เมื่อเรามาทำวิจัยในพื้นที่อำเภออุบลรัตน์ มาแลกเปลี่ยนดูงานเกษตรกรรมยั่งยืน มาคุยกับผู้ป่วยเอดส์ เรามักจะเห็นถุงใส่ปลาหางนกยูงวางขาย แจก และในหมู่บ้านหลายแห่งเราพบกลุ่มเด็กเยาวชนเพาะปลาหางนกยูงกันอย่างสนุกสนาน เพาะขายด้วยมีรายได้เข้ากลุ่ม หมอทั้ง 2 บอกเราว่าปลาหางนกยูงถูกเพาะเอาไปเป็นทำการจัดการปัญหายุงลายในหมู่บ้านอย่างได้ผลอย่างมาก หมอได้จัดตั้งกลุ่มเยาวชนรักถิ่นขึ้นทุกหมู่บ้านให้เด็กเหล่านี้นำปลาหางนกยูงที่เพาะง่าย โตเร็วนำไปแจกจ่ายกัน บ้างกลุ่มขายถุงละ 1 /2บาท ที่โรงพยาบาลอุบลรัตน์ขายถุงละ 2 บาทมีปลาอยู่เกือบ 20 ตัว ที่นี่สารเคมีที่ชื่อ ทรายอะเบด เขาไม่ต้องใช่เลย หมอบอกว่าราคาแพง มีกลิ่นเหม็น ชาวบ้านไม่ชอบ แต่ปลาหางนกยูงไปปล่อยที่ไหนก็ได้ เด็กๆแข่งกันเพาะ และแจกจ่าย มีเงินเข้ากองทุนเด็กรักถิ่นหลายหมู่บ้าน หลังจากปลอดปัญหาเรื่องยุงลายไข้เลือดออกแล้ว งานของกลุ่มเด็กรักถิ่นหันว่าจัดการกับปัญหาขยะกันทุกหมู่บ้าน กุศโลบายที่ใช้ที่นี่น่าสนใจ ผมเอากลับมาใช้ที่บ้าน อาทิตย์เดียวยุงหายหมด แต่ปลาหางนกยูงเพิ่มขึ้นมากมาย ภูมิปัญญาง่ายๆนี้น่าจะเป็นทางออกหนึ่งที่ควรได้นำมาใช้แก้ปัญหาไข้เลือดออกยุงลายจริงๆในทุกพื้นที่
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย สันติชน ใน สมานฉันท์เพื่อสันติสุข
ขอชื่นชมทีมงานสุขภาพ อ.อุบลรัตน์ ครับ ผมมองว่าการดำเนินงานในลักษณะเช่นนี้เนียนจริง ๆ ครับ "ปลาหางนกยูงราคาถูก ๆ กับเด็ก ๆ" เป็นอะไรที่ลงตัวมาก ผมจะนำไปเล่าให้ชุมชนฟัง ขอบคุณพี่ด้วยครับที่นำมาถ่ายทอดไว้นะครับ