E1+E2

ทดลองเด็กครับ

การทดลองใช้แบบ 1:1 จำนวน 3 คน 

ผลปรากฏว่า ในการทำแบบทดสอบระหว่างเรียน นักเรียนทั้ง 3 คนสามารถทำแบบฝึกหัดระหว่างเรียน ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ได้

 ตารางแสดงผลการวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของสื่อนวัตกรรมการศึกษา

เรื่อง   มาตราตัวสะกด  แม่กง  แม่กบ  แม่กม

สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่  ๓

นักเรียน	คะแนนแบบฝึกหัดระหว่างเรียน									คะแนนรวม	Pretest ก่อนเรียน	Posttest หลังเรียน
	1	2	3	4	5	6	7	8	9	51	30	30
	(8)	(5)	(4)	(5)	(4)	(5)	(5)	(5)	(10)
1.ด.ช.อนันตสิทธิ์	8	5	4	5	4	5	5	5	10	51	26	28
2.ด.ช.เพชร	8	4	4	5	3	5	4	5	8	46	26	26
3.ด.ญ.กานต์มณี	8	5	4	2	4	4	5	3	10	45	25	27
รวม										142	77	81
เฉลี่ย										47.33	25.67	27

การหาประสิทธิภาพของนวัตกรรม

สูตร   E1 =      S x  × 100

                      (N)
                        A
E1            =  ประสิทธิภาพของกระบวนการ    
S x           =  ผลรวมของคะแนนแบบฝึกหัดที่ผู้เรียนทำได้
N             =  จำนวนผู้เรียน                                
A             =  คะแนนเต็มของแบบฝึกหัด

  E2 =      S x   ×  100
                 (N)
                  B

E2           =  ประสิทธิภาพของผลลัพธ์
Sx           =  ผลรวมของคะแนนแบบทดสอบหลังเรียนที่ผู้เรียนทำได้
N             =  จำนวนผู้เรียน
B             =  คะแนนเต็มของแบบทดสอบหลังเรียน

 การคำนวณ

 E1 =     คะแนนเฉลี่ย  ×  100     
              คะแนนเต็ม

คะแนนเฉลี่ย   = คะแนนรวมของคะแนนแบบฝึกหัดระหว่างเรียน
                              จำนวนนักเรียนที่ใช้ทดลอง

E1 =   47.33 × 100   
            51     
     =  92.80

E2 =     คะแนนเฉลี่ย × 100     
             คะแนนเต็ม

คะแนนเฉลี่ย   =  คะแนนรวมของคะแนนหลังเรียน
                         จำนวนนักเรียนที่ใช้ทดลอง

E2 =     27 × 100    
            30
      = 80

E1/E2 = 92.80 / 80

สรุปผล

    จากการหาประสิทธิภาพ ที่ตั้งไว้ 80/80 ผลการทดลองใช้นวัตกรรมได้ 92.80 / 80
สรุปได้ว่า ประสิทธิภาพของนวัตกรรมสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ แสดงว่า สื่อนวัตกรรมการศึกษา เรื่อง  มาตราตัวสะกด แม่กง แม่กบ แม่กม   
     สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่  ๓  มีประสิทธิภาพสามารถนำไปใช้ในการเรียนการสอนได้