้เคียงและส่งไปขายต่อในจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีกลุ่มคนนิยมรับประทานเนื้อสุนัข และจำหน่ายให้กับประเทศเพื่อนบ้านมากกว่า

      เรื่องที่ 10 เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2553  พ.ต.ท.ธเนศธ์ กาญจนพังคะ รอง ผกก.ป.สภ.พิชัย พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ 10 นาย ได้นำหมายศาลเลขที่ 526/2553 ลว.2 ก.ค.53 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 55/3 หมู่ที่ 1 ตำบลในเมือง อำเภอพิชัย หลังจากได้ให้สายทำการล่อซ้อยาบ้าจากนายสุชิน พลิกศรี อายุ 30 ปี ที่บ้านดังกล่าว หลายครั้ง ในราคาเม็ดละ 300 บาทจากตรวจค้นภายในบ้าน พบยาบ้าในกระเป๋าสตางค์สีขาว-ดำ ซุกไว้ใต้ที่นอน และในกระเป๋ากางเกงที่แขวนไว้ภายในห้องนอนรวม 64 เม็ด นอกจากนั้นยังพบอาวุธปืนลูกซองสั้นชนิดไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก กระสุน 13 นัด, กระสุนปืนขนาด 9 มม.24 นัด, กระสุนปืนขนาด จุด 38 อีก 50 นัด, กระสุนปืนขนาด 38 ซุปเปอร์ อีก 44 นัด พร้อมโพยหวนใต้ดินซึ่งมีเงินหมุนเวียนกว่าแสนบาทในแต่ละงวดโดย นายสุชิน รับว่า กระสุนปืนและอาวุธปืน เป็นของแม่ภรรยา เจ้าหน้าที่จึงให้นำเอาเอกสารมาแสดง และในเวลาต่อมาแม่ภรรยา ซึ่งเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่ อำเภอพิชัย ตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างได้มาที่ สภ.พิชัย และได้พูดคุยกับผู้ต้องหา แต่ก็ไม่ได้นำเอาเอกสารมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ก่อนที่จะเดินทางกลับไป จากนั้น นายสุชิน ก็รับว่า ทั้งยาบ้าและอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนปืนและโพยหวยเป็นของตนเองที่ลูกค้าโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นในเขตอำเภอพิชัย นำมาแลกยาบ้าเอาไปเสพ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหาส่ง พ.ต.ท.บุญเสริม สิทธิถาวร พงส.สบ 3 ดำเนินคดีข้อหา มีอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมียาเสพติดประเภท 1 ไว้ในครอบครองไว้เพื่อจำหน่าย

       เรื่องที่ 11  เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. นายวิฑูรย์ ศิริบูลย์ภักดี ปลัดจังหวัดอุตรดิตถ์ ร่วมกับ พล.ต.ต.พิเชษฐ วัฒนลักษณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ (ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์) แถลงข่าวปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติด เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก 26 มิ.ย. ตามแนวทาง มหาดไทย Clean&Seal ทำความดีเพื่อแผ่นดิน กวาดล้างให้สิ้นยาเสพติด ระหว่าง 4-24 มิ.ย. โดยในภาพรวม จ.อุตรดิตถ์ จับกุมคดียาเพสติดได้ 51 คดี ผู้ต้องหา 53 คน จับกุมคดีผู้ค้ายาเสพติด/ผู้ผลิตที่เป็นเครือข่ายรายใหญ่หรือผู้ต้องหาราย สำคัญได้จำนวน 2 คดี ผู้ต้องหา 3 คน ผู้ค้ารายย่อย 23 คดี ผู้ต้องหา 23 คน จับกุมข้อหายาเสพติด 27 คดี ผู้ต้องหา 27 คน การจับกุมคดียาเสพติดตามหมายจับค้างเก่า 1 คดี ผู้ต้องหา 1 คน นอกจากนี้การดำเนินการจัดระเบียบสังคม 9 อำเภอ ทั้งการตั้งจุดตรวจ จรวจสถานบริการ ตรวจหอพัก/เกมส์/อินเตอร์เน็ต ผลจับกุมในสถานบริการ 1 ราย ผู้ต้องหา 1 คน และโรงแรม 2 ราย ผู้ต้องหา 3 คน ส่วนของกลางที่ได้ยึดเป็นของกลางภาพรวมเป็นกัญชา 24 กรัม ผู้ต้องหา 2 คน กระท่อม 20 กรัม ผู้ต้องหา 1 คนและยาบ้า 2,722 เม็ด ผู้ต้องหา 53 คน สำหรับการจับกุมครั้งสำคัญได้มีการจับกุมผู้ค้าที่ข้ามมาจากฝั่ง สปป.ลาวด้าน พล.ต.ต.พิเชษฐ กล่าวว่า สำหรับมาตรการปราบปรามยาเสพติดของตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ ขณะนี้ได้สั่งการทุกพื้นที่ตั้งด่านตรวจโดยเฉพาะพื้นที่ที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน คือ สปป.ลาว ซึ่งก็ได้มีการเข้มงวดเป็นอย่างมาก มีการตรวจค้นยาเสพติด รถที่ต้องสงสัยว่าจะมีการขนย้ายยาเสพติด ตลอดจนการตรวจสอบบัตรประชาชนผู้ที่จะเข้ามาในพื้นที่ทางด้านชายแดน ว่าเป็นบุคคลที่มาจากเพื่อนบ้านหรือไม่ มีพฤติกรรมค้ายาเสพติดมาก่อนหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีการจับกุมผู้ค้าที่ชายแดนลาว ซึ่งมีข้อมูลด้านเครือข่ายผู้ค้าแล้วว่าเป็นใครบ้าง แต่ไม่ขอเปิดแก่สื่อมวลชน ต้องขอให้เป็นความลับของทางราชการก่อน ทั้งนี้ ได้ให้ข้อมูลกับทางจังหวัดเพื่อประสานกับทางแขวงไชยะบุรี สปป.ลาวให้ชุดปราบปรามยาเสพติดฝั่งลาวได้ทราบข้อมูลว่าคนของเขามีใครบ้างที่ นำยาเสพติดมาขายในฝั่งไทย และขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า ฝั่งประเทศลาวเป็นผู้ผลิต หากสามารถดำเนินการได้เป็นผลสำเร็จก็จะมีการแถลงผลการดำเนินการต่อไปผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดจังหวัดอุตรดิตถ์ จะจัดกิจกรรมวันต่อต้านยาเสพติดโลก ในวันจันทร์ที่ 28 มิ.ย. ที่สนามกีฬาพระยาพิชัยดาบหัก โดยจัดให้มีการเดินรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด ภายใต้คำขวัญ ไทยเข้มแข็ง ชนะยาเสพติด ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เริ่มจากหน้าสถานีรถไฟอุตรดิตถ์ โดยมีกลุ่มเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ข้าราชการ ผู้ประกอบการ พลังประชาชนและพลังเครือข่ายต่างๆ สิ้นสุด ที่ สนามกีฬาพระยาพิชัยดาบหัก ในเวลา 08.49 น. นายโยธินศร์ สมุทรคีรีจ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ จะเป็นประธานในพิธีเปิดกรวยดอกไม้ถวายราชสักการะพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พร้อมกับกล่าวนำปฏิญาณตน หลังจากนั้น ชมการแสดงกิจกรรมต่อต้านยาเสพติด ชมรม To Be Number One โรงเรียนอุตรดิตถ์และอุตรดิตถ์ดรุณี จึงขอเชิญชวน กลุ่มเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ข้าราชการ ผู้ประกอบการ พลังประชาชนและพลังเครือข่ายต่าง ๆ เดินรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด โดยพร้อมเพรียงกัน.

      เรื่องที่ 12 เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2553 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีชาว ต.ป่าเซ่า อ.เมืองอุตรดิตถ์ และต่างจังหวัด ได้พากันเดินทางไปที่บ้านทุ่งเศรษฐี หมู่ 7 ต.ป่าเซ่า เพื่อบูชาน้ำทิพย์ ที่มีสีทอง รสชาติเหมือนน้ำทั่วไป ที่ถูกค้นพบพร้อมกับวัตถุโบราณเครื่องใช้ภาชนะเครื่องปั้นดินเผา หม้อดินหลากหลายขนาด เตาเชิงกราน อาวุธปืนโบราณ และเครื่องสัมฤทธิ์ อายุ 200-400 ปี ยุคสมัยกรุงศรีอยุธยาต่อเนื่องกรุงรัตนโกสินทร์ ที่บริเวณบึงกะโล่ ต.ป่าเซ่า ซึ่งต่อมามีราษฎรนำน้ำไปดื่มแล้วอ้างว่า หายจากอาการป่วยต่างๆนายไพศาล ธัญญาวินิชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) อุตรดิตถ์ ได้ออกมาระบุว่า หลังส่งเจ้าหน้าที่นำตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบวิเคราะห์ที่ห้องแล็บ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่ 9 จ.พิษณุโลก พบว่า มีสารที่เป็นอันตรายต่อคนจำนวน 3 ชนิดคือ แสต๊ปออเรียส เป็นเชื้อโรคที่ทำให้เกิดฝีหนองตามผิวหนัง หากมีผสมในอาหารจะทำให้อาหารเป็นพิษ เชื้ออีโคไลมีอยู่ในน้ำมากถึง 23 ทั้งที่ควรมี 2.2 โคโลเวียและโคลิฟอร์ม ซึ่งไม่ควรพบอยู่ภายในน้ำเลย แต่ก็มีปนเปื้อนอยู่  ทั้งนี้ ทั้งอีโคไล และ โคลิฟอร์ม เป็นเชื้อแบคทีเรียที่เกิดจากของเสียในร่างกาย และเป็นเชื้อโรคที่ออกจากระบบขับถ่ายของมนุษย์ จึงไม่ควรนำมาอุปโภคบริโภค  “ที่สำคัญ ยังมีการตรวจพบแร่ธาตุสนิมเหล็กจำนวนมากถึง 7.95 ทั้งที่ควรมีอยู่ในน้ำแค่ 0.3”สสจ.อุตรดิตถ์ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่พบภายในน้ำของบ่อดินที่ชาวบ้าน เชื่อว่า เป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้ถือว่ามีอันตรายมาก จึงได้ออกหนังสือแจ้งให้ฝ่ายคุ้มครองผู้บริโภค (คบ.) ประจำ สสจ.อุตรดิตถ์ นำเจ้าหน้าที่ออกไปแจ้งเตือนให้ทางวัดทุ่งเศรษฐี และชาวบ้านได้รับทราบถึงพิษภัยจากน้ำดื่มชนิดนี้ โดยสั่งให้งดจำหน่ายหรือจ่ายแจกแก่ประชาชนทั่วไปที่เข้ามาร่วมทำบุญภายในวัด หากฝ่าฝืนจะต้องมีการนำเอากฎหมายมาบังคับใช้ “เราจำเป็นต้องป้องกันเรื่องความเชื่อในทางที่ผิด เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนได้รับอันตรายจากการดื่มน้ำที่มีเชื้อโรคร้ายนี้เข้าไป เพราะเมื่อดื่มเข้าไปจะมีการแบ่งตัวออกจากกันเป็นจำนวนมาก และหากเข้าไปอยู่ภายในร่างกาย ก็จะมีอันตรายต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาวด้วย” สสจ.อุตรดิตถ์ ระบุ

     เรื่องที่ 13 เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2553  พระณรงค์ชัย ปัญญาพโล รักษาการเจ้าอาวาสวัดทุ่งเศรษฐี หมู่ 7 ต.ป่าเซ่า อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า หลังจากชาวบ้านค้นพบวัตถุโบราณ เครื่องใช้ภาชนะเครื่องปั้นดินเผา หม้อดินหลากหลายขนาด เตาเชิงกราน อาวุธปืนโบราณ และเครื่องสัมฤทธิ์ อายุ 200-400 ปี อยู่ในยุคสมัยกรุงศรีอยุธยาต่อเนื่องกรุงรัตนโกสินทร์ ที่บริเวณบึงกะโล่ ต.ป่าเซ่า ชาวบ้านนำมารักษาไว้ที่วัดทุ่งเศรษฐี ได้มีชาวบ้านที่ทราบข่าวทั้งในและต่างจังหวัดต่างพากันเดินทางมาชม และบูชาวัตถุมงคลต่างๆ อย่างเนื่องแน่นขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่จากกรมศิลปากร จ.สุโขทัย ที่ทราบข่าว ได้เข้ามาทำการตรวจสอบวัตถุโบราณที่ค้นพบแล้ว พร้อมทั้งจะขอนำไปตรวจสอบ เพื่อขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องอีกครั้ง แต่ประชาชน และกรรมการวัดทุ่งเศรษฐีไม่ยินยอม ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรอ้างว่าหากไม่ยอมจะมีความผิดทางวัดจึงไปหารือกับผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.อุตรดิตถ์ ก็ได้รับการยืนยันว่าไม่ผิดกฎหมาย ชาวบ้านจึงร่วมกันล่ารายชื่อเพื่อขอคัดค้านไม่ให้กรมศิลปากรนำไปจากวัดนายถมยา สุวรรณทา กรรมการวัดทุ่งเศรษฐี กล่าวว่า ทุกวันนี้ชาวบ้านได้จัดเวรยามเพื่อเฝ้าระวังบุคคลภายนอกที่อาจแฝงตัวมากับประชาชนที่มาดูวัตถุโบราณมาขโมยของมีค่าภายในวัดกันเอง และมีมติแล้วว่า จะไม่นำของโบราณทั้งหมดมอบให้กับกรมศิลปากร หากต้องการมาตรวจหรือขึ้นทะเบียนก็มาดำเนินการที่วัด ห้ามนำสิ่งของออกจากวัดไป นอกจากนี้ชาวบ้านจะทำการสมทบทุนและขอบริจาคเงินจากบุคคลภายนอก เพื่อสร้างพิพิธภัณฑ์เก็บรักษาไว้ เพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดอุตรดิตถ์อุตรดิตถ์แห่งใหม่ต่อไป
ทั้งนี้ ในช่วงวันเสาร์ และอาทิตย์ จะมีประชาชนจากทุกสารทิศ เดินทางมาชมวัตถุโบราณดังกล่าว บางคนก็ยังขอน้ำทิพย์ที่มีสีทอง รสชาติเหมือนน้ำดื่มทั่วไปจากวัดไปดื่ม โดยไม่ฟังคำเตือนของสาธารณสุขออกมาเตือนว่า ไม่ควรดื่ม เพราะน้ำในพื้นที่ดังกล่าวน้ำมีฟลูออไรด์ และเหล็กปนเปื้อนอยู่หากดื่มเข้าไปอาจจะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้

 

 

หมายเลขบันทึก: 373125เขียนเมื่อ 8 กรกฎาคม 2010 19:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน 2012 02:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท