บทสนทนา......คนจร...ยอดหญ้า..จิ้งหรีด!


พูดกันฉันท์เพื่อน.....ระหว่างการเดินทาง....ข้าพเจ้าดุ่มเดิน...ต่อ ชวนทุกท่าน..ลุกก้าวเดิน!

          ลมไหวมาวูบหนึ่ง....ความอบอ้าวยามค่ำคืนยังคงโรยตัวปกคลุมทั่วทั้งบริเวณ   คนจร...นั่งนิ่งปล่อยให้สายลมอันแผ่วเบาปะทะหน้าอันแห้งผาก...ไร้เรี่ยวแรง...โลมไล้เส้นผมบางๆที่พอมีบ้างให้พลิ้วไหว..ประหนึ่งสาวน้อย 16-17 ปีโลดแล่นบนฟลอร์เต้นลำ...ตามงานวัดก็มิปาน...ทอดกาย  ณ..ข้างกระท่อมน้อยเปลี่ยวร้างอันเป็นที่เอนกายหลับนอนพักผ่อนยามค่ำคืน

           ค่อนคืน...ดึกแล้ว..เสียงหริ่งหรีดเรไรร้องก้องระงมประหนึ่งนักร้องประสานเสียงวงออร์เคสตร้า...โอเปร่าเฮาส์ยังไงยังงั้น....ร่วมกันขับขานบทเพลงบอกเป็นนัยๆของคนไกลบ้านถามข่าวสาวคนรัก...ด้วยท่วงทำนองฮอดอ้อนเอาใจถึงคนรักที่จากมาช้านาน.....สะกดอารมณ์ของผู้คนโสด(โฉด)...ให้ยิ่งถลำลึกคิดถึงนวลนางผู้เป็นแรงใจ...มิสร่างซา.. โดยเฉพาะ...ไอ้คนจร..ผู้มีใบหน้าเป็นอาวุธ!  มัน...พลางนึกชมตัวเอง..ที่ไม่ไร้วาสนาเกินไปนัก...นั่งบนยอดหญ้าอันนุ่มนิ่มแทนเก้าอี้นวมตัวใหญ่ที่นุ่มกว่าซึ่งมิใช่ของมัน!....ฟังบทเพลงเสียงประสานที่มีธรรมชาติเป็นผู้รังสรรค์...นิ่งรับรู้เรื่องราวยามค่ำคืนของเจ้ากระบอกเสียงนั่น..ตั้งใจจะบอกผ่าน...เจ้า!บรรดาผู้มีบ้านอันใหญ่โต...นอนบนที่นอนอันนุ่มนิ่ม..ห้องแอร์คอนดิชั่น..น่าสงสาร...หาได้รับรู้เรื่องเหล่านี้ไม่..กลับเป็นเรื่องน่าเศร้าใจ!

          บทเพลงประสานเสียงถามข่าวคนไกล...ยังคงลื่นไหลไปตามท่วงทำนองฮอดอ้อนเอาใจ...สายลมวูบไหวผ่านใบไผ่ให้พลิ้วไหวหวีดหวิว....สอดรับเสียงประสานได้อย่างลงตัว    เจ้าคนจร...เปลี่ยวเหงาไร้ผู้คนทวงถามความเป็นไป....

          ฝนเม็ดน้อยโบกมือลาท้องฟ้างามหลายวันแล้ว.....อากาศอบอุ่นเกือบร้อนยังคงแผ่ปกคลุ่มทั่วทั้งบริเวณ...นานๆจักมีลมร้อนวูบหนึ่งปะทะหน้าเจ้าคนจรอันเหม่อลอยนั่น...หากแต่มันมิได้สนใจอันใดดอก!  หากเพราะเรื่องราวที่มันครุ่นคิด...ทำให้มันหลงลืมห้วงปัจจุบันกาลไปชั่วขณะจิตหนึ่ง  พลางเอามือค้ำยันพยุงร่างกายอันผอมโซ..ล้มตัวนอนบนยอดหญ้า...สายตามองฟ้า....สงสัยในโชคชะตาของตัวมันเอง....

          “เจ้าคนหนุ่ม...ผู้มีร่างกายอันผอมโซ   เหตุใดเจ้าจึงล้มนอนข้างกายข้า...ประหนึ่งโคแก่สิ้นไร้เรี่ยวแรง...”

           “หือ..ข้าหรือไร้เรี่ยวแรง...หึหึ”  เจ้าคนจรตอบ “คงเป็นเช่นนั้น...หากแต่มิใช่ข้าไร้เรี่ยวแรงเพียงอย่างเดียวดอกที่ทำให้ข้าทอดกายหายใจแผ่วเบาเปลี่ยวเหงามองฟ้าหาดาวอยู่ ณ  ที่แห่งนี้...หากแต่..เป็นก้าวต่อไปดอกที่ทำให้ข้าครุ่นคิด..เสมือนท้องฟ้าในคืนนี้...ไร้แสงดาวส่องนำทาง..ข้าไม่รู้จักก้าวเดินทิศทางไหนต่อ...แล้วเจ้า...เป็นใคร”

           ลมอ่อนๆลูบไร้ไปตามร่างที่ผอมโซบนยอดหญ้า พอให้ความร้อนได้ผ่อนคลาย  นักร้องเสียงประสานยังคงทำหน้าที่ตัวเองมิหยุดหย่อน  ท่วงทำนองเร่งเร้าประหนึ่งกองชุดรั่วประโคมขณะเชิดสิงโตหนุ่มกระโจนตามลูกแก้วใส

          “ข้าหรือ.....หนึ่งในนักร้องเสียงประสาน..ที่ขับกล่อมผู้คนเช่นเจ้าให้หลับใหลยามค่ำคืนก็ยังไง...เหตุไฉน...พื้นดินอันกว้างใหญ่เจ้าไม่ก้าวเดิน...สะพายเป้แห่งความหวังและความฝันเจ้าดุ่มเดินต่อ! ไฉน..เจ้าปล่อยให้แผ่นหลังอันหยาบกร้านทับถมให้ยอดหญ้าเคืองแค้น! หรือ..แผ่นดินกว้างใหญ่..ไม่มีที่ให้เจ้าก้าวเดิน..เจ้าคนหนุ่มเอ๋ย....” 

            “เจ้า!จิ้งหรีดน้อย.....เจ้าจะรู้อะไร...วันๆเจ้าก็รอแต่ยามค่ำคืนจะกรายมา  แล้วเฝ้าโก่งคออันแสนสั้นเตี้ยนั้นของเจ้าตะเบ่งอวดอ้างเสียงไม่แน่ว่าจะแหบแห้ง.....แทะเล็มน้ำค้างยอดหญ้ายามเช้า...เรื่องของคนอย่างข้ามีหรือเจ้าจักเข้าใจ...เจ้าจิ้งหรีดคอสั้นเอ๋ย...หุหุ.”

         เจ้าจิ้งหรีดน้อยครุ่นคิด....ขยับปีกน้อยพลับๆปล่อยให้เพื่อนพ้องน้องพี่ขับขานบทเพลงลำนำของคนเศร้าใจต่อ...พลางขมวดหนวดยาวเข้าหากันตาเบิกโพลง  กลิ้งกลอกไปมา...สงสัยในถ้อยคำเจ้าคนตัวใหญ่ผอมโซ...

         “เจ้าคนตัวใหญ่ผอมโซ..โลกของเจ้ามีอะไรให้ครุ่นคิดหรือ....มันยุ่งยากเสียจนข้าจักไม่เข้าใจเชียวหรือ....”

         “เจ้าจิ้งหรีดน้อยผู้อ่อนต่อโลกเอ๋ย...เจ้าไม่รู้หรอก...ข้าดุ่มเดินอยู่ในดงของคนบาป  เจ้าไม่เคยได้ยินหรอกหรือ....พวกเขาใช้ปากสวดมนต์ขอพร..แต่ก็ไม่กริ่งเกรงที่จะใช้ปากเดียวกันสาปแช่งก่นด่าผู้อื่น..แย่งชิงของคนอื่น..โดยไม่นึกละอาย   มั่วอบายกามกิเลสโดยไม่เคยมีมาก่อน....ผิดลูกผิดเมียคนอื่นดูเป็นเรื่องปกติของผู้คนในย่านนี้.....ผู้คนหลงลืมศีลธรรมอันดีงามไต้ฟ้าที่งดงามนี้  พวกเขาพร่ำสอนลูกหลานของตัวเอง...ให้ยึดมั่นในความดีขณะที่มือยังฉกฉวยของคนอื่น....ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เริ่มเหือดหายไปพร้อมกับสายลมและแสงแดดตอนสายๆ ...อ่า..ข้าคงพูดมากไปแล้วจริงๆ”

          สายลมแผ่วๆ...เจ้าคนจรผอมโซ..ยันกายจากยอดหญ้าที่รองรับผิวกายอันหยาบกร้านนั้น...พลางยันกายให้ยืนตรง...ก้าวเท้ายาว.....ลับหายในกระท่อมร้างเปลี่ยวเหงาหลังเดิม...

           ร่างผอมโซ..หายไปพร้อมกับคำถามของเจ้าจิ้งหรีดน้อยที่ขนหนวดตั้งชูชัน...หวาดกลัวต่อเรื่องราว...สิ่งที่เจ้าคนจรผอมโซได้บอกกล่าวช่างน่ากลัว....พลางเอ่ย...เบาๆ

“เจ้าต้องโกหกข้าแน่ๆเลย...เจ้าคนจร!”

(ขออภัย...ที่ทำให้ต้องเสียเวลาอ่าน...เขียนบันทึกเล่นๆครับ” (ค่ำคืนที่..ฟ้าไร้ฝน)

หมายเลขบันทึก: 370553เขียนเมื่อ 29 มิถุนายน 2010 20:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

  • มาขอบคุณที่เข้าไปทักทายครับ
  • ฝันดีครับ

 

  • ชีวิตคือการเดินทาง  เราต่างเป็นนักแสวงหา...
    บางคนอาจมีเป้าหมายให้ไขว่คว้า   ขณะที่ใครบางคนอาจเดินไปข้างหน้า
    โดยไม่มีจุดหมายหรือความหวังในชีวิต...
  • มาเป็นกำลังใจให้คนจร...ก้าวเดินต่อไปค่ะ
  • สวัสดีค่ะ
  • แวะมาทักทายด้วยความระลึกถึง สบายดีนะคะ
  • วันนี้บุษราได้นำภาพดอกไม้สวย ๆ มาฝากกันค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ

                         

...แวะมาขอบคุณที่เข้าไปอ่านคำสอนของหลวงพ่อชา

...ขอเป็นกำลังใจในการเดินทาง

สวัสดีค่ะ

...แวะมาขอบคุณที่ไปเยี่ยม...

และขอชื่นชมว่า..คุณสร้างสรรคฺเรื่องราวได้น่าอ่านมากนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท